ในโลกการทำงานยุคปัจจุบัน พบว่าคนรุ่นใหม่ในไทยกำลังมองหางานที่ให้มากกว่าเพียงแค่รายได้ โดยพวกเขาให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต วัฒนธรรมองค์กร และโอกาสในการเติบโตในอาชีพ ซึ่งบริษัทในประเทศไทยเองก็อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ได้มากเท่ากับบริษัทข้ามชาติ
ดังนั้น บริษัทข้ามชาติ จึงกลายเป็นทางเลือกสำคัญ ด้วยโครงสร้างการบริหารที่ยืดหยุ่นกว่า แนวคิดแบบสากลที่เปิดกว้างสำหรับคนทุกตำแหน่ง และยังให้โอกาสเติบโตของพนักงานไปจนถึงระดับโลกได้ เพราะมีเครือข่ายองค์กรที่มากกว่าบริษัทในประเทศ
ซึ่ง ‘Business+’ พบข้อมูลจากการจัดอันดับ Top50 Companies in Thailand 2025 ของ WorkVenture ว่า 5 บริษัทข้ามชาติ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากคนรุ่นใหม่ในประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ ไม่ได้เพียงเสนอ “งาน” แต่เสนอ “ชีวิตที่มีคุณค่า” ให้กับพนักงานจึงกลายเป็นเป้าหมายที่ใครหลายคนอยากร่วมงานด้วย
บทความนี้จะพาคุณสำรวจองค์กรชั้นนำที่ได้รับการจัดอันดับว่าน่าทำงานที่สุดประจำปี 2025 พร้อมถอดรหัสว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นที่หมายตาของคนทำงานยุคใหม่
โดยหนึ่งในองค์กรที่โดดเด่นที่สุดและครองแชมป์อันดับที่ 1 มา 7 ปีซ้อน คือ Google ซึ่งแม้จะเป็นบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกา แต่สามารถปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมไทยได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในเรื่องสวัสดิการที่ครอบคลุมทั้งกายและใจ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ยืดหยุ่น การอนุญาตให้ทำงานจากที่ใดก็ได้ การลาพักผ่อนเพื่อฮันนีมูนหรือดูแลสุขภาพจิต ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างฟิตเนส อาหารฟรี ห้องนอน ห้องอาบน้ำ และรถรับส่ง สร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวอย่างแท้จริง แม้กำไรสุทธิปีล่าสุดจะเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 69.29 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 0.55%) แต่ก็แสดงถึงความมั่นคงและการบริหารที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
ในฝั่งของอุตสาหกรรมยานยนต์ Toyota Motor ประเทศไทย ซึ่งติดอยู่ใน อันดับที่ 4 ได้พิสูจน์ว่าบริษัทที่มีอายุเกือบร้อยปีก็สามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เช่นกัน ด้วยสวัสดิการแบบ Selective Welfare ที่เปิดโอกาสให้พนักงานเลือกสิทธิประโยชน์ตามความต้องการ พร้อมทั้งสนับสนุนการเติบโตผ่านการอบรมออนไลน์ และการศึกษาดูงานในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงเท่านั้น พนักงานยังได้รับประกันสุขภาพครอบคลุมถึงครอบครัว ทุนการศึกษา คูปองอาหาร และสนามกีฬาหลากหลายชนิด กำไรสุทธิของบริษัทในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 32,888.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 22% แสดงถึงศักยภาพการเติบโตควบคู่กับการดูแลบุคลากรอย่างรอบด้าน
อีกหนึ่งองค์กรข้ามชาติที่มาแรงคือ Shopee (Thailand) ซึ่งติด อันดับที่ 5 โดยเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยืดหยุ่นและเปิดกว้างสำหรับทุกคน บริษัทให้บริการอาหารดึก OT Meal สำหรับพนักงานที่เลิกงานดึก สนับสนุนสุขภาพด้วยประกันกลุ่ม รวมถึงนวดไทยในออฟฟิศ การทำฟัน และสวัสดิการสำหรับครอบครัวเมื่ออายุงานครบห้าปี ความใส่ใจนี้สะท้อนผ่านกำไรสุทธิที่เติบโตถึง 113.81% หรือคิดเป็นมูลค่า 4,630.70 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตที่รวดเร็วและยั่งยืน
ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีด้วยกัน LINE Thailand ก็ได้รับความนิยมไม่น้อย โดยได้รับการจัดอันดับอยู่ใน อันดับที่ 7 ด้วยแนวทางการดูแลพนักงานที่ละเอียดและลึกซึ้ง เช่น วันหยุดสงกรานต์แบบ Golden Week ระบบวันลาที่เท่าเทียมกันทุกตำแหน่ง และข้าวฟรีทั้งมื้อเช้าและกลางวัน นอกจากนี้ยังมีห้องนวดจากหมอนวดตาบอด ห้องนอนในออฟฟิศ บริการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมถึงคู่สมรสไม่ว่าจะเพศใด พร้อมโบนัสพิเศษอย่าง Gift Code รายปี พนักงานยังสามารถขออุปกรณ์ไอทีเพิ่มเติมได้หากจำเป็นสำหรับการทำงาน โดยมีกำไรสุทธิปีล่าสุดที่ 531.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97.65% ซึ่งสะท้อนความมั่นใจและพลังงานขององค์กรที่เติบโตเร็วแต่ไม่ละเลยคนในทีม
ปิดท้ายด้วย Agoda บริษัทแพลตฟอร์มจองที่พักจากสิงคโปร์ ซึ่งติดอยู่ใน อันดับที่ 12 โดยได้สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์การเดินทางเข้ากับการทำงานอย่างแนบเนียน พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ มีสิทธิ์เลือกสวัสดิการด้านสุขภาพหรือการเรียนรู้ด้วยตนเอง เช่น ฟิตเนส คอร์สเรียน ภาษา หรือค่าสายตา มีบริการปรึกษาจิตวิทยาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ลาคลอด 16 สัปดาห์ สิทธิ์สำหรับคุณพ่อ และพื้นที่พักผ่อนภายในออฟฟิศ ตลอดจนการจัดการเงินเดือนที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล กำไรสุทธิในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,269.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.76% อย่างมั่นคง
ทั้งนี้หากพิจารณาโดยรวม จะพบว่าองค์กรที่คนรุ่นใหม่เลือกไม่ได้พิจารณาแค่ตัวเลขรายได้ แต่ยังรวมถึงความยืดหยุ่น ความเท่าเทียม ความหลากหลาย และความใส่ใจในคุณภาพชีวิตในระยะยาว บริษัทเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นว่าการดูแลพนักงานอย่างจริงใจ ไม่เพียงแต่สร้างความพึงพอใจ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการเติบโตขององค์กรในภาพรวม การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของภาพลักษณ์ แต่เป็นรากฐานที่ทำให้องค์กรสามารถยืนหยัดและก้าวไกลในยุคที่ “คน” คือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด
ที่มา : WorkVenture, linkedin, Google, TOYOTA, Shopee, LINE, Agoda, DBD
เขียนและเรียบเรียง : สถาปัตย์ มะดวง
ติดตาม Business+ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS