The Success Story of The Month : The Exclusive and Trusted Source for Effervescent Tablets Made in Germany ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงด้านการผลิตเม็ดฟู่ ระดับโลกจากเยอรมนี

The Success Story of The Month By ‘ Business Plus ฉบับเดือนมิถุนายน 2568 จะพาผู้อ่านมาพบกับบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจาก “สุภาพร แฮฟเนอร์” หัวเรือใหญ่ของบริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้รับผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากประเทศเยอรมนี ถึงเส้นทางการเติบโตของบริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จะเป็นอย่างไร ในสนามแข่งขันของเมกะเทรนด์โลก

The Exclusive and Trusted Source for Effervescent Tablets Made in Germany

ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงด้านการผลิตเม็ดฟู่ ระดับโลกจากเยอรมนี

บริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรงของ “สุภาพร แฮฟเนอร์” นักธุรกิจหญิงที่เมื่อ 10 ปีที่แล้วเธอโหมงานหนักจนไม่มีเวลาดูแลสุขภาพ ซึ่งหลังจากมีโอกาสได้ลองวิตามินรูปแบบเม็ดฟู่ที่ผลิตจากประเทศเยอรมนี ทำให้เธอสัมผัสถึงความแปลกใหม่ในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติที่อร่อย ความสดชื่นที่รู้สึกทันทีหลังรับประทานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รวมถึงผลลัพธ์ของสุขภาพที่ดีขึ้นตามลำดับ จึงเกิดแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพขึ้นมา เพราะเล็งเห็นว่าธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตในอนาคตอย่างแน่นอน

ประกอบกับเธอมี Connection ส่วนตัวกับโรงงานผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและยา ระดับชั้นแนวหน้าของประเทศเยอรมนี ที่เปิดดำเนินกิจการมายาวนานกว่า 50 ปี จึงเกิดเป็นจุดเริ่มต้นให้ “สุภาพร แฮฟเนอร์” ก่อตั้งบริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ขึ้นมาในปี พ.ศ. 2559 เพื่อเป็นสำนักงานในฝั่งประเทศไทย ดำเนินการรับผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและส่งคำสั่งซื้อไปยังโรงงานที่ประเทศเยอรมนี ทำหน้าที่เชื่อมโยงนวัตกรรมอาหารเสริมระดับ World Class มาตอบโจทย์นักธุรกิจชาวไทยแบบ Exclusive เพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย กับโรงงานระดับชั้นแนวหน้าของประเทศเยอรมนี

เมื่อจุดมุ่งหมายในการเริ่มต้นธุรกิจที่ชัดเจน สู่การเริ่มต้นวางระบบการให้บริการแบบ One Stop Service ตั้งแต่ให้คำปรึกษา คิดค้นสูตรเฉพาะเพื่อแบรนด์, ดำเนินการส่งคำสั่งซื้อไปยังโรงงานผู้ผลิตในประเทศเยอรมนี, ดำเนินการขึ้นทะเบียน อย. ในฝั่งประเทศไทย, ออกแบบบรรจุภัณฑ์, ดำเนินพิธีการนำเข้า ออก เอกสารนำเข้าและใบรับรองต่าง ๆ, ขนส่งจากโรงงานประเทศเยอรมนี จนถึงบริษัทของลูกค้าแบบ Door to Door ถือเป็นการอำนวยความสะดวกในการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้แนวคิดหลักอย่าง “แบรนด์อาหารเสริมไทย Made in Germany” เพื่อยกระดับให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ไทยก้าวไปอีกขั้น ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก จากโรงงานผู้ผลิตคุณภาพที่ได้การยอมรับในระดับสากล

ก้าวแรกในฐานะผู้รับผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ได้รับโอกาสจากแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำของประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจากท่านผู้บริหารเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานผู้ผลิตของบริษัท ณ ประเทศเยอรมนี ด้วยนวัตกรรมและมาตรฐานของโรงงานได้สร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบเม็ดฟู่ ซึ่งเป็น “แบรนด์ไทยสัญชาติเยอรมัน” ตัวแรก

จากการเป็น “ผู้เล่นหน้าใหม่” ในสนามธุรกิจอาหารเสริม สู่การเรียนรู้ ปรับตัว และมุ่งมั่นพัฒนาทั้งนวัตกรรมและบริการตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปลี่ยนสถานะกลายเป็น “ผู้นำ” ของบริษัทรับผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริมรูปแบบเม็ดฟู่ ในปัจจุบัน

นอกจากการรับผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบเม็ดฟู่ (Effervescent Tablets) ซึ่งเป็นสินค้าเรือธงของทางบริษัทฯ แล้ว โรงงานของเรา ณ ประเทศเยอรมนี ยังมีความเชี่ยวชาญในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลากหลายรูปแบบ ภายใต้กระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานระดับโลก การันตีคุณภาพและความปลอดภัย อาทิ ผงกรอกปาก ODP (Orally Disintegrating Powder) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ร่างกายพร้อมดูดซึมสารอาหารทันทีที่เทเข้าปาก, ผงชงดื่ม (Powder Drink), อาหารผสมชนิดผง (Powder Mixtures), แคปซูลจากพืช (Veggie Capsules) รวมไปถึงรูปแบบเม็ดที่สามารถผลิตได้ทั้งเม็ดกลืนและเม็ดเคี้ยว ซึ่งพร้อมรองรับกับความต้องการของนักธุรกิจเพื่อเจาะตลาดผู้บริโภคได้ทุกมิติ

ด้วยความโดดเด่นที่ผนวกรวมทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยี มาตรฐานระดับ World Class รวมไปถึงบริการของบริษัทฯ ที่เข้ามาช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผลิตจากประเทศเยอรมนี ได้กลายเป็นทั้งจุดแข็งและหัวใจสำคัญหนุนให้บริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เติบโตอย่างต่อเนื่องในทศวรรษแรก ซึ่งเรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นเบื้องหลังส่วนหนึ่งแห่งความสำเร็จของอาหารเสริมแบรนด์ไทย Made in Germany ที่กวาดยอดขายหลายพันล้านบาทในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

หากมองการเติบโตของตลาดโลก จากการประเมินของ Statista ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยระดับโลกที่บอกว่า ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2028 ตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพจะมีมูลค่าราว 677,200 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการเติบโต 3-5% ต่อปี

ข้อมูลตรงนี้จะเห็นว่า “สุภาพร แฮฟเนอร์” ในฐานะหัวเรือใหญ่ของบริษัทรับผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากประเทศเยอรมนี กำลังเล่นเกมใหญ่ในสนามแข่งขันของเมกะเทรนด์โลก ซึ่งภายใต้จุดแข็งหลายประการของบริษัทฯ ที่มีความแตกต่าง ย่อมจะส่งผลให้บริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จะสามารถพุ่งทะยานติดอันดับ Top World Class ได้ในเร็ว ๆ นี้

ลองมาฟังคำตอบจากเธอว่า เส้นทางการเติบโตของบริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จะเป็นอย่างไร…

 

“ถ้าถามว่า Key Success Factor ของบริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เกิดขึ้นตรงไหน ก็ต้องบอกว่าการที่เรามี Connection ส่วนตัวที่เข้มแข็งกับโรงงานผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและยาระดับชั้นแนวหน้าของประเทศเยอรมนี โดยคู่ชีวิตอย่าง คุณเซบาสเตียน แฮฟเนอร์ ที่นอกจากจะเป็นหุ้นส่วนของโรงงานผู้ผลิตแล้ว ยังเป็นผู้เปิดประตูสู่ธุรกิจรับผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในการก่อตั้งออฟฟิศฝั่งประเทศไทย ซึ่งเขาเคียงข้างและคอยผลักดันในทุก ๆ ก้าวแห่งความสำเร็จของบริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งถือเป็นความภูมิใจมากที่สุด” สุภาพร แฮฟเนอร์ หรือคุณยุ้ย เปิดใจกับ Business+ พร้อมกับบอกว่า

“การที่บริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีโรงงานฐานการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี ต้องถือว่าเป็นจุดแข็งสำคัญที่ให้เราในฐานะผู้เชื่อมโยงนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากประเทศที่มีโดดเด่นเรื่องสุขภาพ ซึ่งเมื่อมาผนึกรวมกับการบริการให้แบบ One Stop Service ที่มาลดขั้นตอนความความยุ่งยากของการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Made in Germany ให้เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น โดยจุดนี้เอง ได้สั่งสมกลายเป็นประสบการณ์ที่สร้างความเชื่อมั่นและความไว้จากใจจากนักธุรกิจชาวไทย ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหม่ที่ต้องการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ให้ตอบรับสั่งผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทั้งรูปแบบเม็ดฟู่ที่เป็นนวัตกรรมไฮไลต์ รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบอื่น ๆ มากวาดยอดขายในตลาด

ในขณะเดียวกันด้านแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำที่เป็นลูกค้าเดิมของบริษัทฯ ยุ้ยวางกลยุทธ์และสร้างทีมวิจัย และศึกษาตลาดไทยและตลาดโลกนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ก่อนจะส่งไม้ต่อให้ผู้เชี่ยวชาญในโรงงานประเทศเยอรมนี ได้คิดค้นและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูตรที่ใช่ ภายใต้รูปแบบที่จะส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของส่วนประกอบให้ออกมาอย่างลงตัว มีความโดดเด่นก้าวล้ำด้วยนวัตกรรมใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน เพื่อให้แบรนด์ของลูกค้าของเรามีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

เยอรมนี ไม่ใช่แค่ประเทศ แต่คือ “มาตรฐาน” ชั้นนำของโลก

คุณยุ้ยเสริมข้อมูลเพิ่มเติมว่า ประเทศเยอรมนี เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านการแพทย์และสุขภาพมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีการค้นคว้าและพัฒนานวัตกรรมยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออกรองรับเทรนด์สุขภาพที่เติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง จึงทำให้ผลิตภัณฑ์สุขภาพจากที่นี่ได้รับความไว้จากใจจากผู้บริโภคและนักธุรกิจจากทั่วโลก ซึ่งนี่ได้กลายเป็นจุดแข็งที่แตกต่างของบริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่มีฐานการผลิตเป็นโรงงานระดับชั้นแนวหน้าของประเทศเยอรมนี ที่พร้อมไปด้วยกระบวนการผลิตระดับ World Class ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็น Europe GMP, IFS หรือ International Food Standard ที่ครอบคลุมถึง HACCP และที่สำคัญมี ISO 13485 ซึ่งเป็น ISO ที่ควบคุมมาตรฐานโรงงานผลิตยา

ที่สำคัญทีมวิจัยในเยอรมนี ยังพัฒนาสูตรร่วมกับสถาบันชั้นนำต่อเนื่อง เพื่อพิสูจน์ผลลัพธ์เชิงประจักษ์ว่า ทุกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นนั้นเห็นผลจริง เป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคปลายทาง และทำให้แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำที่ผลิตจากโรงงานของเราเติบโตอย่างมั่นคงไปด้วย และนี่จึงเป็นเหตุผลที่แบรนด์ต่างประเทศชื่อดังมากมายเลือกใช้โรงงานเดียวกับเธอ และยังเป็นที่มาของรางวัล Product Innovation Awards 2025 ที่เธอเพิ่งได้รับ ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงามไปเมื่อไม่นานมานี้

 

ก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมเม็ดฟู่ ด้วยมาตรฐานโลก

ในสมรภูมิที่การแข่งขันธุรกิจอาหารเสริมและสุขภาพ ต้องยอมรับว่า บริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ได้สร้างชื่อจนตัวเองเป็นผู้เล่นที่โดดเด่น ในฐานะ Hub ใหญ่ในประเทศไทย ผู้รับผลิตเม็ดฟู่ชั้นนำระดับโลก ภายใต้ความมุ่งมั่นในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ซึ่งตั้งอยู่บนรากฐานที่แข็งแกร่งของนวัตกรรมและเทคโนโลยี

“หากพูดถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปเม็ดฟู่ในปัจจุบันนี้ อาจจะมีโรงงานที่ผลิตได้มากมาย แต่ถ้าถามถึงความเป็นต้นแบบของนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนเทรนด์โลก คุณยุ้ยยังคงย้ำคำตอบว่า Made in Germany เท่านั้น ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้เครื่องจักรเฉพาะในการผลิตเม็ดฟู่ ที่เป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่ มีแรงอัดสูงกว่าแรงอัดของเครื่องจักรผลิตเม็ดตอกทั่วไปถึง 2 เท่า ทำให้คุณสมบัติของการละลายสารสำคัญมีความเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ ค่อย ๆ แตกตัวเป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทันทีที่ดื่ม นี่เองเป็นเหตุผลให้การผลิตเม็ดฟู่จึงจำเป็นต้องมีการลงทุนค่อนข้างสูงมาก ทำให้มีโรงงานผลิตไม่กี่แห่งในโลกนี้ที่มีการลงทุนในด้านนี้ รวมถึงการวิจัยและพัฒนามาตลอดหลายทศวรรษ ซึ่งประเทศเยอรมนีในแวดวงการสาธารณสุขถือว่า ที่นี่เป็น Expertise

 

ปรับกลยุทธ์ จาก OEM สู่การเป็น Global Player

อย่างที่ทราบดีว่า บริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตโออีเอ็ม โดยให้บริการแก่แบรนด์ยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำมากมาย แต่ด้วยชื่อเสียงด้านคุณภาพและความน่าเชื่อถือ จนบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศมาตลอดกว่าทศวรรษ และเมื่อมองถึงวิสัยทัศน์ทศวรรษต่อไปของบริษัทฯ ซึ่งไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นผู้ผลิตโออีเอ็มอีกต่อไป หากยังมองเห็นโอกาสในการคอลแลบกับองค์กรชั้นนำ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและคุณภาพสูงสู่กลุ่มลูกค้าธุรกิจในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง

ฮุกสำคัญในช่วง Covid-19 นับเป็น S-Curve ใหญ่ของธุรกิจสุขภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีบทบาทสําคัญในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคอย่างมาก ทำให้ผู้บริโภคตื่นรู้เรื่องการดูแลสุขภาพในเชิงป้องกัน จากการรับประทานวิตามินและแร่ธาตุผ่านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพ จึงเป็นที่มาให้ตั้งปณิธานของตัวเองใหม่ว่า นอกจากที่เราจะมองการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในการทําธุรกิจเป็นเรื่องใหญ่แล้ว เราควรมีบทบาทได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมดูแลสุขภาพของผู้บริโภคปลายทางด้วย ก็คือการเป็นผู้ให้บริการ และเป็นฮับของแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพ แล้วก็เปิดรับลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในแต่ละสูตรที่วิตาซีรับผลิตจะต้องปลอดภัยกับผู้บริโภค เมื่อซื้อสุขภาพ ก็ต้องได้รับสุขภาพ”

และผลจากสถานการณ์ Covid-19 ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมปลุกกระแสให้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น รวมถึงในประเทศไทย ซึ่ง Approve ด้วยยอดขายของบริษัทที่โตขึ้นกว่า 300% ในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้คุณยุ้ยยิ่งเชื่อว่ามั่นว่า ตลาดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ยังมี “โอกาส” ที่เปิดกว้างอีกมาก

คุณยุ้ยเอ่ยต่อว่า ผลจากการที่ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเติบโตอย่างต่อเนื่อง เธอมองว่าได้ส่งผลทั้งเชิงบวกและลบต่อตลาดและผู้บริโภค เพราะจะมีทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพ กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผลิตมาเพื่อมุ่งเน้นในการหาผลประโยชน์ผลกําไรเพียงอย่างเดียว โดยขาดการคำนึงถึงสุขภาพของผู้บริโภคปลายทาง ซึ่งนั่นจะเป็นที่มาให้แบรนด์ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ไม่มั่นคงในท้องตลาด

“เรามีความรู้สึกว่า เราเจอผลิตภัณฑ์ที่มันเป็นอันตรายกับผู้บริโภคเยอะมากในตลาด จนเราคิดว่าถ้าอย่างนั้นเราควรเริ่มเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อ “ไล่น้ำเสีย” ในเมื่อเรามีฐานการผลิตที่มีคุณภาพและมี Capacity มากเพียงพอที่จะรองรับนักธุรกิจหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ได้อยู่แล้ว จึงมองว่าเราสามารถเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสําหรับนักลงทุน ที่ต้องการมองหาผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพจากโรงงานฐานการผลิตที่เชื่อถือได้ ” เธอกล่าว

 

คุณภาพ ต้นทุน และความเชี่ยวชาญ ในแบบ World Class

โรงงานฐานการผลิตที่ตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนีเป็นโรงงานขนาดใหญ่ที่มีกำลังการสั่งซื้อวัตถุดิบจำนวนมาก และการเข้าถึงสารสกัดชั้นนำทั่วยุโรปด้วยฟรีโซนทางภาษี ทำให้เราได้เปรียบทางด้านต้นทุนวัตถุดิบคุณภาพ ประกอบกับบริษัทฯ ยังวางระบบการให้บริการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Made in Germany แบบครบวงจร (One Stop Service) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจ เรียกได้ว่า “วิตาซี” ไม่ได้ทำหน้าที่รับผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังพร้อมอยู่เบื้องหลังเคียงข้างการเติบโตของเจ้าของแบรนด์ในอนาคตด้วย

“ในฐานะที่เราเป็นสำนักงานใหญ่ของโรงงานในฝั่งประเทศไทย นอกจากความเข้าใจเทรนด์สุขภาพและความต้องการของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายในประเทศแล้ว เรายังร่วมมือกับสถาบันวิจัยชั้นนำของไทย โดยมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางคิดค้นสูตรและทำการวิจัยร่วมกับทีมเยอรมนี จนได้เป็นนวัตกรรมใหม่ที่โดดเด่น ไว้รอเสิร์ฟนักธุรกิจไทย” คุณยุ้ยบอก พร้อมเสริมว่า “เมื่อวิเคราะห์ภาพรวมในแง่โอกาสทางธุรกิจ บริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังมีความได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น

คุณภาพที่เหนือกว่า : การันตีด้วยฐานการผลิตที่เป็นโรงงานระดับชั้นแนวหน้าของประเทศเยอรมนี แหล่งผลิตระดับมาตรฐานโลก

ความได้เปรียบด้านต้นทุน : การค้าขายภายในสหภาพยุโรปที่เป็นประเทศสมาชิกเป็นแบบปลอดภาษีนำเข้า ประกอบกับกำลังการสั่งซื้อในปริมาณมาก ทำให้โรงงานของเรามีความได้เปรียบทางด้านของต้นทุนของสารสกัดและวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและยา ส่งผลให้สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี : โรงงานของเรา มีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตเม็ดฟู่ รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนามาตลอดระยะเวลากว่า 5 ทศวรรษ ที่นอกจากจะได้ความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกให้โรงงานเราเป็นฐานการผลิตแล้ว ยังมีมาตรฐานระดับสากลการันตีคุณภาพอีกด้วย”

 

ฟองฟู่แห่งโอกาส คือทิศทางและอนาคตของตลาดเม็ดฟู่

ทั้งหมดที่คุณยุ้ยเล่ามา ถือเป็นบททดสอบที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ยังมีโจทย์ทางธุรกิจที่ใหญ่กว่าและสำคัญกว่า นั่นก็คือ เส้นทางการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต เมื่อเปรียบกับความต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทเม็ดฟู่ รวมถึง Line up อื่น ๆ ด้วย

“Survey ของมูลค่าการตลาดเม็ดฟู่ในประเทศไทย ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งเราเชื่อว่ายังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตจากนี้คือ การที่ผู้บริโภคเปิดรับและยอมรับผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่มากขึ้น เพราะคุณสมบัติเฉพาะหนึ่งในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ดูดซึมดีที่สุด เห็นผลที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมรูปแบบอื่น ๆ โดยเราประเมิน Demand และ Supply เม็ดฟู่ในอีก 10 ปีข้างหน้า แนวโน้มในกลุ่มเม็ดฟู่จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์จะยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย

ด้วยคุณลักษณะการละลายของนวัตกรรมเม็ดฟู่ ส่งผลให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหมายความว่า ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากวิตามิน แร่ธาตุ รวมไปถึงสารสกัดที่ถูกคิดค้นโดยผู้เชี่ยวชาญให้สามารถทำงานร่วมกันเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อสุขภาพ ถูกผนวกรวมกับความอร่อยของรสชาติที่สามารถออกแบบได้ สร้างความรู้สึกสดชื่นได้ทันทีที่ดื่ม และความสะดวกในการพกพา ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทำให้การดูแลสุขภาพไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป”

มาถึงคำถามสำคัญคือ บริษัท วิตาซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จะคงรักษาความเป็น Leader ได้นานแค่ไหน ? ด้วยเหตุผลว่า ธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตสูงมาก ซึ่งย่อมหมายถึงคำถูกเสนอซื้อกิจการ ในฐานะผู้ถือ Exclusive Contract และฐานลูกค้าระดับชั้นแนวหน้าของประเทศ และทางบริษัทฯ เคยบอกปัดข้อเสนอขอซื้อกิจการอันแสนจะยั่วยวนมาแล้ว ด้วยงบสูงมากกว่า 500 ล้านบาท

“บริษัทฯ นี้จะขายกิจการไหม ? ยุ้ยยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ในตอนนี้ นั่นเพราะว่า เมื่อมองถึงความก้าวหน้าจากเทคโนโลยีการผลิตและนวัตกรรมของเม็ดฟู่ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยทีมผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ ซึ่งเราจะนำจุดแข็งนี้มาต่อยอดสร้างเป็นสูตรของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เสริมด้วย “งานวิจัยเชิงประจักษ์” มารองรับ ถือเป็นการสร้างคุณค่าขั้นกว่าให้กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถพิสูจน์ผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ต้นทาง ส่งผลให้แบรนด์และนักธุรกิจเกิดข้อได้เปรียบในการคว้าโอกาสสร้างยอดขายได้อย่างไม่ยาก”

จากคำตอบของคุณยุ้ย หรือ สุภาพร แฮฟเนอร์ พอจะเดาได้ว่า เธอยังไม่ได้คิดจะขายกิจการออกไปในช่วงนี้ หรืออาจไม่คิดขายด้วยซ้ำไป จากเหตุผลที่ว่า เธอกำลังเล่นเกมใหญ่ในสนามแข่งขันของเมกะเทรนด์โลก จากภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโลก ที่ทั้งมูลค่าตลาดจะเพิ่มสูงขึ้น และคนยุคนี้ไม่ว่าจะ Gen ไหนก็ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและความงามจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งจากการวิเคราะห์ในทุกมิติแล้ว เธอพร้อมจะกระโจนเข้าสู่การแข่งขันเต็มตัว !!!

 

เขียนและเรียบเรียง : ยุพาพร คุณานันท์

ติดตาม Business+ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+  : https://lin.ee/pbIHCuS

IG  : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

Youtube : https://www.youtube.com/@thebusinessplus7829

#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus #Business