Ultrastar® DC HC690 – 32TB นิยามใหม่แห่งการจัดเก็บ ด้วยแพลตฟอร์มแบบ 11-Disk SMR HDD รุ่นแรกของโลก

ในยุคที่ข้อมูลถือเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรและธุรกิจ การมีระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ทนทาน และปลอดภัย กลายเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดความสำเร็จของทุกอุตสาหกรรม Western Digital Storage Technologies เข้าใจดีถึงความต้องการนี้ จึงออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถส่งมอบคุณค่าเหนือชั้นอย่างแท้จริง นั่นคือ Ultrastar® DC HC690 – 32TB ที่กลายเป็นมาตรฐานระดับโลกในการใช้งานศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่

ลองมาหาคำตอบจากคุณสเตฟาน แมนเดิล (Stefan Mandel) รองประธานฝ่ายขายและการตลาด ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น (APJC) ว่า ทำไม Ultrastar® DC HC690 – 32TB จึงเป็นมาตรฐานระดับโลกของการจัดเก็บข้อมูลระดับโลกจาก Western Digital

“Western Digital เป็นผู้นำในด้านการจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กรความจุสูง ด้วยการผสมผสานที่ทรงพลังระหว่างนวัตกรรม (Innovation) ความสามารถในการปรับขนาด (Scalability) และความคุ้มค่าด้านต้นทุน (TCO) เราได้รับการยอมรับในระดับโลก ด้วยความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล โดยมีสิทธิบัตรที่ยังคงใช้งานอยู่มากกว่า 4,500 ฉบับ ศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ระดับนานาชาติ 7 แห่ง และความเชี่ยวชาญเชิงลึกในหลากหลายสาขา ครอบคลุมกลไกเซอร์โว (Servomechanics) แม่เหล็ก (Magnetics) วัสดุศาสตร์ (Material Sciences) และการออกแบบระบบ ทำให้เราสามารถบุกเบิกเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ของเรา ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีหลักอย่าง ePMR (energy-assisted PMR), OptiNAND™ และ UltraSMR มอบความคุ้มค่าด้านต้นทุน (TCO) ที่เหนือกว่า ความน่าเชื่อถือที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว และความสามารถในการขยายขนาดแบบไร้รอยต่อ นวัตกรรมเหล่านี้คือจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างให้ Western Digital ในโลกของข้อมูลที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อข้อมูลเติบโตอย่างก้าวกระโดด Data Center ต้องเผชิญแรงกดดันในการจัดเก็บข้อมูลให้ได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม หนึ่งในนวัตกรรมหลักที่ตอบโจทย์นี้คือ Ultrastar® DC HC690 – 32TB ฮาร์ดดิสก์ SMR (Shingled Magnetic Recording) แบบ 11 ดิสก์ตัวแรกของโลก ที่มีความจุสูงสุด 32TB (SMR) โดยผสานการออกแบบที่พิสูจน์แล้วเข้ากับเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อให้ Data Center สามารถเพิ่มความหนาแน่นของการจัดเก็บในโครงสร้างเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยจุดเด่นสำคัญของผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์รุ่นแรกของโลกที่ใช้แพลตฟอร์มแบบ 11 ดิสก์ (11-disk HDD platform), ให้ความจุที่เหนือกว่าถึง 32TB (SMR – Shingled Magnetic Recording) สามารถเพิ่มความหนาแน่นของการจัดเก็บข้อมูลในพื้นที่เท่าเดิม ในขณะที่สามารถรักษาความน่าเชื่อถือในระดับสูงด้วยการออกแบบฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว และได้รับการจัดอันดับสำหรับปริมาณงาน 550TB ต่อปี และค่าเฉลี่ยเวลาก่อนเกิดความล้มเหลว (MTBF) สูงถึง 2.5 ล้านชั่วโมง

เมื่อมองถึงจุดแข็งสำคัญของเรา คือ การมอบโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลระดับผู้นำของอุตสาหกรรม ที่ผสานระหว่างความจุ ความน่าเชื่อถือ และนวัตกรรม เข้าด้วยกัน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อสภาพแวดล้อมขององค์กรและ Cloud ขนาดใหญ่ ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) เรานำเสนอโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้ มีความจุสูง และสร้างมูลค่าระยะยาวให้แก่ลูกค้าของเรา โดยมุ่งเน้นในนวัตกรรมในอนาคต ความยั่งยืน และความเป็นเลิศในการดำเนินงาน เราจึงยังคงเป็นพันธมิตรที่องค์กรระดับไฮเปอร์สเกล ผู้ให้บริการ Cloud Data Center ระดับองค์กร ผู้บริโภค และผู้เชี่ยวชาญด้านคอนเทนต์ทั่วโลกไว้วางใจมาโดยตลอด

โดยยึดหลัก “ลูกค้ามาเป็นอันดับแรก” เราจึงปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของผู้ให้บริการไฮเปอร์สเกล ผู้ให้บริการ Cloud และ Data Center ระดับองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่า โซลูชันของเรายังคงสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของข้อมูลในอนาคต

ปัจจุบัน ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDDs) ของ Western Digital ทำหน้าที่เป็นแกนหลักของโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มอบความคุ้มค่าด้านต้นทุน (TCO) ที่เหนือชั้น ความจุขนาดใหญ่ และความน่าเชื่อถือในระดับองค์กรในทุกระดับการใช้งาน ในขณะที่ความต้องการของการประมวลผล AI, Cloud และ Edge พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรายังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเปิดโอกาสใหม่ ๆ และประสบความสำเร็จในระยะยาว”

และสำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสำหรับ Ultrastar® DC HC690 – 32TB ต้องบอกว่า ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDDs) ของ Western Digital รุ่น Ultrastar® DC HC690 – 32TB ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับการใช้งานของผู้ให้บริการไฮเปอร์สเกล แอปพลิเคชันข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) แหล่งข้อมูลสำหรับการฝึก AI (AI Training Pools) การย้ายข้อมูลกลับจาก Cloud (Cloud Repatriation Data Pools) ผู้ให้บริการ Cloud (Cloud Service Providers) และโครงสร้างพื้นฐานแบบบูรณาการ (Converged Infrastructures)

“เรามอบความจุที่สูงเพื่อตอบสนองความต้องการจัดเก็บข้อมูลในพื้นที่เท่าเดิม ทุกผลิตภัณฑ์ของ Western Digital รองรับการทำงานตั้งแต่ระดับ Petabyte ไปจนถึง Exabyte มอบความคุ้มค่าด้านต้นทุน (TCO) และยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการปรับขยายสภาพแวดล้อม AI และ Cloud อย่างมีประสิทธิภาพ”

และสิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น คือ Western Digital มุ่งมั่นส่งมอบโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่ยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการใช้พลังงานและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม แนวทางนี้สะท้อนทั้งกระแสโลกด้านพลังงานสีเขียวและความจำเป็นของโซลูชันประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะเมื่อความต้องการพลังงานของ Data Center และงาน AI เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในฐานะองค์กร เราได้บูรณาการแนวทางด้านความยั่งยืนเข้ากับทุกขั้นตอนของกระบวนการทำงานและการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว เช่น ในระดับผลิตภัณฑ์ Ultrastar® DC HC690 – 32TB ได้นำเทคโนโลยี HelioSeal® มาใช้ ซึ่งช่วยให้ฮีเลียมไดรฟ์ความจุสูงนี้เป็นหนึ่งในฮาร์ดดิสก์ความจุสูงที่ใช้พลังงานต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม

“เรายังเป็นผู้ริเริ่มโครงการรีไซเคิลที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อจัดการกับการใช้ธาตุหายาก (Rare Earth Elements – REEs) ใน ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) โดยร่วมมือกับพันธมิตร เช่น Microsoft และ Critical Materials Recycling, Western Digital ได้พัฒนา กระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อกู้คืน REEs และวัสดุมีค่าอื่น ๆ จาก ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ที่หมดอายุการใช้งาน ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมากและสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยแนวทางนี้ไม่เพียงแต่ลดของเสียและการพึ่งพาการทำเหมืองวัสดุบริสุทธิ์ แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เมื่อเทียบกับกระบวนการแบบดั้งเดิม ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Western Digital ในการดูแลสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนอีกด้วย

โดยเฉพาะที่ฐานการผลิตของ Western Digital ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย บริษัทฯ ได้ติดตั้งสถานีผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาขนาด 3.8 เมกะวัตต์ (Rooftop Solar Photovoltaic Power Station) ซึ่งสามารถผลิตพลังงานสะอาดได้มากกว่า 5 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี (GWh/ปี) จากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ผลิตภายในสถานที่

(อ้างอิง: ข่าวประชาสัมพันธ์ “Western Digital and Constant Energy Solar PPA Signing Ceremony for 3.8mw Rooftop Solar Photovoltaic Power Station”, มกราคม 2022)

ในขณะที่ภาพใหญ่ในระดับโลก เราได้ดำเนินงานเร็วกว่ากำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืนทุกด้าน ซึ่งรวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานปลอดคาร์บอน 100% ภายในปี 2030, การลดปริมาณการใช้น้ำลง 20% ภายในปี 2030 เมื่อเทียบกับปี 2022, การนำของเสียมากกว่า 95% กลับมาใช้ใหม่แทนการฝังกลบภายในปี 2030, และการบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในการดำเนินงานภายในปี 2032”

ทั้งนี้ คุณสเตฟาน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี AI, ระบบ Cloud และแอปพลิเคชันที่ใช้ข้อมูลจำนวนมาก ลูกค้าของเราจำเป็นต้องมีโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่สามารถขยายขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ปัจจุบัน เกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณข้อมูลใน exabyte ที่เราจัดส่งไปยังศูนย์ข้อมูลทั่วโลกใช้เทคโนโลยี SMR (Shingled Magnetic Recording) ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อเทคโนโลยี UltraSMR ของเรา เมื่อผสานกับเทคโนโลยี OptiNAND™ และประสิทธิภาพของ ePMR (energy-assisted PMR) ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว โซลูชันเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถขยายความจุได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานต่อเนื่องด้วย ePMR (energy-assisted PMR) หรือการปรับใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในอนาคตอย่าง HAMR (Heat-Assisted Magnetic Recording)

ด้วยการพัฒนา ePMR (energy-assisted PMR) UltraSMR และ HAMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) ไปพร้อมกัน เมื่อนำ HAMR มาใช้เพื่อให้ลูกค้าได้ปรับขนาดพื้นที่จัดเก็บได้ตามต้องการ ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าในการใช้งานมากที่สุด ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับความจุมากกว่า 40TB ขณะนี้เราได้ทดลองร่วมกับผู้ให้บริการไฮเปอร์สเกลแล้ว และคาดว่าจะผ่านกระบวนการรับรองคุณภาพภายในสิ้นปี 2026 ทั้งนี้ Western Digital กำลังอยู่ในแผนที่จะเริ่มการผลิตและพร้อมจัดส่งได้ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2027

และกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่าน (Transition Strategy) นี้ คือข้อได้เปรียบสำคัญของ Western Digital เพราะเราไม่ได้บังคับให้ลูกค้าเลือกเพียงทางใดทางหนึ่ง แต่เรามอบทางเลือกทั้งคู่ในเวลาเดียวกัน โดยมี การบูรณาการแนวดิ่ง (Vertical Integration), ความร่วมมือใกล้ชิดกับลูกค้า และการมุ่งเน้นนวัตกรรมที่ยั่งยืน เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถขยายระบบได้อย่างมั่นใจและไม่สะดุด จากประสบการณ์ของเราในการพัฒนา ePMR (energy-assisted PMR), OptiNAND™ และ UltraSMR ทำให้ Western Digital พร้อมที่จะเร่งการนำ HAMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) ไปใช้จริง โดยสามารถลดรอบการทดสอบและการปรับใช้ลงได้ถึง 2–3 เฟส ซึ่งช่วยย่นเวลาในการเข้าสู่ตลาดได้อย่างมาก

ในโลกที่ “ข้อมูลคือทุกสิ่ง” Western Digital ยังคงเดินหน้าด้วยวิสัยทัศน์ชัดเจน แผนการพัฒนาไปสู่ HDD ความจุ 50TB+ ผสานกับนวัตกรรมที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางและความเป็นเลิศด้านปฏิบัติการ ทำให้เรายืนหยัดในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ สำหรับ Hyperscaler, Cloud Provider และ Data Center ขององค์กร เราไม่ได้แค่ปรับตัวตามอนาคตของข้อมูล แต่เรากำลังสร้างอนาคตนั้นขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม Western Digital มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโลกแห่งข้อมูลที่อิงจาก AI เป็นหลัก ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน Cloud ขนาดใหญ่ ไปจนถึงธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไป เราช่วยให้การไหลเวียนของข้อมูลทั่วโลกเกิดขึ้นได้อย่างราบรื่น ตั้งแต่การจัดเก็บ ไปจนถึงการปลดล็อกศักยภาพของข้อมูลเหล่านั้น หัวใจของความสามารถนี้คือ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ความจุสูง ซึ่งเป็นรากฐานที่เชื่อถือได้ของโซลูชัน AI ที่สามารถปรับขนาดได้ โดยผสานเข้ากับระบบต่าง ๆ อย่างไร้รอยต่อ เพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุด ความคุ้มค่า และความน่าเชื่อถือในทุกระดับการใช้งาน

Ultrastar® DC HC690 – 32TB ซึ่งเป็นฮาร์ดดิสก์รุ่นแรกของโลกที่ใช้แพลตฟอร์มแบบ 11 ดิสก์ (11-disk HDD platform) และมีความจุสูงสุดถึง 32TB ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ Western Digital ในด้านความคุ้มค่าด้านต้นทุน (TCO) ความเสถียรในการทำงาน และความสามารถในการขยายขนาด พร้อมทั้งสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนระดับโลก ด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยอย่าง UltraSMR, เทคโนโลยี HelioSeal®, ระบบป้องกันการสั่นสะเทือนขณะหมุน (Rotational Vibration Safeguard – RVS), OptiNAND™, และเทคโนโลยีการบันทึกแบบตั้งฉากที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงาน (energy-assisted Perpendicular Magnetic Recording – ePMR) ฮาร์ดดิสก์รุ่น Ultrastar® DC HC690 – 32TB ได้ผสานความหนาแน่นของการจัดเก็บข้อมูลเข้ากับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการพิสูจน์แล้วอย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับ Hyperscaler แล้ว ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ยังคงเป็นสื่อจัดเก็บข้อมูลหลักใน Cloud สิ่งที่ธุรกิจ Hyperscale และองค์กรให้ความสำคัญ ไม่ใช่เพียงความจุสูง แต่ยังรวมถึงความคุ้มค่าด้านต้นทุน (TCO) ความสามารถในการคาดการณ์ และการเพิ่มขนาดที่ไร้รอยติ และนี่คือจุดที่ผลิตภัณฑ์ของ Western Digital แตกต่าง เรามุ่งมั่นส่งมอบคุณค่าและนวัตกรรมให้กับลูกค้า ทั้งในวันนี้และในอนาคต

นอกจากแผนการพัฒนาที่ชัดเจนสู่ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ที่มีความจุเกินกว่า 40TB และต่อยอดไปถึงความจุ 50TB แล้ว Western Digital ยังดำเนินโครงการระดับองค์กร เช่น การนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ และโครงการกู้คืนแร่หายาก (rare-earth recovery programmes) ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า Ultrastar® DC HC690 – 32TB คือสัญลักษณ์ของการสร้างโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลแห่งอนาคตของ Western Digital ที่ผสานสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ได้อย่างลงตัว”