ท็อปส์ ฉลองครบรอบ 29 ปี ด้วยพลัง Character Marketing ดัน “ท็อปสเตอร์” สร้างปรากฏการณ์โลกต้องจำ

ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าสร้างประสบการณ์การตลาดรูปแบบใหม่ ด้วยการใช้กลยุทธ์ Character Marketing ผลักดันมาสคอตประจำแบรนด์ “ท็อปสเตอร์” ให้กลายเป็นตัวแทนส่งมอบความสุข สร้างภาพจำและเชื่อมโยงความรู้สึกระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค ผ่านแคมเปญฉลองครบรอบ 29 ปี “The Red Phenomenon” ความสุขสีแดงล้นเมืองแห่งปี จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ

ถือเป็น Talk of the Town กับโอกาสครบรอบ 29 ปีของท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ซึ่งจะถูกตอกย้ำศักยภาพความเป็นผู้นำธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตของเมืองไทย เปิดตัวแคมเปญใหญ่ประจำปี ส่งท็อปสเตอร์สร้างปรากฏการณ์ความสุขสีแดงล้นเมือง “The Red Phenomenon” ผ่านกลยุทธ์ Character Marketing คาแรคเตอร์ที่แบรนด์สร้างขึ้นมา เพื่อเป็นตัวแทนในการสื่อสารกับผู้บริโภคในทุกมิติ ตั้งแต่กิจกรรมทางการตลาด จนถึงการสร้างความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับลูกค้า กับกองทัพท็อปสเตอร์กว่า 48 ตัว พร้อม “ท็อปสเตอร์ยักษ์” สูงกว่า 6 เมตร มาปลุกสีสันใจกลางกรุง ณ สกายวอล์กช่องนนทรี ซึ่งไม่เพียงดึงดูดสายตาผู้คน แต่ยังสร้าง “แลนด์มาร์กแห่งประสบการณ์” ที่ผสมผสานความบันเทิงและการตลาดเข้าด้วยกัน

ในเชิงกลยุทธ์ การเลือกใช้ “สีแดง” ซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์ มาสร้างบรรยากาศของแคมเปญครั้งนี้ ตอกย้ำอัตลักษณ์ของท็อปส์ในแบบที่ผู้บริโภคจดจำได้ทันที ขณะเดียวกันก็ยังแฝงด้วยความหมายของพลัง ความสุข และความมีชีวิตชีวา ตรงตามแนวคิดของคาแรคเตอร์ท็อปสเตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นมิตร เข้าถึงง่าย และเต็มไปด้วยพลังบวก

กิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การสร้างสีสันในพื้นที่จริง แต่ยังขยายพลังของคาแรคเตอร์ไปสู่โลกออนไลน์ ด้วยการเปิดตัว TOPSTER LINE Sticker ชุดแรกจำนวน 16 แอกชัน ที่สะท้อนความน่ารักและบุคลิกสดใสของท็อปสเตอร์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถนำคาแรคเตอร์ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารในชีวิตประจำวันผ่าน LINE ได้ฟรี ในช่วงเวลาจำกัด ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้เป็นการตอกย้ำว่า ท็อปส์ไม่ได้มอง Character Marketing เพียงแค่เป็นสัญลักษณ์ของการตลาด แต่เป็นการ “ฝังแบรนด์” ลงไปในพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คน

นอกจากโลกออนไลน์แล้ว ท็อปส์ยังต่อยอด Character Marketing ไปสู่สินค้าในรูปแบบ น้ำดื่มลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่มีฉลากลายท็อปสเตอร์หลากหลายอารมณ์ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสและสะสมในชีวิตจริง

นี่คือการเชื่อมโยงตัวคาแร็กเตอร์กับผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ ทำให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในทุกมิติการใช้ชีวิต ตั้งแต่การสื่อสารดิจิทัลไปจนถึงการบริโภคจริง

และอีกหนึ่งหมัดเด็ดของท็อปส์ในแคมเปญครบรอบครั้งนี้ คือโพรโมชันสุดยิ่งใหญ่ที่เรียกได้ว่า “ไม่เคยมีมาก่อน” กับส่วนลดทั้งตะกร้าสูงสุด 29% จากแบรนด์พันธมิตรชั้นนำกว่า 119 แบรนด์ พร้อมคูปอง On-Top
รวมมูลค่าสูงสุด 450 บาท และยังมี “ดีลลับ” วันที่ 29 สิงหาคม ที่ถูกวางให้เป็นไฮไลต์พิเศษที่สุดของปี เพื่อหวังสร้างแรงจูงใจและความคาดหวังให้ผู้บริโภคจับจ้องไปที่ท็อปส์ในช่วงเวลาสำคัญ

นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า

“กลยุทธ์ Character Marketing ไม่เพียงช่วยเพิ่มสีสัน แต่ยังสร้าง Emotional Bonding หรือความผูกพันทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ซึ่งจะนำไปสู่การสร้าง Brand Love ที่มั่นคงในระยะยาว และนี่คือเหตุผลว่าทำไมท็อปส์ถึงเลือก “ท็อปสเตอร์” มาขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดในปีนี้”

หากมองในภาพรวม การฉลองครบรอบ 29 ปี ของท็อปส์ไม่ได้เป็นเพียงแค่กิจกรรมการตลาดตามวาระ แต่เป็นการแสดงศักยภาพเชิงกลยุทธ์ของแบรนด์ที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความเข้าใจในผู้บริโภคเข้าด้วยกัน ซึ่งการสร้างสรรค์ “The Red Phenomenon” ทำให้ท็อปส์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ซูเปอร์มาร์เก็ต แต่เป็นแบรนด์ที่มีชีวิต มีบุคลิก และพร้อมจะเดินเคียงข้างลูกค้าในทุกมิติของการใช้ชีวิต

เป็นการตอกย้ำแนวคิด “Every Day DISCOVERY” ที่ท็อปส์ใช้มาโดยตลอด เพื่อทำให้ทุกวันของผู้บริโภคไม่ใช่วันธรรมดา แต่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและประสบการณ์ใหม่ ๆ

ทำไม Character Marketing ถึงเป็นอาวุธลับของท็อปส์

การที่ท็อปส์เลือกเปิดฉากฉลองครบรอบ 29 ปี ด้วยการดึงกลยุทธ์ Character Marketing ต้องยอมรับว่าเป็นการสะท้อนถึงการมองอนาคตของแบรนด์ในตลาดที่การแข่งขันสูงสุดขีด การใช้ “ท็อปสเตอร์” ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่เครื่องมือสร้างสีสัน แต่เป็น Asset ทางการตลาดที่สามารถต่อยอดได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ด้วยข้อดีในหลายมิติ อาทิ

1. การสร้าง “Brand Differentiation”

ในตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตที่ผู้บริโภคสามารถเลือกได้หลากหลาย ตั้งแต่ Big C, Lotus’s จนถึงแม็คโคร การแข่งขันด้านราคากลายเป็น “Red Ocean” ที่ทุกแบรนด์ต้องลงมาเล่น ท็อปส์เลือกจะไม่เล่นแค่ราคา แต่สร้างความแตกต่างด้วย “บุคลิกแบรนด์” ผ่านท็อปสเตอร์ การมี Character Marketing ทำให้แบรนด์ไม่ถูกจำกัดด้วยโพรโมชัน แต่มี “เอกลักษณ์” ที่คู่แข่งเลียนแบบได้ยาก

2. Emotional Bonding และ Brand Love

การตลาดยุคใหม่ไม่ได้แข่งกันที่ใครราคาถูกกว่าเสมอไป แต่แข่งกันที่ใคร “ครองใจลูกค้า” ได้มากกว่า ดังนั้นสิ่งที่ ท็อปส์ ตั้งใจออกแบบ ท็อปสเตอร์ เพื่อให้เข้าถึงง่าย เป็นมิตร และเต็มไปด้วยพลังบวก เมื่อผู้บริโภคเชื่อมโยงทางอารมณ์กับแบรนด์ ความภักดีและการซื้อซ้ำก็จะตามมาโดยอัตโนมัติ

3. การผสาน Online – Offline Experience

ท็อปส์ไม่ได้หยุดที่การสร้างแลนด์มาร์กกลางเมือง แต่ยังต่อยอดไปสู่การเปิดตัว LINE Sticker และน้ำดื่มลิมิเต็ด เอดิชั่น นี่คือการผสมผสานกลยุทธ์ O2O (Online-to-Offline) อย่างแท้จริง ทำให้ท็อปสเตอร์ไม่ใช่เพียง “สัญลักษณ์ชั่วคราว” แต่แทรกซึมเข้าไปอยู่ในวิถีชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทั้งในโลกจริงและโลกดิจิทัล

4. Positioning : Lifestyle Supermarket

ท็อปส์ไม่ได้ขายแค่สินค้าอุปโภคบริโภค แต่กำลังสร้างภาพลักษณ์ของการเป็น “Lifestyle Supermarket” ที่ผู้บริโภคไม่ได้มาแค่ซื้อของ แต่ยังมาหาประสบการณ์ที่แตกต่าง การสร้างคาแร็กเตอร์และจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ในเมือง เป็นการวาง Positioning ให้ท็อปส์กลายเป็นแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับ “การใช้ชีวิต” ไม่ใช่แค่ “การจับจ่าย”

5. ผลลัพธ์ทางธุรกิจ

ในระยะสั้น แคมเปญนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายผ่านโพรโมชัน ส่วนลด และ “ดีลลับ” ที่ดึงลูกค้าเข้ามาช็อปทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ขณะเดียวกันในระยะยาว Character Marketing จะเป็นเครื่องมือสร้าง Brand Equity ที่มั่นคงและแตกต่าง ท็อปสเตอร์สามารถต่อยอดเป็น Merchandise ของสะสม หรือแม้แต่การร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์อื่น ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต

สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น ทั้งอิเวนต์การตลาด The Red Phenomenon ยังมอบโพรโมชันสุดพิเศษครั้งประวัติศาสตร์ จัดเต็มส่วนลดสุดเอกซ์คลูซิฟแบบไม่เคยมีมาก่อน พร้อมให้ช็อปสนุก คุ้มสุด และฟินสุดในทุกช่องทาง ตั้งแต่หน้าร้านจนถึงออนไลน์ โอกาสครั้งเดียวในรอบปีที่ลูกค้าท็อปส์ตัวจริงห้ามพลาด

เพียงช็อปครบทุก 600 บาท ที่ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์, ท็อปส์ ออนไลน์, ท็อปส์แคร์ (TOPS CARE), เพ็ทแอนด์มี (PET N’ME) หรือ ช็อปครบทุก 100 บาท ที่ท็อปส์ เดลี่ รับทันทีสมุดคูปองส่วนลด 1 ใบ ที่มอบส่วนลดทั้งตะกร้าสูงสุด 29% จากแบรนด์พันธมิตรชั้นนำกว่า 119 แบรนด์ เสริมส่วนลดเพิ่มเติม ด้วยคูปองส่วนลด On-Top ทั้งตะกร้า รวมมูลค่าสูงสุด 450 บาท โดยสามารถรับคูปองฉลอง 29 ปี ได้ที่จุดบริการทุกสาขา

ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม – 30  กันยายน 2568 (ระยะเวลาแจกและใช้คูปอง แบ่งเป็น 2 รอบ รอบที่ 1 วันที่ 20 สิงหาคม – 16 กันยายน 2568 และรอบที่ 2 วันที่ 17-30 กันยายน 2568)

พิเศษ สำหรับลูกค้าที่ช็อปครบตามเงื่อนไขและได้รับคูปองตั้งแต่วันที่ 20 – 28 สิงหาคม 2568 (รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด) เท่านั้น เตรียมพบกับสุดยอด “ดีลลับ” วันที่ 29 สิงหาคม 2568 วันเดียวเท่านั้น เช็กสิทธิ์ได้ที่ TOPS My Rewards ในไลน์ออฟฟิเชียล TOPS Thailand, TOPS FOOD HALL และ TOPS DAILY ห้ามพลาดเด็ดขาด หรือข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tops.co.th, เฟซบุ๊กแฟนเพจ Tops Thailand หรือแอปพลิเคชัน @TopsThailand