The Success Story of The Month By ‘Business+’ ฉบับเดือนมกราคม 2568 จะพาผู้อ่านมาพบกับบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจาก “ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ โชติเตชธรรมมณี” ผู้ก่อตั้งและบริหารกลุ่มบริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด ซึ่งจะมาถอดบทเรียน Think Global Act Local ดันแบรนด์ Dr.JEL สู่ทำเนียบ Wellness ชั้นนำแห่งเอเชีย จากนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ผู้มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพและสามารถสร้างธุรกิจที่มีมูลค่านับพันล้านบาทในระยะเวลาอันรวดเร็ว
แม้เศรษฐกิจโลกยังเผชิญกับความไม่แน่นอน แต่ตลาดสุขภาพและความงาม กลับเติบโตสวนกระแสอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปัจจุบัน กระแสความสนใจในเรื่องความสวยงามและการดูแลสุขภาพยังได้รับแรงหนุนจากโซเชียลมีเดีย และการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร เช่น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือช่วง Post Covid-19 ที่เกิดเป็นเมกะเทรนด์ระดับโลก ส่งผลให้อุตสาหกรรมนี้ ไม่เพียงแต่เป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง แต่ยังเต็มไปด้วยโอกาสสำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง
เมื่อพูดถึงโลกธุรกิจสุขภาพและความงาม หนึ่งในชื่อองค์กรที่ทั้งโดดเด่น และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักธุรกิจรุ่นใหม่ คือ ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ โชติเตชธรรมมณี หรือที่รู้จักกันในนามผู้ก่อตั้งและบริหารกลุ่มบริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด ชายหนุ่มผู้มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพและสามารถสร้างธุรกิจที่มีมูลค่านับพันล้านบาทในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ โชติเตชธรรมมณี หรือ ดร.เจล ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของแบรนด์ไทยที่ประสบความสำเร็จในตลาดนี้ แม้ใช้ระยะเวลาก่อตั้งบริษัทไม่ถึง 10 ปี แต่มีประสบการณ์จากการผลิตสินค้าให้กับผู้ประกอบการมาไม่ต่ำกว่า 1,000 แบรนด์ โดยจุดเริ่มต้นของเขาไม่เพียงเป็นเรื่องของความหลงใหลในธุรกิจ แต่ยังเป็นความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาของผู้บริโภคผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง ทำให้ผลิตภัณฑ์ Dr.Jel เป็นแบรนด์ไทยที่ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดสุขภาพและความงาม ทั้งในระดับประเทศและกำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายระดับโลกในเร็ว ๆ นี้
เจาะลึกเส้นทางเติบโต
ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ โชติเตชธรรมมณี หรือที่รู้จักกันในนามผู้ก่อตั้งและบริหารกลุ่มบริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด เขาไม่ได้เป็นเพียงนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังเป็นตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ความรู้ ความสามารถ และวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนธุรกิจ เขาแสดงให้เห็นว่า “ความสำเร็จขององค์กร ไม่ได้มาจากการทำตามกระแส แต่เกิดจากการสร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเองและทีมงานอย่างต่อเนื่อง”
เห็นได้ชัดจากจุดเริ่มต้นธุรกิจ แบรนด์ Dr.Jel ปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี 2558 โดย ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ เลือกใช้ชื่อตัวเองมาตั้งเป็นชื่อแบรนด์ เพราะเล็งเห็นว่า การเปิดเผยตัวตนและหน้าตาของตัวเองให้ลูกค้าผู้บริโภคได้สัมผัส เท่ากับเป็นการแสดงความจริงใจของแบรนด์ อีกทั้งยังมองว่าสามารถจะช่วยการันตีความน่าเชื่อถือได้อย่างดี
“ตนเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่ยังใส่ชุดนักศึกษามหาวิทยาลัย เริ่มจากการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ รับรีวิวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จนมีผู้ติดตามสูง จนวันหนึ่งก็คิดว่า เราสามารถเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าเองได้ ประกอบกับสาขาวิชาที่เรียนจบมา อยู่ในกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ จึงมองว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีหากเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองขึ้นมา
”ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ ย้อนอดีตให้ฟังคร่าว ๆ
ไอเดียแค่เริ่มต้นธุรกิจของ ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ หลายคนอาจจะมองแค่การขายสินค้ากลุ่มสุขภาพเท่านั้น แต่ในความจริงแล้ว เขามองไกลกว่านั้นมาก คือ การตั้งโรงงานผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งแต้มต่อของการมีโรงงานเป็นของตัวเอง กลายเป็นจุดแข็งของแบรนด์และยังทำให้ ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ สามารถขยายการเติบโตสู่ธุรกิจด้านการรับผลิตเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นำเข้าวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ ก่อนจะมาต่อยอดสู่การเปิดตัวบริษัทรับทำการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตลอดจนดูแลการขายหลังบ้านแบบ One Stop Service ให้กับคู่ค้า
ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด มีธุรกิจหลากหลาย ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง สมุนไพร เครื่องมือแพทย์ อีกทั้งยังเป็นผู้รับจ้างออกแบบและผลิตสินค้า แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างให้องค์กรแห่งนี้ คือ การทำธุรกิจแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ ซึ่งประกอบด้วย 4 โมเดลธุรกิจหลักที่ช่วยเติมเต็ม Ecosystem ธุรกิจของให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ประกอบด้วย
- บริษัท ออกานิกส์ คอสเม่ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตเครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์
- บริษัท ออกานิกส์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทางการแพทย์
- บริษัท ออกานิกส์ กรีนส์ ฟาร์ม จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับนำเข้า-ส่งออกวัตถุดิบ การเพาะปลูกพืชต้นน้ำสารสกัดสำคัญกลุ่มอาหารเสริม ซึ่งเป็นบริษัทที่ป้อนวัตถุดิบให้กับทุกบริษัทในเครือ
- บริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด ดำเนินธุรกิจค้าปลีกรวมถึงวางระบบ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องสำอางสำหรับดูแลสุขภาพ
ทุกอย่างเริ่มจาก Pain Point
“อุตสาหกรรมนี้ วัดกันที่ความแตกต่างและนวัตกรรม ใด ๆ ที่เป็น Pain Point ลูกค้า แล้วผมสามารถผลิตขึ้นมาได้ตามความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ Ideal จัด ๆ หรืองานที่เหมือนเป็นไปไม่ได้ เราจะพยายามหา หรือทำให้ลูกค้าให้ได้ อย่างน้อยสัก 90% ยอมรับว่ามันเป็นงานยาก แต่ผมมองว่า ถ้าผมทําได้ ก็จะไม่มีใครมาสู้ผมได้ อันนี้คือสิ่งที่ท้าทายสําหรับผม” ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ กล่าว
ที่ผ่านมา เบื้องหลังความสำเร็จของเรา คือ การลงทุนในงานวิจัยและพัฒนา (R&D) ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของผู้บริโภค โดยมีทีมงานวิจัยกว่า 20 คน ผนวกกับการที่ตัวของ Owner คือ ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ เป็นผู้บริหารที่มีแบ็กกราวนด์โดยตรง ในพื้นฐานด้านเภสัชศาสตร์ นำมาซึ่งความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อจะช่วยสร้างความแตกต่าง (Unique Selling Point) และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาด
ที่เห็นได้ชัดคือ ทุกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Dr.Jel ได้รับการพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยชั้นนำ ซึ่งไม่เพียงเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ อีกมุมหนึ่งยังช่วยยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมไทยให้ทัดเทียมระดับโลก โดยแนวคิดและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าที่ไม่เพียงตอบโจทย์ตลาด แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ดังนั้น สิ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Dr.Jel มีความ แตกต่าง คือ ความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะ (Specialized Solutions) ผสานกับการใช้วัตถุดิบธรรมชาติและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย
ตัวอย่างที่ชัดเจน คือ ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักที่ใช้สารสกัดธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในตลาดทั่วไป โดยเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนที่ช่วยลดความอยากอาหารและควบคุมระดับอินซูลิน หรือนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาสุขภาพแบบเจาะจง
โดยนวัตกรรมนี้คือ Dual Soft Gel ซึ่งเป็นการพัฒนาแคปซูล 2 ชั้น โดยมีคุณสมบัติช่วยควบคุมการดูดซึมสารอาหารในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแยกการดูดซึมในกระเพาะและลำไส้เล็ก
รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช (Plant-Based Protein) ที่ไม่เพียงอร่อย แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหาร รวมถึงผลิตภัณฑ์ของ ดร.เจล ยังเน้นการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจต่อสุขภาพและหลีกเลี่ยงสารเคมี รวมถึงการส่งผลิตภัณฑ์เข้าประกวดในเวทีระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในตลาดและเพิ่มการยอมรับจากผู้บริโภค ล่าสุดนวัตกรรมนี้ Dual Soft Gel ได้รับรางวัลเหรียญทองจากประเทศโรมาเนีย และรางวัลจากเวทีระดับนานาชาติถึง 7 รางวัลในปีที่ผ่านมา
Key to Success : ชูจุดแข็งด้วยความเป็น Expertise
ไม่เพียงเฉพาะการมีพื้นฐานการศึกษาด้านเภสัชศาสตร์และเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้เขาสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างแท้จริง และเขายังสร้างอีกจุดแกร่ง คือ การสร้างพันธมิตรธุรกิจที่ดี หากคู่ค้ารายใดที่เคยทำงานกับ ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ จะรู้ดีว่า ในฐานะพันธมิตรธุรกิจที่ดี เขาจะทุ่มเทร่วมหัวจมท้ายกับคู่ค้าอย่าง “ลงลึก” ทุกรายละเอียด จนทำให้คู่ค้าเขาไม่เคยเปลี่ยนใจไปที่อื่น
“โดยปกติถ้าเป็นโรงงานที่อื่น อาจรับผลิตอย่างเดียว แต่ปัจจุบันธุรกิจในเครือฯ เรามีครบทุกอย่าง ตอนนี้เราเริ่มทำการตลาดให้ลูกค้าด้วย ทั้งเข้าไปช่วยวางกลยุทธ์ การขาย แม้กระทั่งการตลาด ทั้งการรี-ออร์เดอร์ หรือกระตุ้นการสั่งซื้อซ้ำ เราดูให้ทั้ง Pipeline เรามีระบบ ERP เราสามารถที่จะไกด์ให้ลูกค้าได้ทั้งหมด เรามีบริการให้ลูกค้าเลือกใช้ได้รวมถึงการทำ Production เรียกว่า ครบ จบ ในที่เดียว”
กลยุทธ์การปรับตัวและรุกตลาด
การตลาดเชิงรุก ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่สร้างความสำเร็จให้แก่บริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด นั่นเพราะว่า พฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีการสนใจศึกษาข้อมูลมากขึ้น ทำให้การตลาดต้องปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์เสมอ รวมถึงการใช้เครื่องมือการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อาทิ การเลือกพรีเซนเตอร์ที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภค เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียและช่องทางออนไลน์ในการสื่อสาร
“ตอนนี้ยอมรับว่า การทำตลาดปัจจุบัน ด่านแรกของการแนะนำตัวต่อลูกค้า ยังคงต้องอาศัยบุคคลมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก เพื่อช่วยเปิด “ประตูบานแรก” เพื่อเจาะเข้าถึงสร้างการรับรู้ (Awareness) ในกลุ่มเป้าหมาย หากแต่ท้ายสุดแล้ว เขายังเชื่อว่า สิ่งที่จะเป็นกุญแจสำคัญในการยืนระยะในใจลูกค้าได้อย่างยาวนาน ยังคงไม่พ้นเรื่อง “คุณภาพ” ซึ่งสามารถเป็นแรงส่งทั้งด้านยอดขายและการเป็นที่ยอมรับในใจลูกค้า สิ่งนี้วัดได้ด้วยอัตราการ “ซื้อซ้ำ” ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า ปัจจัยที่ทำให้กลุ่มบริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด เติบใหญ่ในเวลาอันรวดเร็วมาจากคำว่า Never Give up โดยทุกคนในองค์กรต้องรักการเรียนรู้และช่างสังเกต รวมไปถึงต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปัจจุบัน โลกธุรกิจไม่ได้แข็งแกร่งด้วยเงินทุน แต่กลายเป็นผู้ที่ครอง Network ได้อย่างแข็งแกร่งถึงจะกลายเป็นผู้ชนะในตลาด”
“เราไม่มีวันที่จะหยุดพัฒนา เพราะโลกของธุรกิจในปัจจุบันหมุนไปอย่างรวดเร็ว เดิมเราคุ้นเคยกันดีกับคำว่า Transform หรือพัฒนาเปลี่ยนแปลงของเดิมให้ดีขึ้น แต่ยุคนี้กลายเป็นยุคของ Disruption คือการสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่ามาทดแทน โดยในปี 2568 กิจกรรมเชิงรุกที่กลุ่มบริษัทฯ จะมุ่งโฟกัสคือ การขยายช่องทางการตลาดในกลุ่มตลาดออฟไลน์ ซึ่งวางแผนเจาะเข้าสู่ช่องทางการขายใน โมเดิร์นเทรด โดยตั้งเป้าบุกตลาดนี้ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ภายใต้แบรนด์ No.24 ซึ่งจะถูกวางตำแหน่งกลุ่มลูกค้าสำหรับกลุ่ม Masstige ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างตลาดแมสและตลาดพรีเมียม ซึ่งมองว่าจะเป็นอีกช่องทางที่ตั้งเป้าตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์สินค้าก่อนการซื้อ ซึ่งมีความมั่นใจว่า การเข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด ไม่เพียงช่วยเพิ่มช่องทางการขาย แต่ยังช่วยสร้าง การรับรู้ (Awareness) และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์มากยิ่งขึ้น” ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ ระบุ พร้อมเสริมว่า
ปี 2568 จะเป็น The Next Chapter สำหรับกลุ่ม บริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด ทั้งจากแผนสินค้าใหม่ การลงทุนใหม่ ทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนเป้าหมายใหม่ นั่นคือ Next Goal and New Vision วางเป้าขึ้นแท่นเบอร์ 1 เอเชีย
“ผมเชื่อว่าแบรนด์ไทยไม่ได้ด้อยกว่าใครในโลก เราเพียงต้องแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเรา ให้ทั้งคู่ค้า ลูกค้าได้เห็น รวมถึงการเสนอแผนธุรกิจในอนาคต ซึ่งเราจะไม่ได้หยุดอยู่แค่ความสำเร็จในประเทศไทย แต่คือการตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้ผลิตสินค้าความงามและสุขภาพอันดับ 1 ในเอเชีย โดยมีแผนขยายฐานการผลิตทั้งในและต่างประเทศ ผ่านการขับเคลื่อนธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการเตรียมความพร้อมนี้ ผมมองว่าจะเป็นแต้มต่อที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการลงทุนและเติบโตในระดับภูมิภาคได้แบบก้าวกระโดด
หมายความว่า การที่เราเป็นองค์กร มีสถานะคำว่า มหาชน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เท่ากับว่า เรามีทุนในการ Scale ทุกอย่างเพิ่ม จากเดิมเราเริ่มมาจากศูนย์ เราไม่มีอะไรเลย ดำเนินกิจการมาทีละ Step ดังนั้นเราจะมีทุนในการไปต่อ โดยที่เราจะ Scale ให้ได้มากกว่าเดิมอีกหลายเท่า”
หากเจาะลึกเหตุผลที่ทำให้เขา “กล้า” ที่จะฝันใหญ่เบอร์นี้ ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ เผยว่า “ในอดีต ถ้าผมเทียบกับ Global แบรนด์ระดับท็อปเทนอย่างเช่น แบรนด์เกาหลี ผมว่าสิ่งที่ผมกับเขาแตกต่างกัน คือ ทุนทรัพย์ แต่พอเรากระโดดเข้ามาเล่นเกมใหญ่ เริ่มจาก 2025 เป็นต้นไป ก็มองว่าเรื่องของ Capital ผมไม่มีอะไรที่ต้องแพ้แล้ว เพราะผมเชื่อว่า เราไม่ได้ด้อยกว่าใครแน่นอน ส่วนเรื่องความคิดและความสามารถ เพราะเราพัฒนา Skill ตัวเองทุกวัน
เป้าหมายใหญ่ของผมคือ อยากทําให้ทุกคนมองเห็นศักยภาพของแบรนด์ไทย เทียบเท่าแบรนด์ระดับโลก และเราอยากผลักดันสินค้าไทยให้ติดตลาดโลก เหมือนแบรนด์ Skin Care เกาหลี ดังนั้น เราจึงทุ่มเต็มที่ ด้วยแนวคิด Think Global Act Local ด้วยวิธีในแบบของผม” เขาประกาศจุดยืนหนักแน่น พร้อมเผยว่า
“ถ้าถามผมว่า เราจะไปถึงจุดไหนอย่างไร ก็คือเดิมที บริษัท ออกานิกส์ คอสเม่ จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตเครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ ในประเทศไทย ซึ่งการที่เราจะ Scale ไปถึงจุดนั้นได้ นอกจาก Capital แล้ว ก็ต้องบอกว่า เราดำเนินการร่วมทุนกับพันธมิตรในเกาหลีใต้ ด้วยการเปิดโรงงาน ORGANICS COSME KOREA ประเทศเกาหลีใต้ โดยโรงงานนี้เป็นอีกหนึ่งสายการผลิตสินค้า ป้อนกลับมาให้คนไทยได้มีโอกาสใช้สินค้าจากประเทศที่มีชื่อชั้นด้านนวัตกรรมความงามและสกินแคร์ระดับโลก ภายใต้เจ้าของซึ่งเป็นคนไทย”
อย่างที่บอกว่า กลุ่มบริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด ดำเนินธุรกิจครบวงจรในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ ไม่เพียงเป็นตัวอย่างของการบริหารธุรกิจที่เน้นคุณภาพ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงพลังของแบรนด์ไทยที่สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ โดยมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมผลักดันให้สินค้าไทยกลายเป็นผู้นำในระดับนานาชาติ ซึ่งความกล้าที่จะฝันใหญ่และลงมือทำอย่างจริงจัง ทำให้เขาเป็นตัวอย่างของผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนอย่างไม่ต้องสงสัย …
เคล็ดลับความสำเร็จกลุ่มบริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด
- สร้าง Ecosystem ธุรกิจครบวงจร
การบริหารของ ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่ยังครอบคลุมถึงการสร้างระบบนิเวศ ธุรกิจแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตวัตถุดิบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการทำตลาดแบบ
One-Stop Service
- การขยายสู่ตลาดโมเดิร์นเทรดและต่างประเทศ
นอกจากการเติบโตในตลาดออนไลน์ ดร.เจล ยังมุ่งหน้าสู่ตลาดออฟไลน์ เช่น โมเดิร์นเทรด และการขยายฐานธุรกิจในระดับนานาชาติ เช่น การตั้งโรงงานในเกาหลีใต้ การมีพันธมิตรในจีน การวางเป้าหมายนี้ช่วยขับเคลื่อนให้แบรนด์ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าสุขภาพและความงามชั้นนำของเอเชีย
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน
เน้นการใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ซึ่งกลายเป็นจุดขายที่สำคัญในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจเรื่องความปลอดภัยและความยั่งยืนมากขึ้น
- R&D การวิจัยคือ รากฐานความสำเร็จ
ตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ การผสมผสานระหว่าง นวัตกรรม (Innovative), ความเข้าใจผู้บริโภค (Pain Point), และ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ (R&D) คือ รากฐานความสำเร็จของกลุ่มบริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด
เขียนและเรียบเรียง : Nutty
ติดตาม Business+ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
Youtube : https://www.youtube.com/@thebusinessplus7829
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus #Business #Dr.Jel