การบินไทย พึ่งประกาศรับสมัครพนักงานบนเครื่องบิน จำนวน 200 อัตรา เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา ชาวเน็ตผู้ร่ำเรียนศิลป์ – ภาษา พากันตกตะลึง! เพราะคุณสมบัติขั้นต่ำด้านภาษาที่ 3 ที่สายการบินกำหนดไว้นั้น ดูสูงงงง ดูเกินเบอร์มากแม่!
แล้วตกลงการบินไทยตั้งคุณสมบัติสูงไปมั้ย การตั้งคุณสมบัติดังกล่าวจะตั้งไปเพื่ออะไร ลองมาคิดตามไปพร้อมกัน!
คุณสมบัติแอร์โฮสเตส – สจ๊วต
จากรูปคุณสมบัติด้านบนจะเห็นว่า เกณฑ์ภาษาอังกฤษมาตรฐานในการทำงานสายภาษาพึงได้ คือ Toeic 600 คะแนนขึ้นไป ซึ่งระดับคะแนนนี้ก็ใช้ในการสมัครงานในบริษัทดัง ๆ หลายแห่ง เช่น
- ตำแหน่ง Export Sales Representative ของ ปตท.
- ตำแหน่ง Language & Culture Learning Center ของ CENTRAL GROUP
- ตำแหน่ง R&D Engineer บริษัท Nissan Motor Asia Pacific
แต่พอมาเป็นภาษาที่ 3 กลับตั้งเกณฑ์ที่สูงมาก เช่น ด้านภาษาจีน หลายสายการบินรับสมัครแอร์– สจ๊วต ที่ HSK4 แต่ การบินไทยใช้ HSK5
ระดับขั้น ของ HSK
การสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน Hanyu Shuiping Kaoshi หรือที่เรียกติดปากกันว่าสอบ HSK ซึ่งมีระดับสูงสุดอยู่ที่ขั้น 6
- HSK1 เป็นระดับแรกสุด รู้ศัพท์เบื้องต้นเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่ 150 คำ
- HSK2 จะเริ่มรู้การพูดคุยขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เช่นกินข้าวรึยัง รู้ศัพท์ 300 คำ
- HSK3 เพิ่มส่วนของการเขียน การแต่งประโยค สามารถพูดคุยทั่วไปได้ ไปเที่ยวไม่หลงทาง รู้ศัพท์ 600 คำ
- HSK4 สามารถสื่อสารได้คล่องแคล่ว ใช้เพื่อขอทุนศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในจีนได้แล้ว รู้ศัพท์ 1200 คำ งานล่าม หรือมัคคุเทศน์ส่วนใหญ่จะรับระดับนี้ขึ้นไป
- HSK5 เริ่มเข้าข่ายเจ้าของภาษา สามารถกล่าวสุนทรพจน์ และยื่นขอทุนต่อปริญญาโทในจีนได้ รู้ศัพท์ 2500 คำ
- HSK6 มีความรู้เทียบเท่าเจ้าของภาษา รู้ศัพท์ 5000 คำ
การตั้งเกณฑ์ภาษาที่ 3 ของการบินไทยอยู่ในระดับที่เกือบจะพูดได้เหมือนกับเป็นเจ้าของภาษาอยู่แล้ว อีกทั้งผู้สมัครต้องอายุไม่เกิน 24 ปี ส่งผลให้ชาวเน็ตคิดว่าอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมือใหม่ แค่พูดจาสื่อสารกับลูกค้าเพื่อบริการก็เพียงพอ ไม่ถึงขนาดต้องไปนั่งถกปัญหาธรรมกับผู้โดยสาร คุยแบบนักวิชาการหรือเป็นทูตสัมพันธ์ไมตรี
ผลกระทบ ต่อ การบินไทย
มาดูทางฝั่งการบินไทย ที่ประสบปัญหาขาดทุนอ่วมกว่า 6.4 พันล้านบาท ค่าใช้จ่ายหลักของการบินไทยคือ ค่าน้ำมันเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานโดยคิดเป็นสัดส่วนกว่า 43% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดของบริษัท
พนักงานที่มีคุณสมบัติสูงย่อมต้องการค่าตอบแทนที่สูงกว่าปกติ หรือสวัสดิการที่ดีกว่า ซึ่งหากการบินไทยไม่ให้มากกว่าสายการบินอื่น พวกเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องมาสมัคร เพราะสามารถทำเงินกับที่อื่นได้มากกว่า หรือพอสมัครแล้วรู้สึกไม่คุ้มค่าตัวก็จะลาออก กลับกันหากการบินไทยปรับเงินเดือนและสวัสดิการให้เพิ่มขึ้นก็จะยิ่งทำให้ขาดทุนหนักกว่าเดิม
กลยุทธ์การบินไทย
ทางรอดต่าง ๆ ที่การบินไทยออกมาต่อสู้กับภาวะขาดทุนไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถด้านภาษาที่ 3 ที่เพิ่มขึ้นในเชิงประจักษ์ เช่น
- SaveTG Co-Creation กลยุทธ์ควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพ การให้บริการ ให้พนักงานแสดงความคิดเห็นว่าควรจะปรับปรุงองค์กรอย่างไร
- Zero Waste Management ลดปริมาณของเหลือใช้ เช่น อาหารเหลือทิ้ง
- การรุกตลาดใหม่ บินตรงสู่เซนได
- จัดโปรโมชั่น เพิ่มรายได้โดยใช้ Digital Marketing
- THAI Synergy นำสินค้าและบริการไปขยายกิจการผสานพลังกับพันธมิตร
- TG Group การบินไทย เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับ ไทยสมายล์
ตั้งเกณฑ์คุณสมบัติเกินตำแหน่ง?
มาจนถึงจุดนี้ ทุกคนอาจจะยังสงสัยกันอยู่ว่า ทั้งที่มีข้อบ่งชี้ว่า การบินไทย รับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินด้วยคุณสมบัติทั่วไปจะไม่เป็นการดีกว่าหรือ?
อ้างอิงคำพูดของ Claudio Fernández-Aráoz ที่ปรึกษาอาวุโสของ Egon Zehnder International บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกด้านการเฟ้นหาผู้บริหาร เขามองว่าการรับสมัครผู้ที่เก่งเกินเกณฑ์ตำแหน่ง จะสามารถช่วยจะสามารถช่วยบริษัทได้ดีกว่า เพราะพวกเขาจะมีวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกล ช่วยพัฒนาบริษัทได้ก้าวกระโดดมากกว่ารับพนักงานที่คุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่ง
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การบินไทยอยู่ในเครือ Star Alliance เครือข่ายพันธมิตรสายการบินขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีสิงคโปร์แอร์ไลน์ ที่รับสมัครแอร์ – สจ๊วต ที่ใช้ HSK 5 เช่นกัน ทำให้คิดได้ว่าการบินไทยอาจต้องการยกระดับมาตรฐานให้เท่าเทียมกันก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามเรื่องภาษาที่ 3 ในการรับสมัครแอร์ – สจ๊วต ของสายการบินไทยก็เป็นเพียง “หากมีความสามารถถึงระดับที่ตั้งไว้นี้ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ” ถ้าคุณสมบัติด้านภาษาที่ 3 ไม่ถึงเกณฑ์ ก็ยังสามารถสมัครมาแข่งขันกับผู้สมัครรายอื่นแบบปกติได้ และในประเด็นอายุไม่เกิน 24 ปี ก็แสดงให้เห็นว่า การบินไทยมีมุมมองที่อยากพัฒนาองค์กรโดยการรับคนรุ่นใหม่ ให้โอกาสเด็กเก่งให้เฉิดฉายในมาตรฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิม
ดังนั้นเกณฑ์ภาษาที่ 3 ที่หลายคนมองว่ามากเกินไป อาจจะส่งผลดีต่อการบินไทยมากกว่าที่คาดไว้ก็เป็นได้
อ้างอิง : thestandard