รู้จัก 3 ร้านซูชิสายพานจากญี่ปุ่น ที่มาเปิดในไทย

ธุรกิจร้านอาหารที่เป็นกระแสมากตอนนี้คงหนีไม่พ้น ซูชิสายพาน หลังจากที่ Sushiro ร้านดังจากญี่ปุ่น สามารถเข้ามาตีตลาดในไทยได้สำเร็จ ทำให้มีคู่แข่งเข้ามาลงแข่งในสนามนี้ด้วย

ถ้าพูดถึงรายใหญ่จากญี่ปุ่น นอกจาก Sushiro แล้ว ก็มีพวก Genki Sushi และ Hama Sushi โดยรายหลังเข้ามาตีตลาดช้ากว่าเพื่อนหลังจากเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ช่วงไม่นานมานี้

ธุรกิจซูชิสายพานจะไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าได้ง่าย ๆ เพราะคนกินเน้นความคุ้มค่าในแง่ของคุณภาพวัตถุดิบและปริมาณ ดังนั้นสิ่งที่ใช้วัดว่าใครจะเหนือกว่าคู่แข่งได้จริง ๆ คือการคุ้มต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยเหตุนี้ หลายร้านจึงหันมาปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอสินค้าเพื่อลดต้นทุน อย่างเช่น Genki Sushi และ Hama Sushi ที่เลิกปั้นซูชิวางบนสายพานรอให้ลูกค้าหยิบ แล้วมาทำเป็นแบบปั้นซูชิตามออเดอร์แทน เพื่อลดขยะที่เกิดจากอาหาร

ฝั่ง Sushiro ในญี่ปุ่น เองก็มีการทำ Digital Transformation อย่างต่อเนื่อง ที่เด่น ๆ ก็คือโมเดลธุรกิจ “Digiro” (Digital + Sushiro) ที่ยกสายพานไปอยู่ในจอใหญ่แทน ช่วยรักษาความสะอาดของอาหาร ลดต้นทุนและยังช่วยเพิ่ม Traffic ได้อีกด้วย

สรุปแล้ว ในยุคที่การแข่งขันเริ่มรุนแรงขึ้น ร้านอาหารหลายแห่งต้องปรับตัวจนอาจทำให้สูญเสียอัตลักษณ์ของร้านไป อย่างร้านซูชิสายพานที่ไม่มีสายพานแล้ว แต่เพื่อความอยู่รอดแล้ว การตัดสิ่งที่สิ้นเปลืองออกไปก็อาจเป็นสิ่งที่จำเป็น

ที่มา: โซเชียลมีเดียของร้าน, Big Data Institute, Yahoo Finance, Sushiro