ดูเหมือนว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคที่หดตัวจากเศรษฐกิจทั่วโลกนั้น จะกระทบไปยัง สตาร์บัคส์ (Starbucks) ธุรกิจร้านกาแฟยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ที่ถึงแม้จะมีกลุ่มลูกค้าพรีเมียมที่อาจจะได้รับผลกระทบจากประเด็นนี้น้อยกว่าแบรนด์อื่นๆ โดยเฉพาะกับสตาร์บัคส์ในประเทศจีนตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสตาร์บัคส์ ที่กำลังเผชิญกับปัญหาหลายด้าน
หนึ่งในนั้นคือการแข่งขันที่ดุเดือดหลังจากมีผู้ประกอบการหน้าใหม่สร้างแบรนด์ดิ้งและเข้าสู่ตลาดเครื่องดื่มโดยเฉพาะชามากขึ้น จนต้องประกาศปรับลดราคาเครื่องดื่มชาในทุกสาขาทั่วประเทศจีน เพื่อกระตุ้นยอดขายที่ชะลอตัว ซึ่งการปรับลดราคานี้ถือว่าขัดต่อภาพลักษณ์แบรนด์พรีเมียมของสตาร์บัคส์เป็นอย่างมาก
โดยสตาร์บัคส์แถลงผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียวีแชทในวันที่ 9 มิ.ย.68 ว่า บริษัทจะปรับลดราคาเครื่องดื่มชาแฟรบปูชิโน่ ชาเย็น และชาลาเต้จำนวนกว่า 10 รายการ โดยลดลงเฉลี่ย 5 หยวน (ประมาณ 70 เซนต์) เพื่อดึงดูดลูกค้าในช่วงหน้าร้อน ซึ่งภายหลังการปรับลดราคาล่าสุด ลูกค้าสามารถซื้อเครื่องดื่มชาที่สตาร์บัคส์ในจีนได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 23 หยวน ซึ่งใกล้เคียงกับราคาของร้านชาพรีเมียมในจีนที่เน้นให้ซื้อกลับบ้าน แต่สตาร์บัคส์มีพื้นที่กว้างขวางให้นั่ง
ด้าน โทนี่ หยาง ผู้บริหารระดับสูงของสตาร์บัคส์จีน ระบุว่า การเพิ่มทางเลือกเครื่องดื่มนอกเหนือจากกาแฟ จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น และคาดหวังว่าการเพิ่มเมนูชาในจีนอาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้สตาร์บัคส์สามารถแข่งขันกับร้านชาในท้องถิ่นและดึงลูกค้ากลับคืนมาได้ซึ่งกลยุทธ์นี้ขัดกับทาง สตาร์บัคส์ ในสหรัฐฯ ที่ใช้กลยุทธ์เน้นเมนูกาแฟเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามการลดราคาครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับสตาร์บัคส์ที่เคยยืนหยัดรักษาภาพลักษณ์แบรนด์พรีเมียมในจีนมาโดยตลอด ในขณะที่ต้องแข่งขันกับแบรนด์ท้องถิ่นที่ตั้งราคาถูกกว่า
ที่มา : IQ , Starbucks
เรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ติดตาม Business+ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS