เทคนิคการผ่าตัดแบบ MIS = การปฏิวัติวงการแพทย์กระดูกสันหลัง

เทคนิคการผ่าตัดแบบ MIS = การปฏิวัติวงการแพทย์กระดูกสันหลัง

ในยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การผ่าตัดกระดูกสันหลังแบบเดิมที่ต้องเปิดแผลใหญ่ เสียเลือดมาก และฟื้นตัวนาน กำลังจะกลายเป็นเรื่องของอดีต

เทคนิคการผ่าตัดแบบ MIS (Minimally Invasive Surgery) หรือ “การรักษาแบบบอบช้ำน้อย” ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของการรักษาโรคกระดูกสันหลัง โดยคนไข้ 95% สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ภายใน 1 วันหลังการผ่าตัด โดยมีแผลที่เกิดจากการผ่าตัดเพียง 0.5 เซนติเมตร และเสียเลือดไม่ถึง 1 ช้อนชา

อย่างที่กล่าวมาคือ เทคนิคการผ่าตัดแบบ MIS เป็นการปฏิวัติในวงการแพทย์กระดูกสันหลัง นั่นเพราะว่า เทคนิคนี้ทำให้เราสามารถให้การรักษาคนไข้ได้รวดเร็วขึ้น และยังมีประสิทธิภาพดีกว่าการผ่าตัดแบบเปิดใหญ่ ซึ่งถามว่า การผ่าตัดแบบ MIS เป็นการปฏิวัติการผ่าตัดกระดูกคอและกระดูกสันหลังสำหรับแพทย์หรือไม่ โดยส่วนตัวมองว่า 100%

ด้วยจุดเด่นที่โดดเด่นที่สุดของเทคนิค MIS คือ ขนาดของแผลผ่าตัดที่เล็กมาก เพียง 0.5 เซนติเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดในอดีตที่ต้องเปิดแผลยาวหลายเซนติเมตร บางครั้งถึง 10-15 เซนติเมตร

แน่นอนว่า ความแตกต่างนี้ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลข แต่หมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในประสบการณ์ของผู้ป่วย โดยแผลเล็กหมายถึงการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อรอบข้างน้อยกว่ามาก กล้ามเนื้อ เอ็น และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษา จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

นี่คือหลักการพื้นฐานของการรักษาแบบบอบช้ำน้อย ที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์สมัยใหม่ ซึ่งการมีแผลเล็กยังส่งผลต่อความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บปวดน้อยกว่ามาก ต้องการยาแก้ปวดน้อยกว่า และสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วกว่า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้ภายใน 1 วัน

อีกหนึ่งข้อได้เปรียบที่สำคัญของเทคนิคนี้ คือคนไข้จะสูญเสียเลือดระหว่างการผ่าตัดเพียง 5 ซีซี หรือไม่ถึง 1 ช้อนชา เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดในอดีตที่อาจเสียเลือดหลายร้อยซีซี หรือแม้กระทั่งหลายพันซีซีในบางกรณี โดยการเสียเลือดน้อยมีความหมายอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของผู้ป่วย เพราะหมายถึงความเสี่ยงจากการผ่าตัดที่ลดลงอย่างมาก ผู้ป่วยไม่ต้องเสี่ยงกับภาวะโลหิตจาง ไม่ต้องการเลือดทดแทน และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการสูญเสียเลือดน้อยมาก

สำหรับผู้ป่วยสูงอายุ หรือผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคไต หรือเบาหวาน การเสียเลือดน้อยถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญมาก เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดได้อย่างมีนัยสำคัญ

เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง MIS

เทคนิคการผ่าตัดแบบ MIS ไม่ใช่เพียงแค่การทำแผลเล็กลง แต่เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้สามารถเข้าถึงจุดที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง โดยเครื่องมือหลักที่ใช้ในเทคนิค MIS ได้แก่ กล้องเอนโดสโคป (Endoscope) ที่มีขนาดเล็ก สามารถส่องดูภายในร่างกายได้อย่างชัดเจน เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็กที่ออกแบบมาเฉพาะ และระบบนำทางที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย เพื่อให้การผ่าตัดมีความแม่นยำสูงสุด และลดความเสี่ยงจากการทำลายเนื้อเยื่อที่สำคัญ

อย่างไรก็ตาม ข้อกังวลหลักที่ผู้ป่วยและแพทย์ มักมีต่อเทคนิค MIS คือ ประสิทธิภาพของการรักษาจะเท่าเทียมกับการผ่าตัดแบบเปิดหรือไม่ โดยการศึกษาและประสบการณ์ทางคลินิกจำนวนมากชี้ให้เห็นว่า เทคนิค MIS สามารถให้ผลการรักษาที่เทียบเท่ากับการผ่าตัดแบบเปิดใหญ่

หมายความว่า ในกรณีของโรคกระดูกสันหลัง เช่น หมอนรองกระดูกเสื่อม กระดูกสันหลังเสื่อม หรือการอักเสบของข้อกระดูกสันหลัง เทคนิค MIS สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างสมบูรณ์ และได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวหลายชนิด หรือผู้ที่เคยมีประวัติการผ่าตัดมาก่อน เทคนิค MIS เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าอย่างมาก

ดังนั้น การตัดสินใจเลือกใช้เทคนิค MIS ต้องอิงจากการประเมินที่รอบคอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยพิจารณาจากลักษณะของโรค ความรุนแรงของอาการ สภาพร่างกายโดยรวมของผู้ป่วย และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

แล้วอนาคตของเทคนิค MIS ?

เทคนิคการผ่าตัดแบบ MIS กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ เช่น หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ระบบนำทางด้วยปัญญาประดิษฐ์ และเครื่องมือที่มีความแม่นยำสูงขึ้น ทำให้เทคนิคนี้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และในอนาคต เป็นไปได้ที่แผลผ่าตัดจะเล็กลงไปอีก การเสียเลือดจะน้อยลงไปอีก และระยะเวลาในการฟื้นตัวจะสั้นลงไปอีก การพัฒนาเหล่านี้จะทำให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์มากขึ้น

สำหรับการเตรียมตัวสำหรับผู้ป่วยที่กำลังพิจารณาการรักษาด้วยเทคนิค MIS ทางโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ให้คุณมั่นใจได้ว่า จะได้รับการดูแลจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง ที่มีประสบการณ์การผ่าตัดแบบ MIS มากกว่า 13,000 ราย จะช่วยแนะนำการเตรียมตัวให้กับคนไข้เป็นอย่างดี และอย่างที่บอกในตอนต้นว่า เทคนิคการผ่าตัดแบบ MIS ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการปฏิวัติในวงการแพทย์กระดูกสันหลัง ด้วยแผลเพียง 0.5 เซนติเมตร การเสียเลือดไม่ถึง 1 ช้อนชา และการฟื้นตัวที่รวดเร็วจนผู้ป่วย 95% สามารถกลับบ้านได้ภายใน 1 วัน เทคนิคนี้ได้เปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของผู้ป่วยอย่างพื้นฐาน

“การรักษาแบบบอบช้ำน้อย” ไม่ใช่เพียงแค่คำขวัญ แต่เป็นปรัชญาการรักษาที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ป่วยน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เทคนิค MIS เป็นทางเลือกที่ควรพิจารณาอย่างจริงจัง การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมจะช่วยให้ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด และสามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพได้อย่างรวดเร็ว

เทคนิค MIS ไม่ใช่เพียงแค่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการให้การรักษาที่ดีที่สุดด้วยการสร้างความเดือดร้อนน้อยที่สุด นี่คือสิ่งที่การแพทย์สมัยใหม่ควรจะเป็น !!!

 

เขียนและเรียบเรียง : นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังจากโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์

ติดตาม Business+ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+  : https://lin.ee/pbIHCuS

IG  : https://www.instagram.com/businessplus.th/

Youtube : https://www.youtube.com/@thebusinessplus7829

#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus #Business