‘สิงห์’ โชว์ความเป็น Brand Modernization ผ่านดีไซน์กระป๋องลิมิเต็ด เอดิชั่น 4 แบบ สะท้อนเส้นทาง 90 ปี เบียร์ยี่ห้อแรกของไทย

หากพูดถึงธุรกิจเบียร์ในประเทศไทยแล้ว จะมีเบียร์ไม่กี่ยี่ห้อที่เรานึกถึง หนึ่งในนั้นคือ ‘เบียร์สิงห์’ ที่เป็นเบียร์แบรนด์แรกของประเทศไทย ภายใต้บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ซึ่งรู้หรือไม่ว่า เบียร์สิงห์อยู่กับคนไทยมาแล้ว 90 ปี นับตั้งแต่จดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 4 สิงหาคม ปี 2476

โดย เบียร์สิงห์ ผลิตโดยบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ซึ่งมีพระยาภิรมย์ภักดี (บุญรอด เศรษฐบุตร) เป็นผู้ก่อตั้ง และเริ่มผลิตเบียร์ออกขายเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ปี 2479

ทั้งนี้ในมุมของการสร้างแบรนด์ และปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเบียร์สิงห์ตลอด 90 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า เบียร์สิงห์ได้มีการปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างต่อเนื่องในหลายมิติให้เข้ากับยุคใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปทรงของขวด หรือ กระป๋อง เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยมากขึ้น หรือแม้กระทั่งการปรับโฉมแพคเกจจิ้งเพื่อให้สะดวกกับผู้บริโภคมากขึ้น และตอบรับกับการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมของโลกไปพร้อมๆ กัน

ถึงแม้ว่าเบียร์สิงห์จะมีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์อยู่เสมอ แต่สิ่งที่เบียร์สิงห์ให้ความสำคัญที่สุดคือ การรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตลอด 90 ปี ดังนั้น ผู้บริโภคจะรับรู้ได้ถึงรสชาติ และคุณภาพที่ไม่เปลี่ยนไป เพียงแต่จะได้เห็นเบียร์สิงห์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น ซึ่งกลยุทธ์ที่เบียร์สิงห์ใช้ตลอดมาเรียกว่าการทำ Brand Modernization นั่นเอง

ซึ่งในปี 2566 ทางบุญรอดจึงได้สร้างแคมเปญพิเศษ เพื่อเล่าเรื่องราวของ ‘สิงห์’ กับการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผ่าน 4 ดีไซน์บนกระป๋อง ลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่จะสะท้อนภาพ 4 ยุคการปรับตัว และ เปลี่ยนภาพลักษณ์ แบรนด์เบียร์สิงห์ ที่มีการปรับตัวให้สอดคล้องกับยุคสมัย

โดย คุณภูริต ภิรมย์ภักดี หรือ คุณเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2566 บุญรอดบริวเวอรี่ กำลังก้าวสู่ปีที่ 90 โดยตลอดเส้นทางการเติบโต บริษัทฯได้พัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค สามารถครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยสิงห์เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง กลายเป็นตำนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ในโอกาสครบรอบ 90 ปีของบุญรอดฯ สิงห์จึงจัดกิจกรรมพิเศษด้วยการเปิดตัวดีไซน์ 4 ลวดลาย ลิมิเต็ด เอดิชั่น บนกระป๋องผลิตภัณฑ์สิงห์ บอกเล่าไทม์ไลน์สำคัญในแต่ละยุคที่เชื่อมโยงทุกคนในทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ โดยกระป๋องเบียร์สิงห์ทั้ง 4 ลวดลายจะถูกนำมาขายในช่องทางต่าง ๆ ตลอดทั้งปี 2566

ทั้งนี้ ดีไซน์กระป๋องเบียร์สิงห์ทั้ง 4 ประกอบด้วย

– ลวดลายที่ 1 ออริจินัล สิงห์ (Original Singha) หรือจุดเริ่มของตำนานแบรนด์สิงห์ โดยเป็นสิงห์ขวดแรกที่ออกสู่ตลาดใช้โลโก้สีแดงโดดเด่น

– ลวดลายที่ 2 ออกสู่ตลาดปี พ.ศ.2500 ซึ่งมีการปรับเปลี่ยน ดีไซน์โลโก้ใหม่จากสีแดงเป็นสีเหลืองทอง

– ลวดลายที่ 3 ปรับเปลี่ยนเมื่อปี พ.ศ.2533 ให้แบรนด์มีความทันสมัยมากขึ้น

– ลวดลายล่าสุดคือลายที่ 4 เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2561 จนถึงปัจจุบัน

“สิงห์มีการปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างต่อเนื่องในหลายมิติ โดยยังคงรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตลอด 90 ปี ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค การนำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่ดีไซน์โลโก้ทั้ง 4 ลวดลายในครั้งนี้ มีแรงบันดาลใจจากการสร้างแบรนด์ในแต่ละช่วงเวลาของสิงห์ในแต่ละยุค มีการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และเทรนด์ผู้บริโภคตั้งแต่ยุคแรกที่บริษัทผลิตสินค้าออกสู่ตลาด” คุณภูริต กล่าว

ในมุมมองของ ‘Business+’ เบียร์สิงห์เป็นหนึ่งในในกรณีศึกษาของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จกับการทำ Brand Modernization เป็นอย่างมาก เพราะเบียร์สิงห์เป็นแบรนด์ที่สามารถเข้าได้กับไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน และยังสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าการสร้างลวดลายออกมานั้น ไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างการรับรู้ถึงความยาวนานของแบรนด์ตลอด 90 ปี แต่เป็นการตั้งใจทำการตลาดเพื่อตอกย้ำถึงจุดยืน และสร้างการรับรู้ของแบรนด์สิงห์ที่แข็งแกร่ง และเพื่อให้รู้ว่าสิงห์ไม่ได้หยุดพัฒนาถึงแม้ว่าจะเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และครองส่วนแบ่งการตลาดอุตสาหกรรมอยู่แล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการทำ Brand Modernization จะช่วยให้แบรนด์เป็นที่นึกถึงอยู่เสมอได้ก็ตาม แต่ต้องอย่าลืมว่า การสร้างแบรนด์นั้น จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์นี้ร่วมกับการใช้กลยุทธ์การตลาดรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาในช่องทางที่ทันสมัย และมีวิธีการนำเสนอที่ร่วมสมัยจึงจะสามารถสร้างดึงความสนใจผู้บริโภคได้ นอกจากนี้แบรนด์ยังต้องหาโอกาสที่จะขยายโปรดักต์ไลน์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และยังคงไว้ซึ่งลูกค้าเก่าที่มีความภักดีต่อแบรนด์ให้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน