The Business Plus บิสิเนสพลัส
ในยุคที่ชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยเทคโนโลยีแบบทุกวันนี้ หนึ่งในภัยใกล้ตัวที่สุดของเราก็คือ “สแกมเมอร์” หรือมิจฉาชีพที่ปรับตัวใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการหลอกลวงคนทั่วไป จนปัจจุบันมีผู้คนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก
ทาง Global Anti-Scam Alliance หรือ GASA สถาบันวิจัยด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และสถิติด้านการหลอกลวงต่าง ๆ ได้เปิดเผยรายงาน State of Scams in Thailand ของปี 2025 โดย Business+ ได้สรุปสถิติต่าง ๆ ที่น่าสนใจและน่าเป็นห่วงมาให้อ่านกัน
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวมาจากผลการตอบแบบสอบถามของผู้ใหญ่อายุมากกว่า 18 ปี จำนวน 1,000 คน โดยที่ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ 29 – 60 ปี
– ผู้ตอบแบบสอบถาม 60% เคยโดยมิจฉาชีพหลอกในปีที่ผ่านมา หรือพูดง่าย ๆ คือ คนไทยมากถึง 6 ใน 10 คน เคยตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพมาแล้ว
– โดยเฉลี่ย คนไทยจะเจอมิจฉาชีพมาพยายามหลอกเอาเงิน 172 ครั้งต่อปี หรือทุก ๆ 2 วัน จะเจออย่างน้อยครั้งหนึ่ง
– เฉลี่ยแล้ว ผู้ตอบแบบสอบถามสูญเสียเงินคนละ 12,956 บาท ให้แก่มิจฉาชีพ ซึ่งนับเป็นมูลค่าที่มากที่สุดอันดับ 3 ในอาเซียน รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย
– ถ้าลองเอาตัวเลขจำนวนผู้ที่ถูกมิจฉาชีพหลอกและมูลค่าความเสียหายต่อคนมาคำนวณต่อ ก็จะได้ว่าเมื่อปีที่แล้ว คนไทยเสียเงินให้มิจฉาชีพรวมกันมากถึง 1.1 แสนล้านบาท มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเลยทีเดียว
– ช่องทางที่มิจฉาชีพใช้ในการหาเหยื่อมากที่สุดคือ facebook ในขณะที่รูปแบบของการเข้าหาเหยื่อจะเป็นการโทรหาเป็นส่วนใหญ่
– นอกจากนี้ GASA ยังได้รวบรวมสถิติของทั้งอาเซียนโดยพบว่า เมื่อปีที่แล้ว ประชากรในภูมิภาคสูญเสียเงินเป็นมูลค่าถึง 7.7 แสนล้านบาท ให้กับมิจฉาชีพ หรือเฉลี่ยประมาณ 21,622 บาทต่อคน
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า ปัญหาสแกมเมอร์กำลังเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจจะถึงขั้นวิกฤติ โดยที่เหยื่อหลายคนก็ไม่สามารถได้เงินที่เสียไปคืนมา ซึ่งเบื้องหลังสแกมเมอร์เหล่านี้ก็อาจจะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ดังนั้นรัฐบาลจึงควรเร่งรีบหามาตรการในการรับมือ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่านี้
ที่มา: Global Anti-Scam Alliance
