ในยุคที่ปัญหาเกี่ยวกับระบบกระดูกและข้อ กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการสูญเสียคุณภาพชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลังเรื้อรัง ปวดเข่า ข้อเสื่อม หรือภาวะที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน การได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จึงเป็นหัวใจสำคัญในการฟื้นคืนความสามารถในการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ เพราะการปล่อยให้ความเจ็บปวดดำเนินไป โดยไม่ได้รับการดูแลเฉพาะทาง อาจนำไปสู่ความเสื่อมถอยที่ยากจะย้อนกลับมาได้
S Spine and Joint Hospital คือโรงพยาบาลเฉพาะทางที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้โดยตรง ด้วยการให้บริการทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นโรคกระดูกสันหลังและข้อเป็นหลัก ให้การดูแลอย่างครบวงจรตั้งแต่วินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยเฉพาะในด้านที่ซับซ้อนอย่าง “กระดูกสันหลัง” และ “ข้อเข่า” ที่ต้องการเทคนิคเฉพาะทาง ซึ่งแตกต่างจากการดูแลปัญหากระดูกทั่วไป
โรงพยาบาลแห่งนี้จึงไม่ใช่แค่สถานพยาบาล แต่คือพื้นที่ที่สร้างขึ้นด้วยความเข้าใจลึกถึงธรรมชาติของโรคที่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหว การใช้ชีวิต และสุขภาพจิตของผู้ป่วยในระยะยาว
แนวคิดเบื้องหลังการก่อตั้งโรงพยาบาลนี้ เริ่มต้นจากความฝันของผม ซึ่งพบว่า ทรัพยากรทางการแพทย์ในระบบโรงพยาบาลทั่วไป มักกระจายไปยังหลายแผนก เช่น สูตินรีเวช ศัลยกรรม กุมารเวชศาสตร์ ฯลฯ ทำให้การดูแลโรคเฉพาะทางอย่างกระดูกสันหลังและข้อ ไม่สามารถลงลึกได้อย่างที่ควรจะเป็น
ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างสถานพยาบาลที่สามารถใช้ศักยภาพทางวิชาชีพได้เต็มที่ จึงออกแบบ S Spine and Joint Hospital ให้มีระบบที่ “ตรงจุด” ทั้งในแง่ของบุคลากร เครื่องมือ เทคโนโลยี และกระบวนการทำงาน โดยเปรียบเสมือน “วงดนตรี” ที่เล่นประสานกันอย่างลงตัว

แพทย์เฉพาะทาง เปรียบได้กับนักร้องนำ, เครื่องมือแพทย์ คือ เครื่องดนตรี และทีมงานทุกฝ่าย คือ นักดนตรีร่วมวง ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องเข้าใจจังหวะและเป้าหมายเดียวกัน คือ การทำให้ “บทเพลงของผู้ป่วย” กลับมาไพเราะอีกครั้ง
สิ่งที่สะท้อนวิสัยทัศน์นี้ได้อย่างชัดเจน คือความพร้อมในทุกมิติของโรงพยาบาล ตั้งแต่ระบบการบริการที่เป็นมิตรและเป็นระบบ พนักงานทุกคนให้การต้อนรับด้วยความอบอุ่น ใส่ใจในรายละเอียด เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจตลอดการเข้ารับบริการ ไปจนถึงการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยระดับแนวหน้าของประเทศ เช่น เครื่อง MRI ท่ายืน (Standing MRI) ที่สามารถประเมินภาวะของกระดูกสันหลังในสภาพที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริงมากที่สุด, กล้อง Endoscope สำหรับการผ่าตัดแผลเล็กที่ลดผลกระทบต่อเนื้อเยื่อ และระบบวิเคราะห์กล้ามเนื้อเฉพาะทางที่ช่วยให้แพทย์เข้าใจสภาพร่างกายของผู้ป่วยได้อย่างละเอียดก่อนเริ่มการรักษา
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่เป็นจุดแข็งของโรงพยาบาลแห่งนี้ คือ ทีมแพทย์ ซึ่งถูกคัดเลือกจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรง ทั้งด้านกระดูกสันหลังและข้อ ไม่ใช่เพียงแค่มีความรู้ทั่วไปในด้านกระดูก แต่คือผู้ที่ผ่านการฝึกฝน เจอเคสจริง และมีประสบการณ์ในระดับลึกของโรคที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อน, กระดูกสันหลังตีบแคบ, กระดูกสันหลังเคลื่อน, โรคข้อเข่าเสื่อม หรือปัญหาหลังผ่าตัดที่ต้องการการดูแลต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยทั้งเทคนิค ความแม่นยำ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
ตลอดระยะเวลาการให้บริการ โรงพยาบาลได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยกว่า 100,000 ราย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นเครื่องสะท้อนความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของระบบการดูแลที่ให้ความสำคัญกับทั้งความปลอดภัย คุณภาพของการรักษา และประสบการณ์ของผู้ป่วยในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องการความมั่นใจในระยะยาว โรงพยาบาลแห่งนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ความเฉพาะทางและการออกแบบที่ลงลึกสามารถเปลี่ยนชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้นได้จริง
ที่สำคัญ ปี 2568 นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ในการยกระดับสู่การเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อแบบครบวงจรอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การลงทุนในเทคโนโลยีการรักษาใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวาง Master Plan ระยะยาว ที่ครอบคลุมทั้งการพัฒนาบุคลากร พื้นที่ และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพสูงสุดในระยะยาว
ด้านเครื่องมือแพทย์
เราให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีที่ “ตอบโจทย์ผู้ป่วยจริง” มากกว่าการเลือกซื้อเครื่องมือที่มีอยู่ในท้องตลาดทั่วไป โดยการวางแผนในระดับ Master Plan จะช่วยให้เราสามารถออกแบบพื้นที่ ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า และเลือกสรรเฉพาะเครื่องมือที่มีศักยภาพในการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งต้องอาศัยวิสัยทัศน์ที่ลึกซึ้งและเฉียบคมกว่าปกติ เพราะเราไม่ใช่โรงพยาบาลทั่วไป แต่คือโรงพยาบาลเฉพาะทางที่ต้องคิดเผื่ออนาคต

ด้านบุคลากร
การพัฒนาบุคลากรไม่ได้จำกัดอยู่แค่ “แพทย์” เท่านั้น แต่ต้องครอบคลุมถึงทุกฟังก์ชันในระบบการรักษา ไม่ว่าจะเป็นพยาบาล นักกายภาพ นักรังสีเทคนิค หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่สนับสนุน การวางแผนด้านบุคลากรจึงต้องใช้เวลานานและความเข้าใจในมนุษย์ในหลายมิติ แผนแม่บทของเราจึงไม่เพียงพัฒนา “ทักษะ” แต่ยังรวมถึง “ทัศนคติและจิตวิญญาณของทีม” เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวในการดูแลผู้ป่วย
ปัจจุบัน โรงพยาบาลยังได้เดินหน้าเข้าสู่มาตรฐาน AACI ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบรับรองคุณภาพสถานพยาบาลที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เพื่อเป็นหลักประกันว่า ทุกขั้นตอนของการให้บริการ ตั้งแต่การวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการฟื้นฟู จะเป็นไปตามมาตรฐานสากล ทั้งในด้านความปลอดภัย คุณภาพ และประสบการณ์ของผู้ป่วย
ความมุ่งมั่นนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาล ที่ต้องการเป็นมากกว่าสถานพยาบาล แต่เป็น “มาตรฐานใหม่” ด้านการดูแลกระดูกสันหลังและข้อที่พร้อมรองรับทั้งผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติ ในฐานะ Medical Hub แห่งเอเชียนั่นเอง

เขียนและเรียบเรียง : นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง และผู้ก่อตั้งโรงพยาบาล
ติดตาม Business+ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG : https://instagram.com/businessplus.th
Youtube : https://www.youtube.com/@thebusinessplus7829
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus #Business
The Business Plus บิสิเนสพลัส

