‘เช่ารถ’ ธุรกิจที่กลับมาพร้อมนักท่องเที่ยว ปี 2566 มูลค่าจะสูงถึง 5.1 หมื่นล้านบาท โต 10.2%

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาทำให้ต้องยอมรับว่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยกลับมาคึกคักในหลายรอบปี เพราะเราจะเห็นได้หัวเมืองต่าง ๆ ที่จะพบเจอกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ ชาวจีน, ชาวเกาหลี, ชาวเยอรมนี, และอื่น ๆ อีกมากมาย กำลังมาสนุกกับเทศกาลปีใหม่ไทยไปพร้อมกัน

ทำให้ต้องยอมรับว่าหลาย ๆ ธุรกิจกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร ร้านสปา นวดแผนไทย หรือแม้แต่ ‘ธุรกิจเช่ารถ’ ที่ TTB analytics คาดการณ์ไว้ว่าปี 2566 มูลค่าตลาดรถเช่าของไทยจะอยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาทหรือขยายตัว 10.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน

คำถามคือ โมเดลธุรกิจเช่ารถน่าสนใจอย่างไร?

ต้องเกริ่นก่อนว่าการเช่ารถจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ

  • เช่ารถระยะยาว (1-5ปี)

โดยจะคิดเป็นการปล่อยเช่ารถระยะยาวให้กับผู้เช่าตามสัญญา ซึ่งผู้เช่าจะต้องจ่ายค่าเช่ารถเป็นรายเดือนและจ่ายค่าน้ำมันเอง ส่วนผู้ปล่อยเช่ารับผิดชอบในส่วนของค่าบำรุงรักษา ค่าประกันภัย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวรถ และการเช่าประเภทนี้มีกลุ่มลูกค้าหลักคือ บริษัทเอกชน, หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ

  • เช่ารถระยะสั้น (ไม่ถึง 1ปี)

โดยจะเป็นรูปแบบการเช่ารถที่นักท่องเที่ยวมาเช่าเพื่อใช้เป็นพาหนะในการเดินทางเป็นหลัก โดยจะมีข้อแตกต่างคือรุ่นรถยนต์ ประเภทรถ ให้เลือกมากกว่า โดยจะมีเงื่อนไขการดูแลเหมือนกันเชารถระยะยาวที่ผู้เช่าจำเป็นจะต้องจ่ายค่าน้ำมันเองเท่านั้น

อย่างไรก็ดี  จากการคาดการณ์ของ TTB analytics ได้วิเคราะห์การเช่ารถทั้ง 2 ประเภทไว้ ดังนี้

  • เช่ารถระยะยาว จะขยายตัว 0% อยู่ที่ 4.0 หมื่นล้านบาทเนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาสู่ปกติทำให้การเช่ารถระยะยาวจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนกลับมามีกำลังเช่ามากขึ้น
  • เช่ารถระยะสั้น จะขยายตัว 5% อยู่ที่ 1.13 หมื่นล้านบาท เพราะด้วยการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นสูงถึง 80% ทำให้นักท่องเที่ยวต้องการการเช่ายานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย โดยส่วนใหญ่ธุรกิจเช่ารถจะมีรายได้จากเมืองธุรกิจต่าง ๆ เช่น กรุงเทพมหานคร 77% สมุทรปราการ 12% ชลบุรี 3%ปทุมธานี 2% และนนทบุรี 1% เพราะเป็นพื้นที่ที่มีธุรกิจเช่ารถให้เลือกใช้บริการมากและใกล้สนามบินนั่นเอง

และถึงแม้ว่าธุรกิจเช่ารถกำลังฟื้น แต่ในมุมเจ้าของธุรกิจจำเป็นจะต้องรับมือเรื่องคู่แข่งอยู่ดี เพราะในปัจจุบันตามการจดทะเบียนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่ามีธุรกิจเช่ารถอยู่ 1,186 ราย กระจายตัวอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 35%, ภูเก็ต 7%, ชลบุรี 7%, เชียงใหม่ 6%, สุราษฎร์ธานี 5%, นนทบุรี 4% สมุทรปราการ 4%, ปทุมธานี 3% และระยอง 3% ซึ่งจะเห็นได้ธุรกิจเช่ารถจะกระจายตัวอยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจหลัก ทำให้เกิดการแข่งขันสูง โดยเฉพาะการเช่ารถระยะยาวเพราะส่วนใหญ่การเช่าระยะยาวมักมาจาก ภาครัฐและเอกชน ซึ่งล้วนตั้งอยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจหลักนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า TTB analytics คาดการณ์ว่ามีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 5-8% ต่อปีเท่านั้น เนื่องจากการแข่งขันในธุรกิจเช่ารถจะสูงขึ้นทั้งจากผู้ประกอบการรถเช่ารายเดิมและผู้แข่งขันรายใหม่ โดยกลุ่มลูกค้าจะมองหาการเช่ารถผ่านออนไลน์มากขึ้น และการบริการที่มีคุณภาพมากขึ้น ตามด้วยราคาที่เหมาะสม และปัจจัยสำคัญคือเทรนด์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป เพราะถ้าหากกลุ่มนักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการทัวร์ครบจบมากขึ้น หรือเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะที่สะดวกมากขึ้น อาจทำให้ผู้ประกอบการต้องหันมาปรับตัวอีกครั้งเช่นกัน..

 

ที่มา : TTB analytics, เงินติดล้อ

เขียนและเรียบเรียง : อโญศิริ สุระตโก

.

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

.

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

.

#Businessplus #นิตยสารBusinessplus #เช่ารถ #ท่องเที่ยว #ธุรกิจเช่ารถ