เป็นการตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง หลังคณะกรรมการตัดสินให้บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เข้ารับรางวัลชนะเลิศสินค้าและบริการยอดเยี่ยมแห่งปี Product of the Year 2025 สาขากลุ่มยานยนต์ พลังงานและน้ำมัน ไปครองได้สำเร็จ ผ่านบริการ PT Service Volunteer ซึ่งคณะกรรมการประเมินว่า โครงการดังกล่าวให้คุณค่าครบทุกมิติ มากกว่าหลักการตลาดทั่ว ๆ ไป
“PT Service Volunteer” ถือเป็นไอเดียที่เกิดจากความตั้งใจลึกซึ้งในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ที่เข้ามาใช้บริการในสถานีบริการน้ำมันของ PTG ผ่านการผนึกกำลังของพนักงานจิตอาสากว่า 400 คนจากทุกหน่วยงาน ที่ร่วมมือกันให้บริการในกว่า 200 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อสร้างความสะดวกสบาย ประทับใจ พร้อมส่งมอบรอยยิ้มกลับไปยังลูกค้า
สิ่งที่ขับเคลื่อนแนวคิดนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของธุรกิจ แต่คือความรับผิดชอบต่อสังคม และความต้องการสร้างความผูกพันระหว่าง PTG กับลูกค้าอย่างยั่งยืน โดยมีคุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นผู้ผลักดันอย่างเต็มกำลัง สะท้อนความเชื่อมั่นว่า การให้บริการอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียดนั้นจะสร้างความประทับใจและความไว้วางใจในระยะยาว ประเด็นที่น่าสนใจคือ ทีมจิตอาสาไม่ได้ทำหน้าที่แค่เติมน้ำมัน แต่ยังช่วยเช็ดกระจกรถ ทำความสะอาดพื้นที่บริการ และเก็บกวาดขยะ ซึ่งเป็นภารกิจที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในคุณภาพการบริการและสร้างความสะอาดปลอดภัย นอกจากนี้ ยังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเหมือนคนในครอบครัว
จุดเด่นของ “PT Service Volunteer” ไม่ได้อยู่ที่ความหรูหราหรือความซับซ้อน แต่คือการใส่ใจแบบง่าย ๆ ที่สัมผัสได้จริง ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า ทุกครั้งที่มาใช้บริการ คือการได้รับพลังบวกและความรู้สึกดี ๆ ที่ส่งต่อถึงกันได้จริง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้โครงการนี้ได้รับคำชมและรางวัลระดับประเทศ
นอกจากผลกระทบที่จับต้องได้จากการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดีแล้ว โครงการนี้ยังสร้างความภาคภูมิใจให้กับพนักงาน ที่มีโอกาสได้ออกมาทำกิจกรรมจิตอาสา สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างพนักงานกับลูกค้า รวมถึงกระตุ้นให้เกิดสังคมแบ่งปันที่ช่วยเหลือกันในที่ทำงานและชุมชนรอบข้าง เป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและมีคุณค่า เป็นการสร้าง Shared Value ที่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน
แล้วถามว่า ผลลัพธ์ต่อองค์กรสำหรับ PT Service Volunteer นั้น ดีอย่างไร ?
คุณพิทักษ์ เล่าให้ฟังว่า PT Service Volunteer ไม่เพียงส่งผลดีต่อพนักงาน แต่ยังสะท้อนผลเชิงกลยุทธ์ต่อองค์กรในหลายมิติ อาทิ Employer Branding คือทำให้องค์กรถูกมองว่าเป็นสถานที่ทำงานที่ให้คุณค่ากับคนและสังคม หรือแม้แต่มุมมองด้าน Talent Retention หรือการสร้างความผูกพันช่วยลดอัตราการลาออกของพนักงานที่มีศักยภาพสูง และที่สำคัญทำให้เกิด Team Spirit และ Productivity นั่นเพราะเมื่อพนักงานมีความเข้าใจและเชื่อมโยงกันดีขึ้น ย่อมแปรเปลี่ยนไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ
สิ่งที่น่าสนใจในหลักคิดของ PTG คือ การมองว่าการบริการไม่ใช่เพียงฟังก์ชันที่ถูกเติมเต็ม แต่คือ “หัวใจขององค์กร” ที่จะสะท้อนผ่านทุกการสัมผัส การที่พนักงานจิตอาสาลงพื้นที่จริง ไม่เพียงแต่ให้บริการแต่ยังได้เปิดโอกาสให้พนักงานเข้าใจลูกค้ามากขึ้น สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่าแค่ผู้ให้บริการและผู้รับบริการ แต่เป็นการเข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของผู้คนในชุมชนรอบข้างอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าในวงกว้างและความผูกพันที่ยั่งยืน
PTG มุ่งมั่นเสริมสร้างความสุขและการผูกพันนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางองค์กรภายใต้คำว่า “อยู่ดี มีสุข” ที่ไม่ใช่วลีสวยหรู แต่เป็นแนวปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยการได้รับรางวัลจากการประกวด Product of the Year 2025 ในครั้งนี้ จึงเป็นรางวัลที่มีความหมายลึกซึ้งและเป็นแรงกระตุ้นให้ทุกคนในองค์กรยังคงเดินหน้าบริการอย่างเต็มที่และเต็มใจ
นอกจากนี้ PT Service Volunteer ยังสะท้อนการทำงานร่วมกันเป็นทีม ที่เกิดจากพลังของความตั้งใจและความร่วมมือช่วยกันสร้างสรรค์ ช่วยเน้นย้ำว่า “การทำธุรกิจที่ยั่งยืน” ไม่เพียงแค่เรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่หมายถึงการใส่ใจในสังคม และการดูแลลูกค้าด้วยหัวใจจริง
ในการแสดงถึงจุดมุ่งหมายนี้ PTG ไม่หยุดแค่สร้างความสุขในวันนี้ แต่ตั้งเป้าหมายที่จะส่งต่อความสุขและบริการที่พิเศษนี้ไปยังลูกค้าในอนาคต เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและตัวอย่างให้กับบริษัทอื่น ๆ ในแวดวงพลังงานและธุรกิจการบริการ ให้ตระหนักถึงความสำคัญของ “การบริการที่มาจากใจ” ว่าเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จระยะยาว
คณะกรรมการตัดสินรางวัลจึงขอเน้นย้ำว่า รางวัล Product of the Year 2025 ที่ PTG ได้รับจากโครงการ PT Service Volunteer ไม่ใช่แค่ใบประกาศ แต่คือสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นในการบริการที่แท้จริง เป็นภาพสะท้อนของการใส่ใจลูกค้าและการสร้างสังคมที่ดีงาม ควบคู่ไปกับการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนนั่นเอง