เมื่อเร็วๆ นี้ “จิระพล รุจิวิพัฒน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป ร่วมกับ 2 พันธมิตร นำโดย “อภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ “สุโรจน์ แสงสนิท” นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) จัดโครงการ “Eco–Exploration Trip” ครั้งที่ 3 เส้นทาง จ.เชียงใหม่ – จ.แพร่ เพื่อเปิดประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมล้านนา ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างการตระหนักรู้ด้านประโยชน์ของเทคโนโลยียานยนต์สะอาด ที่สำคัญ เพื่อส่งเสริมการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น ซึ่งในงานนี้ มีลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้าให้ความสนใจและเข้าร่วมกว่า 30 คัน
วันแรก เริ่มพิธีปล่อยขบวนคาราวานรถยนต์ไฟฟ้า ที่ “ช้างทอง เฮอริเทจ ปาร์ค” พิพิธภัณฑ์ต้นไม้โบราณแห่งแรกในเชียงใหม่ ที่รวมรวมพรรณไม้ดึกดำบรรพ์อายุกว่าร้อยปี ด้วยการกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการของผู้บริหาร ไพรม์มัส กรุ๊ป, ททท. และ EVAT พร้อมการชี้แจงรายละเอียดเส้นทางและกิจกรรมโดยรวมของทีมงาน ก่อนตีธงปล่อยคาราวานมุ่งหน้าสู่จังหวัดลำปาง แวะทานอาหารกลางวันที่ “ร้านแกงหอม” ร้านอาหารไทย-เหนือต้นตำรับสไตล์ฟิวชั่นในสวน ใจกลางเมืองลำปาง
ต่อด้วยการเดินทางสู่วัดพระธาตุช่อแฮ วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่ สักการะ “พระธาตุช่อแฮ” ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระเกศาธาตุ และพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า ที่ชาวล้านนาเชื่อว่า เป็นพระธาตุของผู้ที่เกิดปีขาล จะต้องมากราบไหว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคล ภายในวัด ยังมี หลวงพ่อช่อแฮ, พระพุทธโลกนารถบพิตร, ธรรมาสน์โบราณ, กู่อัฐิครูบาศรีวิชัย แผ่นศิลาจารึกและภาพจิตรกรรมฝาหนังที่สวยงาม
จากนั้นเดินทางต่อไปยัง “บ้านมัดใจ” บ้านเรือนไม้โอบล้อมด้วยพันธุ์ต้นไม้น้อยใหญ่ ที่ใช้สอนย้อมฮ่อมและเป็นคาเฟ่สไตล์โฮมเมด โดยที่นี่เราได้ทำกิจกรรม Workshop ผ้ามัดย้อมฮ่อม หรือผ้ามัดย้อมคราว สไตล์เมืองแพร่ โดยรับฟังการอธิบายวิธีสร้างลายบนผ้าเบื้องต้น ด้วยการมัด หนีบ ด้วยหนังยาง และนำไปจุ่มในม่อฮ่อนสีน้ำเงิน
โดยเลือกสีอ่อน เข้มได้ ตามระยะเวลาในการจุ่มผ้า แม้เป็นกิจกรรมช่วงสั้นๆ แต่สร้างความสนุกสนานและตื่นเต้นกับการเห็นลวดลายบนผ้าในสไตล์ตัวเองที่มีผืนเดียวในโลก
ต่อด้วยการเดินทางสู่ที่พัก รร.คินโนเทล โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นใจกลางเมืองแพร่ เพื่อเช็คอินน์และพักผ่อนตามอัธยาศัย จากนั้นเข้าสู่โหมดงานเลี้ยงสรรค์ เริ่มด้วยการรับฟังการพูดคุยเกี่ยวกับทิศทางการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า จากผู้บริหารของภาครัฐและเอกชน พร้อมเพลินเพลินกับอาหาร และเสียงเพลงจากมินิคอนเสริ์ตของ “บิว” เดอะวอยซ์ ไทยแลนด์
วันรุ่งขึ้น หลังทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย นัดรวมพลอีกครั้ง เพื่อเดินทางสู่ “บ้านวงศ์บุรี” หรือ “คุ้มวงศ์บุรี”
เรือนไม้สักทอง ขนาดใหญ่ 2 ชั้น ทรงยุโรปประยุกต์ สีชมพูอ่อน อายุกว่า 100 ปี สร้างขึ้นโดยดำริของเจ้าแม่บัวถา ชายาองค์แรกของเจ้าหลวงพิริยะเทพวงศ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของเมืองแพร่ เพื่อเป็นเรือนหอของหลวงพงษ์พิบูลย์ ผู้สืบเชื้อสายอดีตเจ้าหลวงนครแพร่ กับเจ้าสุนันตา วงศ์บุรี ธิดาพระยาบุรีรัตน์ โดยช่างชาวจีนกวางตุ้ง ที่ใช้เทคนิคการสร้างฐานอาคาร ด้วยวิธีเรียงท่อนไม้ซุงขนาดใหญ่ก่อนก่ออิฐเทปูนทับ และการเข้าลิ้นสลักไม้ ไม่ตอกตะปู เอกลักษณ์การสร้างเรือนแบบช่างไทยโบราณ มุงหลังคาด้วยไม้แป้นเกล็ด ภายในประดับตกแต่ง ด้วยลวดลายฉลุไม้ ที่เรียกว่า “ขนมปังขิง” เป็นลายพรรณพฤกษาและเครือเถาว์ จากสภาพที่สมบูรณ์ “คุ้มวงศ์บุรี” ทำให้ได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่น ปี 2536 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมน์
พร้อมกันนี้ ได้ร่วมทานอาหารในแบบ “ขันโตก” ของชาวเหนือ ที่จัดเต็มกับเมนูอาหารที่หลากหลาย ควบคู่กับการรับฟังเสียงเพลงขับกล่อมในสไตล์ล้านนาอย่างแท้จริง จากนั้น ผู้บริหาร ไพรม์มัส กรุ๊ป, , ททท. และ EVAT ขึ้นกล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมกิจกรรม และถ่ายภาพหมู่กันอีกครั้ง ก่อนจบทริป Eco-Exploration Trip ครั้งที่ 3 อย่างป็นทางการ ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขและสนุกกับการท่องเที่ยวในแบบรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยยานยนต์