OCEAN LIFE ไทยสมุทร ใช้พลังความรักเผชิญทุกการเปลี่ยนแปลง เดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย Sustainable with Love

OCEAN LIFE ไทยสมุทร ประกาศวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน “Sustainable with Love รักคือพลังสร้างความยั่งยืน” ให้สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs)

ชูกลยุทธ์ 3 เสาหลัก และ 2 พลังสร้างความยั่งยืน ผนึกพลังพันธมิตร – คู่ค้า – พนักงาน เดินหน้าสร้างความยั่งยืนด้านสุขภาพ การเงิน รวมทั้งดูแลสังคม ชุมชน โลก และสิ่งแวดล้อม พร้อมสนับสนุนพันธมิตรกลุ่มไดอิจิ เดินหน้าลดก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืนในทุกมิติ มุ่งสู่เป้าหมายร่วมกันในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2040

ถึงแม้ว่ากลุ่มธุรกิจภาคประกันภัย จะไม่ใช่กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรงในปริมาณสูง เหมือนภาคธุรกิจอื่น ๆ แต่ห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ (Value Chain) ก็เป็นส่วนหนึ่งในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุของโลกร้อนเช่นกัน

ด้วยตระหนักดีว่าโลกกำลังเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ รอบด้าน ในฐานะที่ OCEAN LIFE ไทยสมุทร อยู่ในวงการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลความเสี่ยง สร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับประชาชน จึงเป็นหน้าที่ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจไปพร้อมกับความรับผิดชอบถึงผลกระทบทุกด้าน ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของคนรุ่นต่อไป

คุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) จึงได้ประกาศพันธกิจระยะสั้น-ระยะกลาง และระยะยาว ด้วยการประกาศนโยบายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน “Sustainable with Love รักคือพลังสร้างความยั่งยืน” ให้สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs)

ด้วยกลยุทธ์ 3 เสาหลัก และ 2 พลังสร้างความยั่งยืน เพื่อยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจพัฒนาทุกด้านให้เติบโต สร้างสังคมที่น่าอยู่ และเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

3 เสาหลัก และ 2 พลัง สร้างความยั่งยืน
ด้วยความเชื่อในพลังความรักที่สั่งสมมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน OCEAN LIFE ไทยสมุทร จึงต่อยอดจากแนวคิด LOVE MINDSET วิธีคิดที่เกิดจากพลังความรัก ใช้ความรักเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กร ภายใต้แนวคิด “Sustainable with Love” รักคือพลังสร้างความยั่งยืน ประกอบด้วย 3 เสาหลัก

1. Health – สุขภาพที่ยั่งยืน
เริ่มต้นจากภายในองค์กร ด้วยการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับบุคลากร ด้วยการสนับสนุนให้ทุกคนใส่ใจดูแลสุขภาพทั้งในรูปแบบของการให้ความรู้ และกิจกรรมต่าง ๆ จากนั้นจึงส่งต่อไปยังลูกค้าผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมในทุกความต้องการ รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรมการบริการดูแลด้านสุขภาพต่าง ๆ

ทั้ง Healthcare Ecosystem การบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกับ Start up เพื่อยกระดับการบริการ Digital Healthcare Service บริการดูแลสุขภาพ ทั้งก่อนป่วย เมื่อป่วย หลังป่วยให้กับลูกค้า รวมทั้งการสนับสนุนข้อมูลสุขภาพที่จำเป็นกับประชาชนผ่านสื่อ และกิจกรรมสัมมนาต่าง ๆ

2. Wealth – การเงินที่ยั่งยืน เราเชื่อว่าก่อนที่เราจะให้คำปรึกษากับลูกค้าได้ บุคลากรของเราต้องมีความรู้ความสามารถ รวมทั้งทักษะต่าง ๆ ครบถ้วน เพื่อให้ทุกคนมีศักยภาพก้าวสู่การเป็นที่ปรึกษาการเงินมืออาชีพ (Financial Planner) ที่ลูกค้าไว้วางใจให้แนะนำการวางแผนชีวิต และวางแผนการเงินให้ประสบความสำเร็จบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งใจ

นอกจากนั้น OCEAN LIFE ไทยสมุทรยังมีแบบประกันที่ส่งเสริมการวางแผนการเงินอย่างรอบด้าน (Wealth Solution) ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ และทุกช่วงเวลาของชีวิต (Product Life Cycle) ให้ทุกคนพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนในวันนี้ และอนาคต

ไม่เพียงเท่านั้น ความมั่นคงขององค์กรก็เป็นสิ่งสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงแนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้ลูกค้าประชาชนมั่นใจได้ว่า OCEAN LIFE ไทยสมุทร สามารถดูแลทุกคนได้ตลอดไป ด้วยความแข็งแกร่งทางการเงินที่เชื่อถือได้ ความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สิน (Asset and Liability Management) และการบริหารจัดการสินทรัพย์ (Portfolio Management) การบริหารจัดการการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ และการบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน Capital Adequacy Ratio (CAR) อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่ 405.92% (ณ เดือนกรกฎาคม 2565) นับว่าเป็นอันดับต้น ๆ ของธุรกิจประกันชีวิต และสูงกว่าเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนดที่ 120%

3. World – โลกที่ยั่งยืน โดยสนับสนุนความรักโลก สังคม สิ่งแวดล้อม และมีธรรมาภิบาลตามแนวทาง ESG เพื่อโลกและสังคมที่น่าอยู่ ประกอบด้วย

Environment – ด้านสิ่งแวดล้อม ได้จัดการสภาพแวดล้อมองค์กรให้น่าอยู่ พร้อมสร้างจิตสํานึกให้บุคลากรตระหนักและเข้าใจถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ทั้งการแยกขยะ การลดใช้พลาสติก การใช้วัสดุ Recycle การปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว และการใช้ทรัพยากรภายในองค์กรอย่างรู้คุณค่า ฯลฯ

นอกจากนั้น เรายังได้ร่วมสนับสนุนโครงการ Greenhouse Gas Emission Reduction Project ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ กลุ่มไดอิจิ เดินหน้าสู่เป้าหมาย ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี ค.ศ.2040 นำไปสู่การช่วยลดโลกร้อนอย่างยั่งยืน

Social – ด้านสังคม เริ่มด้วยการสร้างชมรม OCEAN LIFE ไทยสมุทรจิตอาสา ปลูกฝังจิตสำนึกแห่งการให้ และสังคมแห่งการแบ่งปัน พร้อมดำเนินโครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ โดยมีเป้าประสงค์ในการดูแล และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม ชุมชน ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้พิการ อาทิ

การร่วมดูแลคนไทยในภาวะวิกฤต COVID–19 ด้วยกิจกรรมหลากหลายภายใต้โครงการ LOVE THAILAND, PROTECT YOUR LOVED ONES โครงการแยกขวดช่วยหมอ เปลี่ยนขวด PET เป็นชุด PPE ส่งมอบให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ และล่าสุด เราได้ทำโครงการ “สอนว่ายน้ำเพื่อรอดชีวิต ช่วยเด็กขาดโอกาส” ร่วมกับครูพายุและพันธมิตรเพื่อลดการสูญเสียของเด็ก ๆ จากการว่ายน้ำไม่เป็น

Governance – ด้านธรรมาภิบาล ดำเนินธุรกิจตามกรอบจรรยาบรรณด้านต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ทั้งการต่อต้านการทุจริตหรือคอร์รัปชัน การเคารพสิทธิมนุษยชน การปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมกำหนดนโยบายและส่งเสริมให้พนักงานปฏิบัติ

ครอบคลุมทั้งด้านความปลอดภัยสารสนเทศ การบริหารความเสี่ยง การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล การปฏิบัติดูแลลูกค้า พร้อมการดูแลบริหารจัดการข้อร้องเรียนต่าง ๆ อย่างเป็นธรรมและยุติธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ

2 พลัง สู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน
การเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรที่สร้างความยั่งยืน จะสำเร็จเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพได้ ต้องมี 2 องค์ประกอบสำคัญช่วยขับเคลื่อนการทำงานให้สอดประสานกัน ประกอบด้วย

1. People, Culture & Partnerships สร้างจิตสำนึกและพันธมิตรสร้างความยั่งยืน ด้วยการสร้างคน สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดมั่นและตระหนักถึงความยั่งยืน คำนึงถึงการยอมรับและผสานความแตกต่างของบุคลากร (Inclusion) รวมทั้งการสนับสนุนความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม (Diversity) ควบคู่ไปกับการจับมือพันธมิตรที่มีศักยภาพรอบด้าน

2. Technology & Innovation สร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีพื้นฐาน ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรม สนับสนุนเทคโนโลยีที่จะช่วยทำให้การขับเคลื่อนโครงการด้านความยั่งยืนเป็นเรื่องง่าย

ก้าวข้ามผ่าน Pandemic สู่ Endemic กับผลงาน 7 เดือนของปี 2565
คุณนุสราฯ ทิ้งท้ายบทสนากับ Business+ ถึงผลการดำเนินงานในรอบ 7 เดือนของปี 2565 (มกราคม – กรกฎาคม 2565) ว่า OCEAN LIFE ไทยสมุทร มีรายได้จากเบี้ยประกันชีวิตรับรวม 8,365 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน

โดยมีเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก จำนวน 1,202 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 16% ในขณะที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปที่ 6,675 ล้านบาท และมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ 86% โดยมีเบี้ยประกันรับรวมจากช่องทางตัวแทนเป็นช่องทางหลักจำนวน 6,885 ล้านบาท และสร้างการเติบโตที่โดดเด่นในช่องธนาคาร (Bancassurance) มีอัตราการเติบโตถึง 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังใช้ความสามารถในการบริหารพอร์ตลงทุน จนสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ถึง 5.12% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 1,013 ล้านบาท

ถึงตรงนี้เราจะเห็นว่า วิสัยทัศน์ที่ทาง OCEAN LIFE ไทยสมุทร ประกาศออกมานั้น ถือเป็นความท้าทายมาก ในขณะเดียวกันก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญด้วย แต่คุณนุสราฯ เชื่อว่า นโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนอันเกิดจากพลังแห่งรัก และความตั้งใจที่จะร่วมกันดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน จะสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ

เพื่อเติบโตเคียงข้างสังคมไทยอย่างยั่งยืน และพร้อมส่งมอบความรักในรูปแบบของอนาคตที่ดี ที่มาจากความรับผิดชอบในทุกด้านของ OCEAN LIFE ไทยสมุทรให้กับคนรุ่นต่อไป

OCEAN LIFE ไทยสมุทร KICK OFF นโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เดินหน้ากิจกรรม PLANT WITH LOVE สร้างพื้นที่สีเขียวให้กรุงเทพมหานคร

OCEAN LIFE ไทยสมุทร ได้เปิดตัวนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด Sustainable with Love หรือ รักคือพลังสร้างความยั่งยืน พร้อม Kick Off กิจกรรม OCEAN LIFE Plant with Love ร่วมปลูกต้นไม้ 2,000 ต้น สร้างพื้นที่สีเขียวให้กรุงเทพมหานคร สนับสนุนโครงการ “ปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง”

โดยได้รับเกียรติจากคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ปลูกต้นไม้ต้นแรกร่วมกับคุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในความมุ่งมั่นตั้งใจอันยิ่งใหญ่ของพวกเรา OCEAN LIFE ไทยสมุทร ที่จะร่วมผลักดันและสนับสนุนการสร้างความยั่งยืนให้เกิดเป็นรูปธรรม พร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อมในมิติต่าง ๆ

เพราะเราเชื่อว่าปัญหาด้านความยั่งยืนของโลก เป็นปัญหาใหญ่ที่จะส่งผลกระทบถึงทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นพวกเราทุกคนต้องช่วยกันลงมือทำตั้งแต่วันนี้เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสให้กับคนรุ่นต่อไป