Nespresso ออกแคมเปญชวนคนคืนแคปซูลกาแฟ เพิ่มอัตราการรีไซเคิลในไทยแตะ 27% ภายใน 2025

พฤติกรรมการบริโภคกาแฟในยุคปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบาย แต่ก็ยังอยากดื่มกาแฟคุณภาพสูง ด้วยเหตุนี้แคปซูลกาแฟจึงกลายมาเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม เพราะตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

อย่างไรก็ตาม ความนิยมแคปซูลกาแฟที่เพิ่มขึ้นก็อาจตามมาด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะสำหรับผู้บริโภคทั่วไปแล้ว การรีไซเคิลแคปซูลค่อนข้างยุ่งยาก เพราะต้องแยกกากกาแฟออกจากแคปซูลและล้างให้สะอาดก่อนการรีไซเคิล

ด้วยเหตุนี้ เนสเพรสโซ ประเทศไทย ผู้นำด้านกาแฟแคปซูลและเครื่องชงกาแฟชนิดแคปซูลระดับพรีเมียม ได้เปิดประตูให้ผู้รักการดื่มกาแฟได้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายด้านความยั่งยืน ผ่านแคมเปญ “My Cup of Purpose” ที่ส่งเสริมให้ผู้บริโภคส่งคืนแคปซูลกาแฟอะลูมิเนียมของแบรนด์ที่ใช้แล้ว เพื่อที่บริษัทจะรวบรวมและนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล

ภายใต้แคมเปญนี้ เนสเพรสโซเดินหน้าส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืนไปพร้อมกับผู้บริโภค โดยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภค ในการส่งคืนแคปซูลกาแฟผ่านหน้าร้านเนสเพรสโซบูติกทั้ง 8 สาขา ฝากที่จุดขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ส่งคืนทางไปรษณีย์ หรือแม้แต่บริการรับถึงหน้าบ้านเมื่อสั่งสินค้าออนไลน์ โดยปราศจากค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เนสเพรสโซได้ร่วมมือกับองค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานต่าง ๆ มากมาย ในการนำแคปซูลกาแฟใช้แล้วที่ได้รับคืนมา ไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ได้แก่ การแยกอะลูมิเนียมจากแคปซูลมาหลอมรวมทำผลิตภัณฑ์ เช่น ปากกา ดินสอ และจักรยาน ให้ลูกค้าเนสเพรสโซ หรือการนำกากกาแฟที่ใช้แล้วมาแปรรูปเป็นปุ๋ย เพื่อนำส่งต่อให้เกษตรกร สะท้อนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและใส่ใจสิ่งแวดล้อม

คุณอีลิส ทัน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร เนสเพรสโซ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน บริษัทมีอัตราการส่งคืนแคปซูลกาแฟใช้แล้วในประเทศไทยที่ 25% โดยเนสเพรสโซตั้งเป้าหมายเพิ่มอัตราดังกล่าวมาอยู่ที่ 27% ภายในสิ้นปี 2025 และในระดับโลก เนสเพรสโซกำลังผลักดันให้อัตรารีไซเคิลอยู่ที่ 60% ภายในปี 2030 สอดคล้องกับค่านิยมในปัจจุบันที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยผลสำรวจของ Deloitte เปิดเผยว่า คนไทยรุ่น Gen Z จำนวน 85% พร้อมใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“เนสเพรสโซขอเชิญชวนผู้ที่หลงใหลในกาแฟมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ ‘My Cup of Purpose’ ที่จะทำให้ทุกแก้วกาแฟมีความหมายลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่การดื่มด่ำกับช่วงเวลา ‘Me Moments’ ในทุกวันพร้อมกาแฟแก้วโปรด แต่ยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน 

แคมเปญนี้มุ่งเน้นการขับเคลื่อน ‘เสาหลักแห่งความยั่งยืนด้านการหมุนเวียน (Circularity)’ ให้เป็นรูปธรรมและเห็นผลได้ชัดเจน ผ่านไลฟ์สไตล์และกิจกรรมที่มอบให้กับคนรักกาแฟ เราตั้งใจที่จะสร้างสรรค์วัฒนธรรมแห่งความยั่งยืนในประเทศไทย และทำให้แนวคิดนี้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคนอย่างแท้จริงในทุกแก้วที่ดื่ม“ คุณอีลิสกล่าว

แคมเปญดังกล่าวเน้นย้ำวิสัยทัศน์ของแบรนด์ด้านความใส่ใจต่อการหมุนเวียน โดยคุณอมรทิพย์ วัชรีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด เนสเพรสโซ ประเทศไทย กล่าวว่า “เพราะเรามองว่า ความยั่งยืนควรเป็นเรื่องง่ายและกลมกลืนไปกับกิจวัตรในทุก ๆ วัน เนสเพรสโซจึงเป็นแบรนด์กาแฟเพียงหนึ่งเดียวที่ตั้งใจออกแบบเส้นทางการรีไซเคิลให้ราบรื่นและครอบคลุมที่สุดสำหรับผู้บริโภค”

ทั้งนี้ เนสเพรสโซยังให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ด้วยโครงการระดับโลกที่ริเริ่มมาอย่างยาวนาน อาทิ โครงการ AAA Sustainable Quality™ ที่ทำงานร่วมกับเกษตรกรชาวไร่กาแฟกว่า 168,550 ราย ใน 18 ประเทศ เพื่อช่วยเหลือการฟื้นฟูระบบนิเวศ แก้ไขปัญหาวิถีการทำไร่กาแฟเพื่อรองรับต่อสภาพภูมิอากาศในพื้นที่นั้น ๆ ส่งเสริมความเป็นธรรมของราคากาแฟที่รับซื้อจากชาวไร่ พร้อมทั้งช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชนไปพร้อมกัน