“ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง” สาระ ล่ำซำ CEO บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
สาระ ล่ำซำ คือผู้บริหารที่โดดเด่น ไม่เพียงเพราะทักษะในการบริหารจัดการ แต่เพราะเขาคือ “ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง” ที่สามารถสร้างองค์กรให้เติบโตและทรานส์ฟอร์มสู่อนาคตได้อย่างมั่นคง ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน เขาเปลี่ยนบทบาทของบริษัทประกันให้กลายเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับชีวิตลูกค้าอย่างแท้จริง
ด้วยวิสัยทัศน์แบบผสมผสานระหว่าง เทคโนโลยี-สุขภาพ-มนุษย์ ทำให้เมืองไทยประกันชีวิตไม่ใช่แค่บริษัทที่ขายประกัน… แต่เป็นแบรนด์ที่ “เข้าใจชีวิต” และพร้อมอยู่เคียงข้างคนไทยในทุกช่วงเวลา เป็นองค์กรแห่งการสร้างความสุขและรอยยิ้มที่ยั่งยืน
หลายปีที่ผ่านมา บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL โดยนายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยอมรับว่า ท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ MTL พยายามจะปรับตัวเองตลอดเวลา เพื่อเดินหน้าส่งมอบความสุขและรอยยิ้ม มุ่งตอบโจทย์บริการที่ดีแก่ลูกค้าในทุกช่วงของชีวิตอย่างไม่หยุดยั้ง
“พวกเราขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่นและไว้วางใจจาก “ลูกค้าคนสำคัญ” ที่ทำให้ในปีที่ผ่านมา เมืองไทยประกันชีวิต มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 71,800 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับใหม่เติบโต 13% ซึ่งเป็นการเติบโตในกลุ่มสินค้าหลัก อาทิ Shield Life (ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบภายในระยะเวลา และประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์) เติบโต 42% และแบบประกันคุ้มครอง โรคร้ายแรง (รายเดี่ยว) เติบโต 24%
ด้านคะแนน NPS (Net Promoter Score) สูงขึ้นจาก 58 คะแนน เป็น 75 คะแนน ขณะที่ธุรกิจในภูมิภาค CLMV ยังมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ณ สิ้นปี 2567 มากกว่า 350% ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดที่ 140% บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และความแข็งแกร่งทางการเงินจาก S&P Global Ratings ที่ระดับ BBB+ (Stable Outlook) และ Fitch Ratings ที่ระดับ A- และ AAA (tha) (Stable Outlook)”
ข้อมูลข้างต้นถือว่า เมืองไทยประกันชีวิต ยังสร้างผลงานจากการดำเนินงานที่ดี และเมื่อมองถึงการแข่งขันในปีนี้ สาระ เล่าให้ฟังว่า บริษัทฯ วางกลยุทธ์ “Boost Your Happiness by Our People”
บูสท์ความสุขของคุณ ด้วยคนของเมืองไทยประกันชีวิต ด้วยการเดินหน้าพัฒนาองค์กรในทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือ การส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าทุกท่านด้วยความเป็นมืออาชีพ (Professionalism & Expertise) ความโปร่งใสและความสะดวกสบาย (Transparency & Convenience) และความไว้วางใจ (Commitment & Trust) ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงชีวิต ประสบการณ์การบริการแบบไร้รอยต่อ (Seamless Experience) และคำมั่นสัญญาตลอดชีวิต (Lifelong Commitment) ผสานกันอย่างลงตัวเพื่อตอบโจทย์ในทุกความเป็นคุณ
ทั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าพัฒนาองค์กรทุกภาคส่วน ด้วยการพัฒนาพนักงานและฝ่ายขายให้มีความสามารถรอบด้าน เพิ่มทักษะการใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ผสมผสานอยู่ในทุกกระบวนการทำงาน (Data & AI Literacy) ทักษะด้านการสื่อสารและการบริหาร (Soft Skills) ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Expert Knowledge) และความเชี่ยวชาญในหลายมิติ (Cross-Domain Expert Knowledge) ควบคู่ไปกับสร้างความสุขจากภายในองค์กร ให้กับ “คนของเรา” ที่มีความหลากหลายให้ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือ “การส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าคนสำคัญ”
โดยคนของเรา… พร้อมส่งมอบความสุขให้แก่ลูกค้าผ่านการวางแผนสำหรับทุกช่วงของชีวิต ทั้งการวางแผนทางการเงิน การวางแผนเกษียณ การวางแผนสุขภาพ และการวางแผนมรดก ด้วยความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันชีวิตแบบบำนาญ ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง ประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิตควบการลงทุน รวมถึงฟีเจอร์พิเศษทั้งความยืดหยุ่นด้วยรูปแบบความคุ้มครองที่ปรับแต่งได้ (Modular Design) ความคุ้มครองที่ปรับได้ตามช่วงชีวิตของลูกค้า (Convertible Option) และการเติมเต็มความคุ้มครองที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น (Plus)
คนของเรา… พร้อมส่งต่อประสบการณ์ไร้รอยต่อผ่านบริการในช่องทางต่าง ๆ ตั้งแต่การซื้อประกันภัยที่สามารถเข้าถึงได้ทุกคนได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งช่องทางตัวแทน ช่องทางธนาคาร ช่องทางการขายผ่านโทรศัพท์ ช่องทางออนไลน์ และพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ รวมถึงการให้บริการที่ครบวงจรและเข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ช่องทางสาขา Call Center 1766 แอปพลิเคชัน MTL Click เมืองไทยสไมล์คลับ และ MTL Fit เป็นต้น นอกจากนี้ ลูกค้ายังจะได้รับความสะดวกสบายด้วยการทำธุรกรรมทางกรมธรรม์ และบริการหลังการขายไม่ว่าจะเป็นระบบ e-Payment หรือ e-Document เป็นต้น
นายสาระ กล่าวว่า ธุรกิจประกันชีวิต เป็นธุรกิจที่ให้ความคุ้มครองแก่ลูกค้าในระยะยาว ดังนั้น เมืองไทยประกันชีวิต จึงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกก้าว ภายใต้การกำกับดูแลกิจการ และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงการสร้างสมดุลทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบรรษัทภิบาล (ESG) โดยเฉพาะในส่วนของมิติสังคม บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการพัฒนาแบบประกันภัยที่ช่วยตอบโจทย์การเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกคน (Democratize Insurance) พร้อมสร้างความรู้ด้านการวางแผนการเงินและประกันภัย (Financial & Insurance Literacy) ให้กับประชาชนทั่วไป และการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน
ด้านมิติสิ่งแวดล้อม เมืองไทยประกันชีวิตในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก ได้ร่วมสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านโลกของเรา ประกาศความมุ่งมั่นในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) จากการดำเนินงานของบริษัทฯ ภายในปี 2573 (2030) ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานภายในบริษัทฯ
“ในปีนี้เราตั้งเป้าหมายว่า จะเป็นปีที่สีบานเย็นจะบานสะพรั่งทั่วประเทศ โดยเมืองไทยประกันชีวิตจะยกระดับความสุขให้กับทุกคน ทั้งลูกค้า พาร์ตเนอร์ พนักงานและฝ่ายขายของเรา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ และช่องทางการขายต่าง ๆ สีบานเย็นจะรวมพลังกันอย่างแข็งแกร่ง เพื่อส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้ลูกค้าคนสำคัญของเราทุกคน” นายสาระ กล่าวทิ้งท้าย