ผยง ศรีวณิช “ผู้นำ” สถาบันการเงิน ในยุคเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจไทย

ผยง ศรีวณิช “ผู้นำ” สถาบันการเงิน ในยุคเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจไทย

ปี 2567 ถือเป็นปีที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ แสดงศักยภาพในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงบทบาทความเป็นผู้นำของ “ผยง ศรีวณิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่สามารถขับเคลื่อนองค์กร ก้าวนำการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ สร้างคุณค่าให้กับลูกค้า เศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงผู้มีส่วนได้เสีย (Stake Holders) ได้อย่างน่าชื่นชม

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หากจะกล่าวถึงผู้บริหารระดับสูงในแวดวงการเงินไทย ที่สามารถนำพาองค์กรขนาดใหญ่ เผชิญความท้าทายทั้งเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และบทบาทภาครัฐได้อย่างสมดุล หนึ่งในชื่อที่ไม่อาจมองข้ามได้ คือ คุณผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ซึ่งหล่อหลอมธนาคารกรุงไทยให้กลายเป็นองค์กรต้นแบบด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนได้อย่างสง่างาม

ขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”

ภายใต้การนำของคุณผยง ปี 2567 ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์แห่งความสำเร็จของธนาคารกรุงไทย ด้วยกำไรสุทธิกว่า 43,856 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 11.3% ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบางทั่วโลก เขาไม่ได้ขับเคลื่อนองค์กรด้วยตัวเลขผลกำไรเท่านั้น แต่ยังกำหนดยุทธศาสตร์ที่มองลึกถึงโครงสร้างของเศรษฐกิจและสังคมไทย โดยนำนวัตกรรมทางการเงินมาพัฒนา 5 ระบบนิเวศหลักในชีวิตประจำวันของคนไทย ได้แก่ ภาครัฐ ระบบสุขภาพ การศึกษา การคมนาคม และการชำระเงิน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อประชาชนในวงกว้าง

สิ่งที่ทำให้คุณผยงบริหาร ธนาคารกรุงไทย แตกต่างจากผู้นำองค์กรทั่วไป คือ เป็นผู้นำที่มองการณ์ไกล ปรับตัวอย่างรวดเร็ว ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงทุกวินาที เพราะมองว่า “สิ่งที่เป็นจุดแข็งในวันนี้ อาจไม่ใช่ข้อได้เปรียบในวันพรุ่งนี้” จึงมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ เพื่อให้ธนาคารเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับทุกภาคส่วนในสังคม พร้อมมีส่วนช่วยแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น หนี้ครัวเรือน หนี้นอกระบบ และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ทุกยุทธศาสตร์ของธนาคารกรุงไทย ได้เปิดพื้นที่ให้พนักงานทุกคนมี “เสียง” และ “ส่วนร่วม” เพราะเชื่อว่า ความร่วมมือ” นำมาสู่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลง และการดึงศักยภาพของคนทุกเจนเนอเรชัน คือ หัวใจของการเติบโตอย่างแท้จริง จึงได้ริเริ่ม โครงการ Wolf Hack  เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานทั่วประเทศ ร่วมกันคิดค้นและนำเสนอแนวคิดในการพัฒนาธุรกิจ สร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยี ด้วยแนวคิด “การระเบิดจากข้างใน” เพื่อเฟ้นหาศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวและระเบิดออกมาเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ สามารถนำมาต่อยอดพัฒนาธุรกิจได้จริง

เขาเชื่อว่า “ความร่วมมือ” นำมาสู่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลง และการดึงศักยภาพของคนทุกเจนเนอเรชัน

อีกทั้ง สิ่งที่สะท้อนถึงภาวะผู้นำเชิงอนาคตของคุณผยงได้อย่างเด่นชัดที่สุด คือ การขับเคลื่อนความยั่งยืน โดยนำแนวทาง ESG และ SDGs มาปรับใช้ในการดำเนินงานทุกระดับ สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อน Green Economy และ Net Zero Emission ในระดับองค์กรและระดับประเทศ

ที่สำคัญ คุณผยงไม่ได้มองแค่ความสำเร็จในปัจจุบัน แต่เริ่มสร้างอนาคตของธนาคารกรุงไทยผ่านยุทธศาสตร์เสริมทักษะ สร้างคุณค่าสู่อนาคต ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ใหม่ที่สอดรับกับบริบทเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย

1. การสร้างมูลค่าจากระบบนิเวศธุรกิจอย่างเต็มศักยภาพ โดยต่อยอดยุทธศาสตร์การทำธุรกิจกับคู่ค้าของลูกค้าให้เกิดการเชื่อมโยงในเชิงลึกของกลุ่มลูกค้าต่าง ๆ ทั้ง B2B B2C G2B และ G2C ในรูปแบบ Total Solutions ภายใต้แนวทาง One Krungthai

2. สร้างแพลตฟอร์มที่ส่งเสริมการเติบโตในอนาคต เพื่อให้ประชาชนทุกระดับชั้นเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวทาง ESG และการพัฒนาที่ยั่งยืน บนหลักคิด Do Good = Do Well

3. ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้เป็น Process Digitalization เป็นแบบ End to End ผ่านช่องทางหลากหลายโดยเฉพาะ Digital Channel ที่ทันสมัย รวดเร็ว และปลอดภัยส่งมอบ Operational Excellence ให้กับทุกชิ้นงาน

4. สนับสนุนการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด จากการใช้ Data Analytics เพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้า และก้าวเข้าสู่การเป็น Personalized Banking ผ่านหลากหลายช่องทาง

5. เร่งปรับวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ พร้อมยกระดับพนักงานให้มีทักษะใหม่ ๆ (Upskill / Reskill) โดยเฉพาะทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) ตลอดจนสามารถดึงดูดและรักษาคนดี คนเก่งให้คงอยู่กับธนาคาร พร้อมมุ่งสู่การเป็นองค์กรต้นแบบให้พนักงานทุกคนภาคภูมิใจในการเป็นกรุงไทย

ยุทธศาสตร์เหล่านี้ คือ “วิสัยทัศน์ระยะยาว” ที่วางไว้อย่างรอบคอบ เพราะท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ สิ่งที่คุณผยงให้ความสำคัญที่สุด ได้แก่ “ทรัพยากรมนุษย์” โดยมองว่า การลงทุนในบุคลากรผ่านโครงการ Upskill/Reskill และหมุนเวียนงาน เพื่อพัฒนาทักษะความเข้าใจเทคโนโลยี คือ การสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งที่สุดในอนาคต

นอกจากนี้ เขายังได้จัดตั้งบริษัทลูกใหม่ เช่น Infinitas by Krungthai, Arise, IBMDT เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านและดึงคนรุ่นใหม่ (Tech Talent) เข้าสู่องค์กร เป็นกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยี คน และพันธกิจทางสังคมเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

เห็นได้ว่า “ผยง ศรีวณิช” ไม่ได้เป็นเพียงผู้บริหารที่ทำให้ธนาคารกรุงไทย เติบโตอย่างมีศักยภาพ และสร้างความเชื่อมั่น คว้า 88 รางวัลในเวทีระดับโลก แต่เป็นผู้นำที่กล้าปรับโครงสร้างขององค์กรขนาดใหญ่ให้เข้าสู่ยุคใหม่ได้อย่างสง่างาม พร้อมวางแนวทางที่ประสานกันระหว่างเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี

คุณผยง ศรีวณิช นับว่าเป็น “แบบอย่างของผู้นำในศตวรรษที่ 21” อย่างแท้จริง