ถึงแม้ว่าคนไทยจะแต่งงาน และมีลูกกันน้อยลงทำให้สถาบันการศึกษาซบเซาลงไป แต่ถ้าเราพูดถึงธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ กลับมีการเติบโตในแง่ของรายได้ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง
โดยข้อมูลจาก กระทรวงพาณิชย์ ได้วิเคราะห์ธุรกิจที่น่าสนใจประจำเดือนเม.ย.68 พบว่า ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ ในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ปกครอง ที่ต้องการมอบการศึกษาคุณภาพสูงให้กับบุตรหลานประเทศไทย จากข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 68 มีนิติบุคคลที่จดทะเบียนในธุรกิจหมวดการศึกษา จำนวน 7,511 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 50,633 ล้านบาท จดทะเบียนรูปแบบบริษัทจำกัด 6,717 ราย (89.43%) ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 48,172 ล้านบาท
และเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด และห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 790 ราย (10.52%) ทุนจดทะเบียน 1,117 ล้านบาท และบริษัทมหาชนจำกัด 4 ราย (0.05%) ทุนจดทะเบียน 1,345 ล้านบาท
นอกจากนี้หากมองในมุมของรายได้พบว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
- ปี 65 สร้างรายได้ 5,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.57% กำไร 681 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 55.75%
- ปี 66 รายได้ก้าวกระโดดเป็น 7,327 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 28.04% กำไร 1,608 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 136.28%
- ปี 67 รายได้โตต่อเนื่องเป็น 8,313 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13.45% กำไร 1,835 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14.08%
หากเจาะเข้าไปที่เจ้าของธุรกิจ พบว่าเป็นการลงทุนจากต่างชาติ มูลค่ารวม 5,733 ล้านบาท ซึ่งประเทศที่เข้ามาลงทุนใน 3 อันดับแรก คือ 1.อังกฤษ 30% ทุนจดทะเบียน 1,706 ล้านบาท 2.จีน 11% ทุนจดทะเบียน 636 ล้านบาท และ 3.สิงคโปร์ 7% ทุนจดทะเบียน 428 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ กลายเป็นตัวเลือกสำคัญของผู้ปกครองยุคใหม่ที่มีกำลังทรัพย์ ภายใต้ความคาดหวังที่ต้องการให้บุตรหลานเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้าง ทั้งด้านการเรียนรู้ภาษา วัฒนธรรมที่หลากหลาย และทักษะที่จำเป็นต่ออนาคต ส่งผลให้ธุรกิจนี้สามารถสร้างกำไรอย่างมหาศาล คือ
ที่มา : IQ , กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ติดตาม Business+ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
Youtube : https://www.youtube.com/@thebusinessplus7829
#BusinessPlus
#ธุรกิจ
#โรงเรียนนานาชาติ