ฮาคูโฮโด เผย แม้เจอวิกฤตขัดแย้ง แต่ความ Proud to be THAIไม่เคยจาง
No.1 เรื่องอาหาร น้ำใจ และตามด้วยประเพณีไทยที่ยังเป็น soft power ส่งออกไปทั่วโลก
- ต่างเจนฯ ต่างใจ ต่างใช้ THAI DNA เป็น Connector ต่างกัน Gen Z ใช้มุกไทยเป็น survival skill เชื่อมโลก , Gen Y ติ่งป๊อบร่วมสมัย soft power เชื่อมใจ, GenX เก็บมรดกไทย เชื่อมรุ่นสู่รุ่น
- เศรษฐกิจชะลอตัว แต่ความสุขยังต้องไปต่อ — คนไทย ‘กล้า’ ใช้จ่ายไปกับสิ่งที่ ‘เติมใจ’
สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) เผยผลสำรวจประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. 2568 ไว้ว่า ภาพรวมในช่วงเดือน ตุลาคม นี้ แนวโน้มการใช้จ่ายลดลง 1 จุด เมื่อเทียบกับช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา (65 vs 66) เป็นผลมาจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจและความขัดแย้งทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ แต่คนไทยก็ยังใช้จ่ายเพื่อเติมความสุขใจ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของใช้จำเป็น รวมไปถึงใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการดูแลใจและชีวิตประจำวันท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
แม้คนไทยจะประสบปัญหามากมายเพียงใด แต่ก็ยัง Proud to be THAI กระแสชาตินิยมกำลังพุ่งแรง คนไทยพร้อมสนับสนุนสิ่งที่ตนเองภูมิใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี รวมไปถึงอาหาร คุณ อรุณโรจน์ เหล่าเจริญวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) เห็นว่า นี่ถือเป็นโอกาสทองของแบรนด์ไทยในการร่วมสร้างกระแสปลุกใจ และชวนคนไทยมีส่วนร่วมกับแบรนด์ที่สะท้อนความเป็นไทยอย่างแท้จริง โดยได้ให้แนวทางการทำแคมเปญในช่วงกระแส Thai DNA ไว้ 2 หัวข้อ คือ
- ปลุกพลังความเป็นไทย ในแต่ละเจน
ต้องยอมรับว่าในช่วงนี้ กระแสชาตินิยม Proud to be THAI กำลังมาแรง เป็นที่เข้าถึงง่ายในทุก ๆ Gen ซึ่งแต่ละเจนนั้น ก็สะท้อนรสนิยมของความภูมิใจใน THAI DNA ที่ต่างกัน แบรนด์จึงควรสื่อสารให้ตรงใจ เช่น
Gen Z: มุกไทยเอาตัวรอด ชวนแชร์ความฮาจากชีวิตจริง สกรีนลงแพคเกจให้อมยิ้มเมื่อได้อ่าน
Gen Y: ไทยดีไซน์ต้องเท่ ไม่ซ้ำใคร คอลแลบร่วมสมัยกับนักออกแบบไทย ให้น่าภูมิใจและน่าสะสม
Gen X: ทำแพ็กเกจย้อนวันวาน ใช้ดีไชน์ยุคเก่าปลุกความทรงจำที่เรียบง่ายแต่มีความหมายกินใจ
- แคมเปญ: จุดพักใจ จุดเชื่อมไทย
ในช่วงเดือนนี้มีวันหยุดยาวที่คนไทยหลายคนได้พักใจ ใช้วันหยุดยาวนี้ให้เป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ ในการชวนคนไทยออกเดินทาง ค้นพบความเป็นไทยผ่านแหล่งมรดกทั่วประเทศ ผ่าน Pop-up “จุดพักใจ” ให้คนไทยได้เช็คอินที่จำหน่ายสินค้าลิมิเต็ดจากท้องถิ่น และกิจกรรม “Thainess Filter Fest” ที่ให้ร่วมสนุกกับ AR filter เพื่อรับโค้ดส่วนลดพร้อมกระตุ้น UGC และยอดขายในแคมเปญเดียวกัน
แนวโน้มความต้องการใช้จ่ายในภาพรวมสำหรับเดือนตุลาคม พ.ศ.2568 นี้ ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา (65 vs 66) แต่ในทางกลับกันภาพรวมคะแนนความสุขของคนไทยเพิ่มขึ้น +2 เมื่อเทียบกับผลสำรวจในเดือนที่ผ่านมา แม้ในช่วงที่ผ่านมาคนไทยจะพบเจอกับปัญหาความขัดแย้ง แต่คนไทยกลับยิ่งรวมใจและร่วมฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน Pround to be THAI จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทยกลับมาเติมเต็มความสุขกันอีกครั้ง คุณ อินทิรา ศรีอำนวย ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ดิจิทัล สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ได้ชี้ให้เห็นว่ามี 3 เรื่องที่คนไทยภูมิใจที่สุดและอยากอวดให้โลกได้เห็นความเป็นไทย ได้แก่
- 56% อาหารไทยที่อร่อยและหลากหลาย รสชาติของความเป็นไทยไร้ที่ติ ถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติในหลายประเทศทั่วโลก
- 51% น้ำใจของคนไทยเอ่อล้นทั่วทุกพื้นที่ ยิ้มแย้มต้อนรับทุกคนด้วยความอบอุ่น และความจริงใจของคนไทยที่มีให้กัน
- 38% ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีของไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก มีความขลัง งดงาม และสนุกสนาน แฝงอยู่ในทุก ๆ กิจกรรมของคนไทยที่พร้อมต้อนรับคนจากทั่วโลก
ซึ่งในผลสำรวจฉบับนี้เอง ได้รวบรวมผลสรุปของคนไทยแต่ละเจน ที่สะท้อนถึงรสนิยมของความภูมิใจใน THAI DNA ที่แตกต่างกัน แต่เป็นคนไทยหัวใจเดียวกันเอาไว้ว่า
- Gen Z สายสนุก ตัวแม่
คนไทยรุ่นใหม่ รักสนุก ชอบสร้างเสียงหัวเราะ ใช้มุกตลกเป็น survival skill ในการเชื่อมต่อโลก อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นและปรับตัวเก่ง พร้อมรับอะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา
- Gen Y สายติ่งป๊อบร่วมสมัย
คน Gen Y มองไทยไม่เคยเก่า แต่ถือเป็น Pop Culture ที่ใช้เป็น soft power ในการเชื่อมใจ เชื่อมโลกให้ใกล้กัน ไม่ว่าจะเป็น สินค้าไทยแบบร่วมสมัย ดนตรี หนัง รวมไปถึงศิลปินไทย
- Gen X สายพอเพียง ส่งต่อคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น
คนไทยรุ่นเก๋า มองประวัติศาสตร์ไทยไม่มีวันเอาต์ วิถีพอเพียง ถือเป็นมรดกที่ส่งต่อสู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้ ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของชาติไทยถือเป็นมรดกสำคัญที่ยึดถือปฏิบัติตามเรื่อยมา
ในช่วงท้ายของผลสำรวจฉบับนี้ คุณ มนะสิทธ์ ลีนานนท์ นักวางแผนกลยุทธ์อาวุโส สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ได้กล่าวถึงข่าวที่คนไทยสนใจในขณะนี้ไว้ว่า “คนไทยยังคงจับตาติดตามข่าวปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงคดีดังต่าง ๆ เช่น ข่าวเงินวัด ข่าวความคืบหน้าบ้านกกกอก เป็นต้น จากชายแดนถึงคดีดัง อีกทั้งเศรษฐกิจในประเทศยังคงไม่นิ่ง สภาพอากาศก็แปรเปลี่ยนไม่น่าไว้วางใจ เรียกได้ว่า คนไทยจับมือกันแน่นตามติดข่าวกันยาว ๆ เพื่อระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ และยังมีความหวังเสมอว่าสถานการณ์จะคลีคลายให้ได้พักผ่อนใจในช่วงปลายปี”