แกร็บ เผยรายงานความยั่งยืนประจำปี 2567 สร้างรายได้ให้คนขับ-ร้านค้ากว่า 4.2 แสนล้านบาท ลดคาร์บอนกว่า 1.28 แสนตัน

แกร็บ เผยรายงานความยั่งยืนประจำปี 2567
สร้างรายได้ให้คนขับ-ร้านค้ากว่า 4.2 แสนล้านบาท ลดคาร์บอนกว่า 1.28 แสนตัน

แกร็บ ผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยข้อมูลและตัวเลขที่สะท้อนความสำเร็จของการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมในปีที่ผ่านมา ผ่านรายงานความยั่งยืนประจำปี 2567” (ESG Report 2024) โดยมีไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ การเปิดโอกาสให้คนขับและผู้ประกอบการร้านค้า-ร้านอาหารสร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์มแกร็บรวมกว่า 1.28 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 4.2 แสนล้านบาท)* การส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินด้วยการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายย่อยและคนขับรวมกว่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 7.2 หมื่นล้านบาท)* การผลักดันการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 128,000 ตัน รวมถึงการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกกว่า 936,000 ตันผ่านการจัดซื้อคาร์บอนเครดิต

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 12 ปีที่ผ่านมา แกร็บมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลใน 3 มิติหลัก อันได้แก่ ธุรกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามพันธกิจ GrabForGood หรือ  ‘แกร็บ…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ สำหรับในประเทศไทย นอกจากเราจะมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแล้ว แกร็บยังได้ริเริ่มและต่อยอดโครงการสำคัญต่างๆ โดยมุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็น การส่งเสริมการเข้าถึงยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อร่วมผลักดันนโยบายลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของภาครัฐ โดยปัจจุบันมีคนขับที่ให้บริการด้วย EV บนแพลตฟอร์มแกร็บแล้วกว่า 10,000 คัน การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในประเทศไทยด้วยการปลูกป่าไปแล้วกว่า 200,000 ต้นจากเงินบริจาคที่ผู้ใช้บริการมีส่วนร่วมในโครงการชดเชยคาร์บอน ตลอดจนการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศด้วยการใช้แพลตฟอร์มของเราเพื่อสร้างโอกาสและรายได้ให้กับคนไทย ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1.79 แสนล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น 1% ของ GDP ประเทศไทย[1] ทั้งนี้ เรายังคงเดินหน้าผลักดันโครงการต่างๆ เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง และพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรธุรกิจเพื่อร่วมส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมไทยให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง”

ล่าสุด แกร็บได้เผยแพร่ “รายงานความยั่งยืนประจำปี 2567” ซึ่งนำเสนอภาพรวมความสำเร็จในรอบปี พร้อมรายงานความคืบหน้าของโครงการและกิจกรรมด้านความยั่งยืนในหลากหลายมิติ อันได้แก่ การส่งเสริมและสร้างโอกาสให้กับคนในวงจรธุรกิจ (Partner) การพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อยกระดับความปลอดภัยและสร้างความอุ่นใจให้กับทุกคน (Platform) รวมถึงการดูแลและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม (Planet) โดยมีไฮไลท์สำคัญ ดังนี้

PARTNER: การส่งเสริมและสร้างโอกาสให้กับคนในวงจรธุรกิจ 

  • คนขับและผู้ประกอบการร้านค้า-ร้านอาหารสามารถสร้างรายได้รวมผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บมากกว่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 4.2 แสนล้านบาท)* เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อนหน้า
  • คนขับกว่า 99% ทั่วทั้งภูมิภาคมีรายได้ต่อชั่วโมงจากการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บเท่ากับหรือสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำรายชั่วโมงของแต่ละประเทศ
  • มีผู้ประกอบการรายย่อยหน้าใหม่กว่า 600,000 รายเข้าร่วมให้บริการบนแพลตฟอร์มแกร็บ โดยผู้ประกอบการเหล่านี้มีส่วนสร้างมูลค่าคำสั่งซื้อรวม (Gross Merchandise Value) ของ บริการ GrabFood และ GrabMart คิดเป็นสัดส่วนถึง 67%
  • คนขับและผู้ประกอบการรายย่อยได้รับการสนับสนุนด้านสินเชื่อจากแกร็บรวมกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 7.2 หมื่นล้านบาท)* เพิ่มขึ้นถึง 46% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

PLATFORM: การพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อยกระดับความปลอดภัยและสร้างความอุ่นใจให้กับทุกคน

  • 9% ของการให้บริการผ่านแกร็บเป็นไปอย่างปลอดภัย โดยไม่มีรายงานอุบัติเหตุเกิดขึ้น
  • แกร็บจัดทำประกันอุบัติเหตุเพื่อให้ความคุ้มครองกับคนขับทุกคนในระหว่างการให้บริการ
  • ฟีเจอร์ AudioProtect ที่ช่วยบันทึกเสียงระหว่างการเดินทาง มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 4เท่า (เปรียบเทียบระหว่างเดือนมกราคมและธันวาคมของปีเดียวกัน)
  • คนขับที่เป็นผู้หญิงกว่าครึ่งเลือกใช้ฟีเจอร์ “รับผู้โดยสารหญิงเป็นหลัก” (Women Passenger Preferred) นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อช่วงต้นปี 2567

PLANET: การดูแลและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม

  • ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 128,000 ตันจากการส่งเสริมให้คนขับเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์คาร์บอนต่ำหรือคาร์บอนเป็นศูนย์ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ไฮบริด
  • เงินบริจาคจากโครงการชดเชยคาร์บอนถูกนำไปใช้ในการปลูกต้นไม้กว่า 600,000 ต้น และจัดซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเติมอีกกว่า 936,000 ตัน
  • ฟีเจอร์ “งดรับช้อนส้อมพลาสติก” ช่วยลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวไปแล้วกว่า 929 ล้านชุด หรือเทียบเท่าการลดขยะพลาสติกได้มากถึง 8,363 ตัน
  • ร่วมมือกับพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมในการรวบรวมขยะรีไซเคิลจำนวน 384,519 ชิ้น เพื่อเข้าสู่กระบวนการจัดการอย่างถูกต้องและยั่งยืน

 

และเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกประจำปี 2568 แกร็บ ประเทศไทย ยังได้เดินหน้าสานต่อกิจกรรม “GrabForGood”เพื่อส่งเสริมจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “From Waste to Wow” เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานได้เรียนรู้การจัดการขยะอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมผ่านกิจกรรมเวิร์กชอปที่ตอกย้ำว่า “ขยะ” สามารถกลายเป็น “ทรัพยากรที่มีค่า” ได้ หากได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี โดยได้ร่วมกับกลุ่ม “Paklad Zero Waste” ณ ชุมชนปากลัด อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในชุมชนต้นแบบด้านการคัดแยกและรีไซเคิลขยะที่แข็งแกร่ง มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และแนวทางขับเคลื่อนการจัดการขยะในชุมชนอย่างยั่งยืน พร้อมจัดเวิร์กชอปแปรรูปกระดาษใช้แล้วให้กลายเป็นประติมากรรมกระดาษที่สามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้กับชุมชนได้จริง นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับกลุ่ม “ผักDone” วิสาหกิจเพื่อสังคมที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการขยะอินทรีย์ มาร่วมแนะนำวิธีเปลี่ยนเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ยหมักอินทรีย์ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ที่บ้านได้ด้วยตนเอง

###

ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus