Fastwork ที่ “CK Cheong” บริหาร ทำไมถึงยังขาดทุนกระจุยแทบทุกปี

นาทีนี้ไม่มีอินฟลูเอนเซอร์การเงินคนไหนจะดังไปกว่าคุณ CK Cheong หรือ ซีเค เจิง อีกแล้ว โดยหลายคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่า คุณซีเคเป็นกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท เช้นจ์ซี จำกัด ที่เป็นเจ้าของ Fastwork

ทั้งนี้ Fastwork คือแพลตฟอร์มตัวกลางฟรีแลนซ์ ที่มีรายได้หลักจากการเก็บค่าคอมมิสชันเวลาที่เกิดการทำธุรกรรมระหว่างนายจ้างและฟรีแลนซ์ในแพลตฟอร์ม ส่วนรายได้อื่น ๆ ก็อย่างเช่นรายได้จากค่าโปรโมต ที่ฟรีแลนซ์สามารถจ่ายเพื่อให้โพรไฟล์ตัวเองไปเด้งในหน้าค้นหาของแพลตฟอร์มมากขึ้น และรายได้จาก Fastwork for Business ที่เป็นบริการโซลูชันสำหรับธุรกิจ

สำหรับผลประกอบการของบริษัท ตั้งแต่ก่อตั้งมาในปี 2559 บริษัทสามารถบริหารธุรกิจให้ทำกำไรได้เพียงปีเดียวคือปี 2564 ในขณะที่ตัวคุณซีเคก็เพิ่งเข้ามาบริหาร Fastwork ในปีเดียวกันคือปี 2564

ลองมาดูงบการเงินย้อนหลัง 5 ปีของบริษัท

ปี 2563 รายได้รวม 44 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 55 ล้านบาท ขาดทุน 23 ล้านบาท

ปี 2564 รายได้รวม 202 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 69 ล้านบาท กำไร 121 ล้านบาท

ปี 2565 รายได้รวม 59 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 81 ล้านบาท ขาดทุน 38 ล้านบาท

ปี 2566 รายได้รวม 55 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 92 ล้านบาท ขาดทุน 50 ล้านบาท

ปี 2567 รายได้รวม 69 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 120 ล้านบาท ขาดทุน 65 ล้านบาท

 

จะเห็นได้ว่ารายได้ของบริษัทของธุรกิจเติบโตค่อนข้างช้า สวนทางกับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ในปี 2564 ที่คุณซีเคเพิ่งเข้ามาบริหาร บริษัทสามารถทำกำไรได้ครั้งแรกจากรายได้พิเศษ ที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างหนี้บริษัท

 

ปี 2563

รายได้หลัก 44 ล้านบาท รายได้รวม 44 ล้านบาท

หนี้สินรวม 162 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น -134 ล้านบาท

ปี 2564

รายได้หลัก 51 ล้านบาท รายได้รวม 202 ล้านบาท

หนี้สินรวม 38 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น -12 ล้านบาท

ปี 2565

รายได้หลัก 58 ล้านบาท รายได้รวม 59 ล้านบาท

หนี้สินรวม 75 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น -17 ล้านบาท

 

จะเห็นว่าในปี 2564 รายได้หลักของบริษัทเพิ่มขึ้น 16% แต่รายได้รวมเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่า ซึ่งรายได้ส่วนนี้ก็มาจากการปรับโครงสร้างหนี้ที่ส่งผลให้หนี้สินรวมลดลงจาก 162 ล้านบาท มาเป็น 38 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจนติดลบแค่ 12 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ธุรกิจแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ค่อนข้างทำกำไรได้ยาก เพราะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในส่วนของผู้ประกอบการแพลตฟอร์มเองและฟรีแลนซ์ ที่ทำให้แต่ละฝ่ายต้องหันมากดราคาเพื่อหาลูกค้า ขณะที่แพลตฟอร์มมี Customer Retention ที่ค่อนข้างต่ำ เพราะนายจ้างไม่ได้ใช้บริการฟรีแลนซ์บ่อย ขณะที่ถ้าเจอฟรีแลนซ์ที่ถูกใจก็มักจะติดต่องานต่อนอกระบบ เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าบริการให้แพลตฟอร์ม

อย่างไรก็ตาม ถ้าแพลตฟอร์มสามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้ถึงจุดหนึ่งได้ก็อาจจะสามารถสร้าง Network Effect และเอาชนะคู่แข่งได้ แต่กว่าจะถึงจุดนั้นก็อาจต้องลงทุนเป็นจำนวนมาก ทำให้เราก็ต้องติดตามต่อว่าคุณซีเคจะสามารถพา Fastwork ไปสู่การเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนได้หรือไม่

 

ที่มา: Fastwork, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า