บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเกษตรมีผลประกอบการไตรมาส 3/67 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว และในปี 2568 บริษัทที่ทำธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ และส่งออกไก่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หลังจากมีการคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกเนื้อไก่จะพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทที่ทำธุรกิจฟาร์มไก่ครบวงจร ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาหลายบริษัทเติบโต และสามารถพลิกเป็นกำไรจากราคาไก่ในตลาดโลกสูงขึ้น
โดย กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การค้าสินค้าเนื้อไก่ ในปี 2568 มีแนวโน้มที่ปริมาณการส่งออกเนื้อไก่โลกจะเพิ่มสูงที่สุดในประวัติการณ์ โดยจะเติบโต 2% อยู่ที่ 13.8 ล้านตัน (ปี 2567 มีการส่งออกประมาณ 13.6 ล้านตัน) จากความต้องการบริโภคเนื้อไก่เพิ่มขึ้น โดยไก่เป็นโปรตีนราคาถูกที่ดึงดูดผู้บริโภครายได้ปานกลาง รวมทั้งการสนับสนุนจากซัพพลายเออร์ผู้ผลิตเนื้อไก่รายใหญ่ของโลก โดยเฉพาะการขยายการส่งออกของบราซิล ทำให้ส่วนแบ่งการส่งออกของบราซิลขยายตัวต่อเนื่อง สำหรับไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ของโลก ก็จะมีการส่งออกเนื้อไก่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
สำหรับผลประกอบการของบริษัทที่ทำธุรกิจฟาร์มไก่ในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญหลายบริษัท อย่าง บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ CPF มีกำไรสุทธิ 9 เดือนของปี 67 15,385.61 ล้านบาท จากเคยขาดทุนสุทธิ 5,328.42 ล้านบาท จากราคาหมูในหลายประเทศมีการปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำในช่วงที่เผชิญกับภาวะหมูล้นตลาดในปีที่ผ่านมา ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ลดลงจากากรบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และระดับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ลดลง
ขณะเดียวกัน บมจ.เบทาโกร หรือ BTG สามารถพลิกเป็นกำไรสุทธิ ได้ภายหลังจากรายได้ของกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีนเพิ่มขึ้น ทั้งจากปริมาณการขาย และราคาหมูราคาไก่ฟื้นตัวขึ้นจากความต้องการทั้งในและต่างประเทศ โดยมีกำไรสุทธิ 9 เดือนของปี 67 ที่ 1,483.18 ล้านบาท จากเคยขาดทุนสุทธิ 741.90 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมี บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจการเกษตรครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ปู่ย่าพันธุ์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่พ่อแม่พันธุ์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ ธุรกิจชำแหละและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ ที่ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 67 ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยมีรายได้ 5,137 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 542 ล้านบาท
แน่นอนว่าราคาไก่ และปริมาณไก่ที่จะพุ่งสูงขึ้นนั้น จะทำให้ทั้ง 3 บริษัทมีโอกาสในการสร้างรายได้มากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทที่ทำธุรกิจฟาร์มไก่ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เพราะสามารถควบคุมต้นทุน และเพิ่มกำไรสุทธิตามราคาในตลาดโลกได้นั่นเอง
ที่มา : IQ , กระทรวงพาณิชย์ , SET