ปัจจุบันหลาย ๆ องค์กรมีความตื่นตัวเรื่องการสร้างวิสัยทัศน์ พันธกิจ วัฒนธรรมองค์กร ตลอดจนการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ หรือกระทั่งปรับโครงสร้างองค์กรขนานใหญ่ให้เกิดความคล่องตัวและทำงานได้อย่างอิสระมากขึ้น เพื่อให้อยู่รอดในกระแสการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยที่แตกต่างจากเดิมเป็นอย่างมาก
จากเดิมที่องค์กรส่วนใหญ่ เป็นองค์กรแบบลำดับชั้นที่เน้นการรักษาสถานะเดิมและความอยู่รอด เป้าหมายถูกกำหนดมาจากเบื้องบน พนักงานทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เน้นให้พนักงานคิดว่า “จะทำอย่างไรให้สำเร็จตามคำสั่ง” กลายมาเป็นองค์กรแบบมีความเป็นอิสระ เน้นการสร้างและบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ควบคุมผ่านแรงจูงใจและความรับผิดชอบในตนเอง ส่งเสริมให้พนักงานคิดว่า “ควรทำอะไรเพื่อสร้างคุณค่า” แต่ไม่ว่าจะพยายามปรับอย่างไร ก็ไม่สามารถปลดล็อกศักยภาพของทีมออกมาได้อย่างเต็มที่เสียที
บทความนี้ ผู้เขียนจะพาทุกท่านไปไขเคล็ดลับว่า องค์กรควรทำอย่างไร เพื่อปลดล็อกศักยภาพของทีมที่มีอยู่ออกมาให้ได้ โดยกุญแจสำคัญ คือ บทบาทของผู้นำนั่นเอง
ผู้นำจำเป็นต้องมี Empowerment Leadership เพื่อเสริมพลังให้ทีมแสดงศักยภาพที่มีอยู่ออกมาได้อย่างเต็มที่ ผู้นำแบบ Empowerment เป็นแนวคิดในการพัฒนาผู้บริหารในยุคใหม่ ที่ไม่ใช่แค่การให้อำนาจสมาชิกในทีมตัดสินใจ ริเริ่มลงมือทำด้วยตนเองเท่านั้น แต่ผู้นำที่มี Empowerment Leadership จะยึดหลัก 5 ประการเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างคน เพื่อปลดล็อกศักยภาพของทีมออกมาได้อย่างแท้จริง
1. การให้กำลังใจ ส่งเสริมให้กล้าริเริ่ม หมายความว่า ผู้นำ จำเป็นต้องสร้างแรงบันดาลใจเพื่อให้สมาชิกในทีมมีไฟในการสร้างสรรค์ผลงานออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งพันธกิจหลักและวิสัยทัศน์ขององค์กรหรือแผนกเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นแรงบันดาลใจของสมาชิกในทีมได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสมาชิกในทีมได้มีส่วนร่วมในการตั้งพันธกิจและวิสัยทัศน์ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกร่วมและอยากทำให้ภาพในอนาคตที่วางไว้เป็นจริงขึ้นมาให้ได้ นอกจากนี้ ผู้นำต้องเข้าใจจุดแข็งของสมาชิกแต่ละคน เพื่อสนับสนุนและหลอมรวมจุดแข็งต่าง ๆ เหล่านั้นเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นจุดแข็งของทีม
2. การสร้างบรรยากาศภายในทีม คือ ผู้นำ ต้องสร้างความไว้วางใจภายในทีม สร้างความคาดหวังในเชิงบวกเพื่อเป็นการเสริมขวัญและกำลังใจให้ทีม นอกจากนี้ ต้องคอยประสานงานระหว่างบุคคลและแผนกให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น รวมทั้งแบ่งปันภาวะผู้นำให้สมาชิกในทีมได้มีบทบาทเป็นผู้นำในบริบทที่แต่ละคนถนัด และสร้างบรรยากาศ Win-Win ภายในทีมเพื่อให้สมาชิกรู้สึกมีส่วนร่วมและมีคุณค่ากับทีม
3. สร้างโอกาสในการเรียนรู้ ได้แก่ การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ คือ การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ดังนั้น ผู้นำจำเป็นต้องวางแผนมอบหมายงานที่น่าสนใจให้กับสมาชิกแต่ละคน และต้องรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ แนวคิดใหม่ ๆ จากสมาชิกและนำไปปรับใช้จริง เพื่อให้สมาชิกมีแรงจูงใจในการทำงานและรู้สึกมีส่วนร่วมกับงานนั้นอย่างแท้จริง นอกจากมอบหมายงานแล้วผู้นำควรสร้างโอกาสในการสร้างคอนเน็กชันให้กับสมาชิกในทีมด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้และเติบโตในอนาคตของทีม
4. การสนับสนุนอย่างจริงใจจากผู้นำ โดยบทบาทของผู้นำจะต้องเปลี่ยนจากคนสั่งงานเป็นผู้ให้คำปรึกษา โดยให้อิสระในการตัดสินใจในบางเรื่องแก่สมาชิก ให้สมาชิกมีอิสระในการเลือกวิธีการทำงานเองได้ ส่วนผู้นำทีมจะสวมบทบาทเป็นฝ่ายสนับสนุนแทน ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนด้านข้อมูล การจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้คำปรึกษาเท่านั้น ผู้นำจะไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการทำงานของสมาชิกโดยไม่จำเป็น
5. การประเมินผลและให้รางวัลอย่างเหมาะสม โดยผู้นำควรมีการประเมินผลงานของทีมเป็นระยะ อาจตั้ง Milestone ไว้เป็นช่วง ๆ เพื่อติดตามและประเมินผลงาน เมื่อทีมสร้างผลลัพธ์ออกมาได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้ก็หาโอกาสให้รางวัลสำหรับความสำเร็จนั้น รวมทั้งให้การยอมรับและชื่นชมอย่างเหมาะสมแก่สมาชิกในทีม ทั้งนี้ การประเมินไม่ควรดูแค่ผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมาเพียงอย่างเดียว แต่ควรประเมินพฤติกรรมที่อยู่เบื้องหลังกระบวนการทำงานนั้น ๆ ด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความภาคภูมิใจ เพิ่มความรู้สึกที่ได้รับการยอมรับและรู้สึกมีคุณค่า ส่งผลให้มีความกระตือรือร้นในการสร้างสรรค์ผลงานต่อไป
หากผู้นำทีมสามารถใช้ Empowerment Leadership ได้อย่างเหมาะสม จะทำให้ทีมแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ สมาชิกในทีมจะมีแรงจูงใจ มีความต้องการที่จะพัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างต่อเนื่อง และมีการทำงานเป็นทีมร่วมกันได้เป็นอย่างดี ทำให้ทีมมีความคล่องตัว มีอิสระพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่เสมอ
และเมื่อปลดปล่อยศักยภาพของทีมออกมาได้อย่างเต็มที่ องค์กรจึงจะสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ดังนั้น บทบาทของผู้นำทีมจึงมีความสำคัญมาก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหัวใจหลักในการขับเคลื่อนขององค์กรเลยทีเดียว แล้วผู้นำทีมของท่านในตอนนี้เป็นแบบไหน ?
ท้ายนี้ BCon มีที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาองค์กรและพัฒนา Empowerment Leadership โดยอ้างอิงหลักจิตวิทยาเชิงบวก และหลักพฤติกรรมศาสตร์มาใช้เพื่อสร้างทีมที่เข้มแข็ง เราพร้อมเป็นที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างผู้นำในองค์กรของท่าน หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมและต้องการนัดหมายเพื่อขอคำปรึกษา กรุณาติดต่อที่ info@bcon.asia
เขียนและเรียบเรียง : อารีลักษณ์ จินดาอุดมเศรษฐ์ Sales and Advisory บริษัท Business Consultants South East Asia Co., Ltd.
ติดตาม Business+ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG : https://www.instagram.com/businessplus.th/
Youtube : https://www.youtube.com/@thebusinessplus7829
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus #Business