เป็นประเด็นร้อนแรงหลังจากเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ผู้บริหาร และบอร์ดของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA จำนวน 3 ราย ซึ่งรวมถึงผู้บริหารสูงสุดอย่าง คุณสมโภชน์ อาหุนัย และคุณอมร ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษ กรณีทุจริตจัดซื้อโปรแกรมซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสดงอาทิตย์ รับผลประโยชน์เกือบ 3,466 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้จะต้องถูกส่งเรื่องต่อไปยัง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดังนั้นทั้ง 3 คนจึงหลุดออกจากตำแหน่งทันที และขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ขณะที่ประเด็นนี้ก็ทำให้ทาง ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติถอด EA ออกจากรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings หลังผู้บริหาร-กรรมการถูกกล่าวโทษ ซึ่งมีผลตั้งแต่ 15 ก.ค. 67
จากสาเหตุที่ว่า บริษัทขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์ SET ESG Ratings ที่กำหนดไว้ว่า “ต้องไม่เป็นบริษัทที่ถูกกล่าวโทษหรือได้รับการตัดสินความผิดจากทางการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือมีกรรมการหรือผู้บริหารถูกกล่าวโทษหรือได้รับการตัดสินความผิดจากทางการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการกำกับดูแลกิจการ การสร้างผลกระทบด้านสังคมหรือสิ่งแวดล้อม”
ทีนี้เรามาย้อนรอยกันว่ากว่าจะมาเป็น EA ในทุกวันนี้บริษัทมีเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้าง
ปี 2551 : ได้มีการก่อตั้งบริษัทโดยใช้ชื่อแรกว่า ‘ซันเทค ปาล์มออยส์’ ทำธุรกิจโรงงานผลิตไบโอดีเซล ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท และต่อมาได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน เปลี่ยนชื่อเป็น ‘พลังงานบริสุทธิ์’ หรือ EA”
ปี 2553 : เริ่มทำธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)
ปี 2554 : เพิ่มทุนเป็น 305 ล้านบาท และขยายธุรกิจไปสู่การผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 แห่ง 1.โรงไฟฟ้าลพบุรี 8MW ขายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และโรงไฟฟ้าตาคลี กับโรงไฟฟ้าลำปาง กำลังผลิตแห่งละ 90MW ขายให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.)
ปี 2555 หยุดทำธุรกิจ LPG หันมาเน้นธุรกิจพลังงานทดแทน และเพิ่มทุนเป็น 317 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โครงการพรหมพิราม 90MW กับกฟผ.
ปี 2556 : เพิ่มทุนเป็น 373 ลบ. และเป็นปีที่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้น (mai)
ปี 2559 : เข้าลงทุนบริษัท Amita ทำธุรกิจผลิตแบตเตอรี่
ปี 2560 : ย้ายเข้าเทรด SET และจัดตั้งบริษัท พลังงานมหานคร ทำธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จสำหรับรถ EV
ปี 2565 : เพิ่มทุนเป็น 402 ล้านบาท
ปี 2567 ถูกพักการซื้อขาย และถอดออกจาก SET ESG หลังก.ล.ต.กล่าวโทษปมผู้บริหารทุจริตจัดซื้ออุปกรณ์สร้างโรงไฟฟ้า
ซึ่งในปัจจุบัน EA มีธุรกิจหลักทั้งหมด 5 กลุ่ม ได้แก่
1) ธุรกิจไบโอดีเซล์ ผลิต และจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (B100) กรีนดีเซล กลีเซอรีนบริสุทธิ์
2) ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ได้แก่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าจากพลังงานลม
3) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน
4) ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ ผลิตและจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า , ธุรกิจบริการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า , ธุรกิจให้เช่าซื้อยานยนต์ไฟฟ้า
5) ธุรกิจศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ , ออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งแบบครบวงจร และบริหารจัดการโครงการ, ธุรกิจกำจัดขยะและโรงไฟฟ้าขยะ
ในแง่ของผลประกอบการมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผลประกอบการ | ||
รายได้ | กำไรสุทธิ | |
ปี 2563 | 17,199 | 5,205 |
ปี 2564 | 20,558 | 6,100 |
ปี 2565 | 27,547 | 7,604 |
ปี 2566 | 31,598 | 7,606 |
โดยข้อมูลของ EA สามารถสรุปได้ดังนี้
ถึงแม้ว่าผลประกอบการจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ทำให้เกิดความวิตกกังวลและขาดความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินของบริษัทฯ โดยเฉพาะการชำระหนี้หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดของบริษัทในปีนี้ จากข้อมูลของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) พบว่า หุ้นกู้ EA จะครบกำหนดชำระปี 2567 (ทั้งหุ้นกู้ระยะสั้น และหุ้นกู้ระยะยาว) ที่ครบกำหนดชำระภายในปีนี้จำนวน 6 รุ่น มูลค่ารวม 6,900 ล้านบาท
ซึ่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน EA ได้เปิดเผยถึงแผนการหาเงินมาชำระคืนหนี้หุ้นกู้ว่า จะทำการขายหุ้นกู้ลอตใหม่ 2 รุ่น ในปลายเดือน ก.ค. 2567 เพื่อจะระดมเงินทุนมาชำระคืนหนี้หุ้นกู้ที่ใกล้จะครบกำหนดในปีนี้รวมจำนวน 5,500 ล้านบาท เบื้องต้นบริษัทได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ไปแล้ว และคงจะเดินหน้าเปิดการจองซื้อเหมือนเดิม
แต่หากนักลงทุนเกิดความกังวลจนทำให้หุ้นกู้ล็อตใหม่ขายไม่ได้ ทาง EA ก็มีแผนสำรองนั่นคือ ได้รับการยืนยันจากธนาคารแล้วว่าจะช่วยสนับสนุนเงินกู้ในส่วนที่ขาดได้อย่างครบถ้วน นอกจากนั้น EA ยังมีกระแสเงินสด (Cash Flow) จากรายรับจากค่าไฟฟ้าประมาณ 1,000 ล้านบาท/เดือน ใช้เวลาเพียง 5 เดือน ก็สามารถชำระคืนได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามในมุมของของ Business+ แล้วถึงแม้ขณะนี้ EA จะมีทีมผู้บอร์ดบริหารชุดใหม่ และออกมาชี้แจงว่า ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง ธุรกิจยังมั่นคงมีอนาคต แต่การถูกถอดออกจาก SET ESG Ratings จะมีผลอย่างมากต่อความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์ของบริษัท เพราะที่ผ่านมา EA ถือเป็นบริษัทที่โปรโมทบริษัทด้วยแผนการดำเนินธุรกิจที่ส่งเสริมความยั่งยืนใน 3 มิติหลัก คือ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) จนติดอันดับความยั่งยืน “The Sustainability Yearbook 2024” ดังนั้น การที่ผู้บริหารมีการพัวพันกับคดีโดยเฉพาะเรื่องของการทุจริตจึงทำให้ชื่อเสียงของ EA แน่แง่ของธรรมาภิบาลนั้นเสื่อมเสียเป็นอย่างมาก และอาจทำให้สภาพคล่องและมูลค่าบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง