ดร.สมพร Empower บุคลากร ‘ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์’ ด้วยหลักความจริง 3 ประการ

“ผมใช้หลัก 3 จริงในการบริหาร คือ คิดจริง ทำจริง และจริงใจ ควบคู่กับการเป็นโค้ชให้ทีมงานทุกคน กล้าคิด กล้าทำ กล้าผลักดันความคิดตัวเอง เพื่อนำไปสู่เป้าหมาย”

แนวทางในการบริหารและพัฒนาองค์กรของ ดร.สมพร สืบถวิลกุล คือ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานกล้าคิด กล้าทำ กล้าผลักดันความคิดตนเอง จึงทำให้ ‘ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์’ กลายเป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมก้าวล้ำหน้า และมีผลิตภัณฑ์มากที่สุดในอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย

ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมวินาศภัยเผชิญกับความท้าทายจาก COVID-19 ซึ่งทิพยประกันภัยเป็นบริษัทแรกที่ออกประกันเกี่ยวกับ COVID-19 ออกมา เพราะเรามองเป็นภารกิจที่ต้องช่วยเหลือประชาชน อย่างไรก็ตามหลักในการออกกรมธรรม์ต้องอยู่บนพื้นฐานของการไม่เป็นภาระกับผู้ซื้อประกันมากเกินไป ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ทำให้องค์กรเกิดความเสียหาย นั่นทำให้ทิพยประกันภัยไม่ได้รับความเสียหายหนักเหมือนกับบริษัทประกันวินาศภัยรายอื่น

ทั้งนี้ หากมองที่ความแข็งแกร่งทางฐานะการเงินแล้ว ทิพยประกันภัยถือเป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่มีความแข็งแกร่งในอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม ด้วยอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) ที่สูงถึง 260% และในปี 2565 ที่ผ่านมา ทิพยประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ 

“COVID-19 ยังไม่มีสถิติรองรับ เราจึงได้ระดมทีมงาน Data Science ในการหาข้อมูลและออกเป็นกรมธรรม์ฉบับแรกของทิพยประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลภายใต้การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ ดังนั้นจึงไม่รับความเสี่ยงที่มากเกินไปทำให้เราได้รับผลกระทบไม่มากเมื่อเทียบกับประกันอื่น และยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง” ดร.สมพร กล่าว

นอกจากการให้ความสำคัญด้านความแข็งแกร่งในแง่ของฐานะการเงินแล้ว ดร.สมพร ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรเป็นอย่างมาก โดยใช้กลยุทธ์การบริหารคนในองค์กรด้วยแนวคิด “สองนคราประชาธิปไตย” นั่นคือ การบริหารคน 2 กลุ่มที่มีความสามารถ และความเชี่ยวชาญต่างกัน คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็น Digital Native และกลุ่มดั้งเดิม โดยที่กลุ่มคน 2 ประเภทนี้มีความถนัดที่แตกต่างกัน แต่เป็นกลุ่มที่มีประสิทธิภาพการทำงาน และช่วยผลักดันการเติบโตให้องค์กรได้

ทิพยประกันภัยดำเนินธุรกิจมาร่วม 72 ปี ทำให้ทิพยประกันภัยมีลูกค้าแบบเดิม ๆ จำนวนมาก ดังนั้น บุคลากรแบบดั้งเดิมจึงสามารถให้บริการลูกค้ากลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี และเราก็จะให้กลุ่มคนที่เป็น Digital Native มาตอบสนองความต้องการลูกค้ารุ่นใหม่” ดร.สมพร กล่าว 

นอกจากนี้ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ยังให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของพนักงานสำรวจภัยจึงได้สร้างทีมงาน TIP Smart Assist ปรับเปลี่ยนพนักงานสำรวจภัยโฉมใหม่ ได้รับการฝึกอบรมในเรื่องบุคลิกภาพ ความรู้ และที่สำคัญจะต้องมีจิตอาสา เพื่อดูแลลูกค้า และช่วยเหลือประชาชนทั่วไป

ดร.สมพร กล่าวว่า ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ได้ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมจากองค์กรดั้งเดิมให้เป็นองค์กรรุ่นใหม่ ด้วยการให้พนักงานถูก Empower ให้สามารถคิด ทำ ตัดสินใจ และผลักดันวิธีคิดของตัวเองขึ้นมาได้ โดยปัจจุบันมีทีมงานรุ่นใหม่ที่เราได้เปิดโอกาสให้คนเหล่านี้คิดโครงการใหม่ ๆ และเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นได้ด้วยตัวเอง เพื่อผลักดันให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดการเป็นวัฒนธรรมได้ต้องใช้หลักการพัฒนาบุคลากรด้วยหลักความจริง 3 ประการในการบริหาร นั่นคือ คิดจริง ทำจริง และจริงใจ

นอกจากนี้ยังได้นำนวัตกรรมมาใช้ทั้งด้านการใช้เทคโนโลยี หรือการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคม ดังนั้นจะเห็นได้ว่าปัจจุบันทิพยประกันภัยมีบริการที่แตกต่างไปมากจากเดิม ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ร่วมกับการให้บริการที่รวดเร็วขึ้น และลูกค้าสามารถติดตามผลได้ตลอดเวลา ซึ่งทำให้ทิพยประกันภัยมีลูกค้าที่เป็น Life Time Customer

มุ่งสู่ความยั่งยืน

ในแง่ของการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืนนั้น ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ให้ความสำคัญกับโครงการที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ไม่ว่าจะเป็นการออกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย และประกันที่สนับสนุนอุตสาหกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาลเสมอมา โดย ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เป็นหนึ่งในสมาชิกสมาพันธ์ต่อต้านการทุจริต (CAC) และได้ Governance Rating ในระดับ 5 ดาวมาอย่างต่อเนื่อง

“การให้ความสำคัญกับ ESG ถือว่าเป็นหนึ่งแนวทางที่เราใช้ในการดำเนินธุรกิจและปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ใน DNA พนักงานทุกคน และเรามีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่สนับสนุนอุตสาหกรรมที่ช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม เช่น การให้เบี้ยพิเศษสำหรับโรงงาน หรือองค์กรที่มีการทำ ESG” ดร.สมพร กล่าว

กลยุทธ์การบริหารของ ดร.สมพร ได้ส่ง ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ให้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของการออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน และสอดคล้องกับโครงสร้างสังคมที่เปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS