ท้าให้ลองสักครั้งในชีวิต กับ Coachella หนึ่งในเทศกาลดนตรีที่น่าทำการตลาดมากที่สุด

ท้าให้ลองสักครั้งในชีวิต กับ Coachella
หนึ่งในเทศกาลดนตรีที่น่าทำการตลาดมากที่สุด
เอาเข้าจริง ๆ แล้ว Coachella หรือชื่อเต็มคือ Coachella Valley Music and Arts Festival ไม่ใช่งาน Music Festival อันดับ 1 ของโลก แต่ทุกคนทั่วโลกต่างเฝ้ารอที่จะไปเที่ยวให้ได้สักครั้งในชีวิต นั่นเพราะเสน่ห์ของ Coachella ที่เป็นมากกว่างานเทศกาลดนตรี ซึ่งงานนี้ยังเป็นเทศกาลที่รักของนักการตลาดและนักโฆษณาอีกด้วย

เพราะที่ผ่านมางานก็สามารถ Make Money ได้เยอะพอสมควร นั่นหมายความว่า งานเทศกาลแค่งานเดียว สามารถทำกำไรได้อย่างไม่น่าเชื่อ

โดย Coachella ติดอันดับที่ 5 จาก 10 อันดับเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2019 ด้วยจำนวนผู้เข้าชมรวม 750,000 คน ซึ่งอันดับที่ 1 คือ Mawazine จัดที่ราบัต โมร็อกโก จำนวนผู้เข้าชมรวม 2,500,000 คน ตามด้วยอันดับที่ 2 อย่าง Donauinselfest จัดที่เวียนนา ออสเตรีย จำนวนผู้เข้าชมรวม 2,400,000 คน และอันดับที่ 3 คือ Summerfest จัดที่มิลวอกี สหรัฐอเมริกา จำนวนผู้เข้าชมรวม 770,000 คน และอันดับที่ 4 Pol’and’Rock จัดที่โปแลนด์ จำนวนผู้เข้าชมรวม 750,000 คน ซึ่งผู้เข้าชมมากพอ ๆ กับ Coachella

อย่างไรก็ตาม จากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทำให้เทศกาลดนตรีประจำปีอย่าง Coachella Valley Music and Arts Festival ถูกยกเลิกไปถึง 2 ครั้ง นั่นคือในปี 2020 และ 2021 แต่ในเดือนเมษายนปี 2022 จะกลับมาจัดอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ โดยที่มีการขายบัตรเข้าชมงานหมดไปแล้วเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2022 ที่ผ่านมา และบัตรถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 75 นาที เท่านั้น และถือว่าเป็นเทศกาลดนตรีที่คนทั่วโลกต่างรอคอย

โดยมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 คือ มีผลทดสอบ COVID-19 เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง หรือมีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส ก็สามารถเข้าร่วมงานเทศกาลดนตรีนี้ได้

จุดเด่นที่น่าสนใจที่ทำให้ Coachella เป็นงานเทศกาลที่นักโฆษณาอยากทำการตลาดมากที่สุดงานหนึ่ง เพราะ…

Coachella ดึงดูดผู้คนเข้างานวันละเกือบแสนคน และในปี 2017 ทางงานมีรายได้ถึง 114 ล้านดอลลาร์ โดยผู้ชมส่วนมากเป็นคนรุ่นมิลเลนเนียล และในบรรดาคนเหล่านั้นก็มีเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ หรือคนดังเดินทางมาร่วมงานมากมาย แม้แต่สื่อ ช่างภาพ ปาปารัสซี ก็อยากมาร่วมงานด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้คนคาดหวังว่าจะได้พบเหล่าเซเลบที่พวกเขาชื่นชอบในงานนี้

เซเลบที่เคยมาเยือน เช่น Paris Hilton, Gigi Hadid, Kendall Jenner, Kylie Jenner และอีกหลายต่อหลายคน แค่เห็นรายชื่อเซเลบที่เคยมา Coachella ก็ทำให้ใจเต้นรัวแล้ว ซึ่งเป็นโอกาสของแบรนด์ต่าง ๆ ที่จะทำการตลาดร่วมกับเซเลบเหล่านี้

อย่างครั้งที่ Coachella 2019 Absolut Vodka เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ เพื่อโปรโมตแบรนด์ของพวกเขาว่าเป็น ‘Planet Earth’s Favorite Vodka’ และให้ Coachella เป็นจุดเริ่มต้นในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งก็คือเจเนอเรชันที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วยภารกิจเพื่อทำให้รูปแบบการผลิตดีขึ้นและยั่งยืน ซึ่ง Absolut ได้เชิญอินฟลูเอนเซอร์ที่คำนึงถึงความยั่งยืนมาจิบค็อกเทลและแบ่งปันความรู้ที่ Absolut’s Planet Tent ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดคาร์บอนและปราศจากขยะ (zero-waste) แน่นอนในครั้งนั้น มีอินฟลูเอนเซอร์อย่าง Aggie Lal และ Gregory Velvet เข้าร่วมงานและช่วยให้ Absolut ได้รับความนิยมอย่างมากในงานเทศกาลประจำปีนั้น

อีกทั้ง Coachella ยังเป็นงานเทศกาลที่ทำให้ได้เห็นเทรนด์แฟชั่นใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ เนื่องจากโซเชียลมีเดียเติบโตควบคู่ไปกับแฟชั่น เพราะเซเลบ อินฟลูเอนเซอร์ และคนที่มาร่วมงานจำนวนมากต่างก็แต่งตัวอวดโฉมลงใน #Coachella ของ Instagram เมื่อแฟชั่นกับดนตรีมาบรรจบกัน นั่นยิ่งทำให้งานเทศกาลดนตรีนี้มีชีวิตชีวามากขึ้น

จากข้อมูลผู้เข้าร่วมงาน Coachella ประมาณ 80% ซื้อของเพื่อเตรียมตัวจะมาเฉิดฉายที่งานเทศกาลนี้ ซึ่งครึ่งหนึ่งของผู้ที่มาร่วมงานซื้อรองเท้า โดย 2 ใน 3 ซื้อเสื้อผ้า นั่นทำให้รู้ว่าผู้เข้าร่วมเทศกาล Coachella พร้อมที่จะใช้จ่ายเงินซื้อเสื้อผ้า รองเท้า หรือเครื่องแต่งกายต่าง ๆ ก่อนมาร่วมงานเทศกาล แบรนด์ต่าง ๆ ที่เห็นโอกาสตรงนี้ก็จะสามารถเข้าทำการตลาดได้ตรงประเด็น

ตัวอย่างเช่น แบรนด์ Doll’s Kill ร้านค้าปลีกเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใสและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “ร้านค้าปลีกที่เติบโตเร็วที่สุด” ได้เข้าร่วมกิจกรรมในปี 2019 และเปิดตัวร้าน pop-up ด้วยแนวคิดมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมัน โดยเสื้อผ้าและสินค้าได้รับแรงบันดาลใจจากแพ็กเกจจิ้งขนมและร้านสะดวกซื้อ พร้อมสโลแกนอันเป็นเอกลักษณ์ของ Doll’s Kill และทาง
แบรนด์ยังจัดกิจกรรมการแสดงดนตรีสดและแจกของรางวัลบนโซเชียลมีเดียอีกด้วย

และที่น่าจับตามองมากที่สุดสำหรับงาน Coachella จะพบว่า มีการเก็บข้อมูลอย่างละเอียด โดยการตอบรับจากผู้เข้าร่วมเทศกาลต่อแบรนด์ที่เกี่ยวข้องหรือสนับสนุนงานดนตรีและเทศกาลต่าง ๆ ตอบคำถามจาก Survey Poll ที่ดีมาก โดย 93% กล่าวว่าพวกเขาชอบแบรนด์ที่สนับสนุนงาน, 80% รู้สึกว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะแนะนำแบรนด์บนโซเชียลมีเดียหลังจากเห็นแบรนด์นั้นในเทศกาล และ 55% รู้สึกว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่พวกเขาพบเห็นในเทศกาลดนตรี

และไม่ว่าจะอยู่ที่งานหรืออยู่ที่บ้านก็สามารถเอ็นจอยไปพร้อมกันได้ เพราะ Coachella เปิดสตรีมสดผ่าน YouTube ซึ่งในปี 2019 มีคนสตรีมงาน Coachella สัปดาห์ที่ 1 บน YouTube ถึง 82 ล้านคน ผู้คนสามารถเข้าถึงงานได้จากทั่วทุกมุมโลก และแชร์ต่อ ๆ กันในโลกโซเชียลมีเดีย เช่น Snapchat และ Instagram โดยสตอรีใน Snapchat ของ Coachella ในปี 2016 มีผู้คนเข้าถึงกว่า 40 ล้านคนในช่วงเทศกาล และตอนนี้ #Coachella ใน Instagram มีโพสต์มากกว่า 5.1 ล้านโพสต์แล้ว

จนถึงตอนนี้ ผู้ชมจำนวนมากต่างกระตือรือร้นที่จะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทศกาลนี้โดยใช้โซเชียลมีเดีย แบรนด์ต่าง ๆ จึงสามารถใช้ประโยชน์จาก Coachella สร้างรายได้จากการเข้าถึงงานอย่างครอบคลุม ทำให้สร้างการรับรู้ในวงกว้าง

งานเทศกาลดนตรี Coachella ปี 2022 ที่จะจัดขึ้นในช่วง 15-17 เมษายนและ 22-24 เมษายนนี้ จึงเป็นที่จับตามองว่า แต่ละแบรนด์จะทำการตลาดอย่างไร ซึ่งเป็นอะไรที่น่าลุ้นและน่าสนุกมาก ๆ เลยทีเดียว

ที่มา : mediakix, SoundOfLife, Medium, Low End Theory Club, National Event Pros, Collabary
เขียนและเรียบเรียง สีน้ำ แผ่วฉิมพลี
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #Coachella #Coachella2022