The Success Story of The Month : One network for every possibility Citi’s global era begins ! นำธุรกิจสู่สากลอย่างมั่นใจ กับ Citi เครือข่ายระดับโลก

The Success Story of The Month By Business Plus ฉบับเดือนกรกฎาคม 2568 จะพาผู้อ่านมาพบกับบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจาก คุณนฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กับความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเติบโตของทุกธุรกิจ ผ่านการมุ่งเน้นจัดหาโซลูชันทางการเงินแบบยืดหยุ่นและหลากหลาย มาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม โดยเธอมั่นใจว่า หากดำเนินตามกลยุทธ์ที่วางไว้ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย จะเป็น Bank of Choice ลองคำหาคำตอบด้วยกัน กับการเดินทางครั้งใหม่อันน่าตื่นเต้นของเธอ และธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย

One network for every possibility Citi’s global era begins !

นำธุรกิจสู่สากลอย่างมั่นใจ กับ Citi เครือข่ายระดับโลก

 

เดือนพฤษภาคม ปี 2566 Citi ประกาศแต่งตั้ง โฟร์ท หรือคุณนฤมล จิวังกูร ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้หญิงคนไทยคนแรกที่ครองตำแหน่งนี้ โดยภายใต้การนำของเธอ ต้องยอมรับว่า ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ จากการสานต่อวิสัยทัศน์ระดับโลกของ Citi เพื่อยกระดับการบริการให้ตอบสนองการเป็นธนาคารสำหรับลูกค้าองค์กร ตั้งแต่ธุรกิจขนาดกลาง ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ และองค์กรข้ามชาติ

ประสบการณ์ทำงานกับธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย  มาเป็นเวลานานของเธอ รวมไปถึงคุณสมบัติและบุคลิกที่มีความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว ตลอดจนการสร้างมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ในการบริหารงาน ต้องถือว่า การแต่งตั้ง “ผู้นำ” หญิงคนใหม่นี้ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมพอดี

อย่างไรก็ตาม การนำพา ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้นั้น ย่อมมาพร้อมกับความท้าทายที่ซับซ้อนมากมาย แต่หากมองถึงศักยภาพและจุดแข็งของ Citi ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า เครือข่ายข้ามพรมแดนที่ครอบคลุมทั่วโลกจากทางธนาคารฯ บุคลากรที่มีความชำนาญ ผ่านเครือข่ายในกว่า 180 ประเทศ รวมถึงเขตปกครองทั่วโลก (Cross-border Network Advantage) สามารถจะช่วยให้ลูกค้าประสบผลสำเร็จทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น

ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ภายใต้การนำของคุณนฤมล มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเติบโตของทุกธุรกิจ ผ่านการมุ่งเน้นจัดหาโซลูชันทางการเงินแบบตรงเป้าหมาย (Focused Approach) และครอบคลุมทุกมิติ (Holistic approach) โดยเธอมั่นใจว่า หากดำเนินตามกลยุทธ์ที่วางไว้ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย จะมุ่งสู่ความเป็น Preeminent Bank  ธนาคารอันดับหนึ่งในใจของบริษัทข้ามชาติที่จะเลือกเป็นคู่คิด

น่าสนใจไม่น้อยกับเป้าหมายที่เธอบอกไว้แบบนี้ อย่างไรก็ตาม เราได้โอกาสสัมภาษณ์พิเศษเธอแบบเจาะลึก จึงอยากนำเสนอเนื้อหามาเผยแพร่กับผู้ชมของเรา โดยเธอทิ้งท้ายข้อความที่น่าสนใจว่า “พร้อมแล้วกับการเติบโตครั้งใหม่ของซิตี้แบงก์ ประเทศไทย”

ลองคำหาคำตอบด้วยกัน กับการเดินทางครั้งใหม่อันน่าตื่นเต้นของเธอ และธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย

 

สุญญากาศทางเศรษฐกิจ สู่วิกฤตแห่งความเชื่อมั่นที่ไม่เคยเจอมาก่อน

คุณนฤมล เริ่มต้นการสนทนาด้วยภาพรวมของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่มองว่า มีแนวโน้มหนักหน่วงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี ทำให้การทำงานของซิตี้แบงก์ ย่อมมีความท้าทายเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต

“ในอดีตเราอาจพูดถึงเพียงส่วนต่างกำไรที่ลดลง หรือสงครามการค้า แต่ปัจจุบันเรากำลังเผชิญกับวิกฤตความเชื่อมั่นในระดับที่บีบหัวใจของทุกประเทศ หรือที่เรียกว่า Trade War 2.0 ซึ่งส่งผลให้ระบบโลกาภิวัตน์และระบบการค้าเสรีที่เคยเป็นรากฐานของการค้าโลก ที่มีการวางแผนว่าจะคงอยู่ไปอีก 100 ปี กลับถูกตั้งคำถามถึงความยั่งยืน หลังจากผ่านไปเพียง 25 ปี และขณะที่ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่เคยกระจายไปทั่วโลกตามความเชี่ยวชาญของแต่ละประเทศก็กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

หมายความว่า ในอดีตระบบการค้าโลก มีการตกลงกันตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีความเชื่อมั่นในระบบนี้มาตลอด เปรียบแล้วเหมือนระบบไฟฟ้าที่ทำงานตามปกติ แล้ววันหนึ่งสายไฟตรงนี้เสื่อม ตรงนั้นเสื่อม เราก็เปลี่ยนได้ นั่นคือความท้าทายปกติที่เราเจอกัน เสื่อมก็เปลี่ยนและมีเวลาที่จะจัดการ แต่ปัจจุบันสิ่งที่เจอคือ ระบบการค้าโลกกำลังเจอกับคำว่า ‘ลัดวงจร’ คือ ทุกอย่างดับหมดและเกิดสภาวะที่เรียกว่า ‘สุญญากาศ’ โดยภาวะสุญญากาศทางเศรษฐกิจนี้ จากการรอนัดการเจรจาโดยที่ไม่สามารถคาดคะเนผลได้ว่าจะออกทิศไหน เวลาในการจัดการทำได้รวดเร็วหรือไม่ ซึ่งสำคัญมากเพราะผลกระทบลูกโซ่กำลังเกิดขึ้นและแรงกระเพื่อมเป็นวงกว้าง

นอกจากนี้ การที่สามมหาอำนาจทางเศรษฐกิจหลักของโลก ได้แก่ สหรัฐฯ จีน และยุโรป ซึ่งมีสัดส่วนเกิน 50% ของ World Trade Size ทั้งหมดอยู่ในภาวะ “ไม่สมานฉันท์” หรือ “เปิดระบบปกป้องตัวเองเป็นหลัก” ยิ่งเป็นการ “ซ้ำเติม” สถานการณ์ให้เลวร้ายลง เพราะหากขั้วอำนาจเหล่านี้ตกลงกันไม่ได้และกลายเป็น “Fragmentation” แทนที่จะยึดโยงกันแบบ “Globalization” ผลพวงที่เกิดขึ้นคือนานาประเทศที่เหลือ ซึ่งมี Supply Chain ฝังรากไปแล้ว อาจต้องเผชิญกับการโยกย้ายการลงทุนเดิมหรือการตัดสินใจลงทุนใหม่ใหม่เนื่องจากต้นทุนที่ยังไม่ชัดเจนและส่งผลกับขีดความสามารถในการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกเหนือจากวิกฤตความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนภาพของการเติบโตที่เสื่อมลงหรือร้ายที่สุดขั้นหดตัว ในด้านเสถียรภาพทางการเมือง ยังเป็นอีกปัจจัยเร่งปฏิกิริยาที่ไม่อาจมองข้าม คุณนฤมลให้ข้อมูลว่า ในปี 2024 เป็นปีประวัติศาสตร์ทางการเมือง เนื่องจากมีการเลือกตั้งมากกว่า 64 ประเทศทั่วโลก ได้มีการคาดไว้และจับตามองขั้วอำนาจที่ได้เป็นผู้นำประเทศต่าง ๆ อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายและเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับระบบโลก

“ตอนนั้นเราก็จับตากันเลยว่า ถ้าการเมืองเปลี่ยนขั้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือนโยบายจะเปลี่ยนไปหรือไม่ แล้วตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงที่มันเกิดขึ้นแล้ว ในแบบที่รวดเร็วและรุนแรงแบบลัดวงจร อย่างที่พวกเราอาจจะไม่เคยเจอโจทย์นี้กันมาก่อน”

จากคำถามนี้ ทำให้ซิตี้แบงก์ ต้องมองหาโซลูชันบนจุดแข็งของธนาคารเพื่อจะช่วยลูกค้าของเราให้สามารถจัดการกับสถานการณ์แบบทันท่วงทีและเดินหน้าในแผนที่วางไว้ หรือต้องปรับแผนอย่างเร่งด่วน ซึ่งเรามี 5 เสาหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจของซิตี้แบงก์

 

Global Network สู่ World Class Solution เพื่อลูกค้าของ Citi

จากความไม่แน่นอนในสถานการณ์โลกปัจจุบัน แน่นอนว่า หลายองค์กรธุรกิจต่างมองหา “ปัจจัยสำคัญ” ที่จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในทุกการตัดสินใจ และนำพาทิศทางธุรกิจให้ก้าวผ่านพ้นความท้าทายไปได้ โดยคุณนฤมล กล่าวว่า ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เป็นสถาบันการเงินเพื่อลูกค้าองค์กร ซึ่งมีความพร้อมที่จะเป็น “คู่คิด” ให้กับลูกค้า การันตีด้วยศักยภาพของความเป็นสถาบันการเงินระดับโลก ซึ่งท่ามกลางความท้าทายที่หนักหน่วงนี้ ซิตี้แบงก์ ประเทศไทย วางบทบาทของตนเองเป็น “ผู้เฝ้าระวัง” และ “ตัวเชื่อม” ที่ใกล้ชิดกับลูกค้าองค์กรและสถาบันทั่วโลก โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการกระจาย Supply Chain ไปทั่วโลก

“ซิตี้แบงก์ เราดูแลลูกค้าองค์กรและสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรข้ามชาติจากต่างประเทศมาในประเทศไทย หรือจากไทยไปต่างประเทศ วันที่องค์กรต้องการก้าวข้ามน่านฟ้าของประเทศออกไปขยายการเติบโตไปแตะพลังการบริโภคระดับโลกเรามองว่าองค์กรธุรกิจที่มีการปู Supply Chain ลงไปในแต่ละประเทศ ต้องมีสะพานเชื่อมที่แข็งแรงในการ เข้าใจในกฏกติกาการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการเข้าถึงตลาดเงินตลาดทุน หรือเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการเงิน  เราต้องวางตัวเองเป็นคู่คิด เป็นที่ปรึกษาวิเคราะห์ความเสี่ยงและพร้อมช่วยลูกค้าว่าติดปัญหาจุดใด เราสามารถประเมินถึงความเสี่ยงของลูกค้าว่ามีความเสี่ยงมาก-น้อย หรือไม่ อย่างไร โดยที่เราสามารถจะใช้นวัตกรรม หรือ Financial Solution หรือเทคโนโลยีใดเข้าไปช่วยเขาได้ไม่ว่าจะป้องกันความเสี่ยงทางการเงินล่วงหน้า หรือแม้ในสภาวะฉุกเฉินเร่งด่วนกับแนวโน้มประเทศนั้นที่เปลี่ยนไปซึ่งอาจส่งผลกระทบกับลูกค้าเรา

และแน่นอนว่า หัวใจสำคัญที่ทำให้ซิตี้แบงก์ โดดเด่นมากที่สุดในโลกของการเงิน คือ Global Network ที่เรามีสำนักงานครอบคลุมกว่า 90 ประเทศ และให้บริการในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก เรียกว่า ธุรกิจของคุณหากต้องไปตั้งสาขาในต่างประเทศ ไม่ว่าจะอยู่จุดใดของโลก ที่มีการบินข้ามผ่านน่านฟ้าของไทยออกไป คุณจะได้รับการดูแลที่ดีจากเรา นั่นเพราะว่า แบรนด์ Citi มีเครือข่ายกระจายอยู่ทั่วโลก เรามี Global Network ที่แข็งแกร่งรองรับในทุกจุดการค้าของโลก เราไปกันเป็น Community ดังนั้น พลังสนับสนุนของซิตี้แบงก์ชัดเจนมากเพราะคุณต้องไปแบบมั่นใจ

ดังนั้น การที่ Citi วาง Positioning เป็น Global Bank ที่พร้อมเป็นพันธมิตรให้กับลูกค้าองค์กรและสถาบันที่ต้องการขยายธุรกิจข้ามประเทศระดับโลกที่มีจุดเด่นอย่างที่บอกไปก่อนหน้า จึงบอกได้ว่า เราจะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศให้สมบูรณ์ที่สุด หมายความว่า เราจะให้ข้อมูลหรือคำแนะนำในทุกเรื่องการค้า การลงทุน ตลอดจนเรื่องกฎระเบียบและความซับซ้อนของแต่ละประเทศให้ชัดเจน

และอีกสิ่งที่เป็นจุดเด่น คือ ซิตี้แบงก์ เรามี World Class Solution หรือเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนคือ เรามี “หู ตา และสมอง” ที่ช่วยลูกค้าเฝ้าระวังและวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจที่คาดว่าจะส่งผลกระทบเข้ามาหาธุรกิจได้อย่างทันท่วงที เราสามารถให้คำแนะนำในเรื่อง Cash Flow Solution สำหรับบริษัทข้ามชาติที่มีการดำเนินงานในหลายประเทศที่กำลังเผชิญปัญหาการโอนเงินข้ามประเทศ เช่น การโอนดอลลาร์ในบางสถานการณ์ โดยนวัตกรรมนี้ช่วยให้สามารถโอนเงินกลับประเทศได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ มาจากการคิดร่วมกันของทีมงานทั่วโลก เพื่อจะแก้ไขปัญหาได้ทันที

 

5 เสาหลักแห่งการขับเคลื่อนธุรกิจของซิตี้แบงก์

หากวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของธนาคารระดับโลกอย่างซิตี้แบงก์ จะพบเบื้องหลังความสำเร็จ คือการวางโครงสร้างธุรกิจบน 5 เสาหลัก ได้แก่

US Personal Banking : มุ่งเน้นตลาดลูกค้ารายย่อยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มากในสหรัฐ

Wealth : ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง โดยมีการรวมศูนย์กลางอยู่ที่ฮ่องกง สิงคโปร์ ลอนดอน และสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ สำหรับลูกค้า Ultra High Net Worth

Banking : ครอบคลุมบริการธนาคารแบบพื้นฐานดั้งเดิม เช่น การปล่อยสินเชื่อทั่วโลก การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเช่นการออกระดมทุนในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการออก Bond หรือ IPO หุ้นในตลาดหลักทั่วโลก รวมทั้งการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งคุณนฤมลเน้นย้ำว่าเป็นจุดแข็งที่ซิตี้แบงก์มีความเชี่ยวชาญอย่างมาก

Markets : บริหารความเสี่ยงด้านตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงการทำธุรกรรมสกุลเงิน (Exotic Currency) ด้วยเครือข่ายห้องค้าและเทรดเดอร์จาก Trading floor กว่า 80 ประเทศทั่วโลก และการบริหารความเสี่ยงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทุกประเภท ซึ่งยังรวมถึงการทำ Carbon Credit Trading อีกด้วย

Services : ในส่วนนี้เปรียบเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงร่างกาย ครอบคลุมเรื่องของบริหารจัดการธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งประกอบด้วย บริการ Treasury and Trade Solutions -Cash Management, Payments, Trade Finance, Investor Services เช่น การดูแลสินทรัพย์ (Custody), Settlement ซึ่งเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินสำหรับบริษัทข้ามชาติและองค์กรขนาดใหญ่ และถือเป็นจุดแข็งที่คู่แข่งรายอื่นเทียบได้ยาก

คุณนฤมลย้ำว่า เป้าหมายของซิตี้แบงก์ในประเทศไทยคือ ต้องการเป็น Top of Mind สำหรับผู้ประกอบการหรือองค์กรธุรกิจที่ต้องการจะขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ดังนั้นซิตี้แบงก์ในประเทศไทย จึงโฟกัส 3 เสาหลัก(Banking, Markets, Services) เพื่อช่วยให้ลูกค้าองค์กรและสถาบันการเงิน สามารถก้าวข้ามโจทย์ด้านการเงินการลงทุนและปัญหาได้อย่างรวดเร็ว โดยซิตี้แบงก์จะคอยสนับสนุนการบริหารจัดการทางการเงิน พร้อมนำเสนอโซลูชันทางการเงินต่าง ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าองค์กรรวมทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการเงิน

“ต้องบอกว่าเริ่มตั้งแต่เรื่องของการระดมทุนทุกดีลที่ระดมทุนจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Equity IPO Dollar Bond Issuance หรือ Securitization ทางเลือกเหล่านี้สำคัญมาก เพราะบางครั้งสภาพคล่องในประเทศไทยอาจจะไม่ได้เอื้ออำนวยหรือบริษัทต้องการขยายทางเลือกออกนอกประเทศกับนักลงทุนจากทั่งโลก หรือการระดมทุนจากในประเทศอาจเกิด Currency Mismatch ซึ่งเป็นการเหลื่อมกันระหว่างสกุลเงินที่ระดมทุนกับสกุลเงินรายรับ แม้กระทั่งบางดีลมีโอกาสที่จะระดมทุนในต้นทุนที่ดีกว่าหลังจากการทำ Cross Currency Swap การแปลงสกุลเงินทั้งต้นและดอกเบี้ยมาเป็นไทยบาท หลากหลายเครื่องมือทางการเงินที่ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกที่ดีกว่าและป้องกันความเสี่ยงไปในตัวได้

นอกจากเรื่อง Currency การบริหารสกุลเงินและดอกเบี้ยแล้ว เรายังเด่นในด้านบริหารความเสี่ยงด้านของสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Hedging) ซึ่งเราบริการทุก Asset Classes ไม่ว่าจะเป็น Soft commodity พวกสินค้าเกษตร เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง ส่วน Precious Metal เช่น โลหะ Copper Aluminum ไปจนถึง Carbon Credit Trading ซึ่งตั้งอยู่ที่ลอนดอน เรามีความโดดเด่นที่สุด

ธุรกิจ 3 เสาหลัก Pillars ที่เราเจาะลงไปลึกด้วยความเชี่ยวชาญในประเทศไทยก็เพื่อช่วยลูกค้า ทำให้เขาป้องกันปัญหาได้ก่อนเกิด มีเครื่องมือจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและก้าวข้ามปัญหาได้อย่างรวดเร็ว เวลาทำธุรกิจข้ามพรมแดนแล้วสามารถโฟกัสไปที่ธุรกิจได้เลย แต่เราจะคอยประกบเขาในเรื่องของ Solution ทางการเงินการลงทุนต่าง ๆ เหล่านี้”

 

CITI ธนาคารอันดับหนึ่งให้กับองค์กรที่มุ่งเป้าหมายไปสู่ตลาดโลก  

“Be the preeminent bank for cross border clients” ถ้าเราทำแบบเดิมผลลัพธ์จะเปลี่ยนได้อย่างไร

อย่างที่ทราบว่า ภาพทัศน์ของธุรกิจธนาคารเปลี่ยนไปอย่างมากในวันนี้ ด้วยอิทธิพลของดิจิทัลและเทคโนโลยีที่มีผลต่อการ Transformation หลายธุรกิจ จากมุมมองเดิมที่หลายคนจะมองว่าธุรกิจธนาคารอาจจะแค่ปล่อยสินเชื่อ โดยคุณนฤมลมองว่า วันนี้โลกเปลี่ยนไปมาก ดีกรีความผันผวนรุนแรงและรวดเร็วกว่าที่เคยเป็นมา ธนาคารควรมีบทบาทเพิ่มเติมมากขึ้นที่มากกว่าการบริการธนาคารแบบเดิม จะตั้งรับอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเริ่มให้คำปรึกษาเชิงรุกเพื่อเป็นแรงสนับสนุนให้ลูกค้ามั่นใจว่ามีเพื่อนคอยช่วยให้คำแนะนำอยู่ข้างตัว เดินไปในตลาดโลกที่มีความผันผวนและท้าทายสูง ต้องมีพาร์ตเนอร์ที่มั่นใจ

“Position ของเราคือ เราเป็นธนาคารเพื่อลูกค้าองค์กร ที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของคุณ ธุรกิจรวมกับเติบโตเศรษฐกิจถึงจะเติบโตได้ (Drive economic growth and progress) ซึ่งเราจะมีคุณค่าและสร้างประโยชน์ได้มากกับคนที่อยากทำธุรกิจและโตต่อมากกว่าในประเทศ หรือคนที่ต้องการสยายปีกการเติบโตในระดับนานาชาติ ซึ่งก็ต้องย้ำว่า บริการของโซลูชันต่าง ๆ ที่เรามีให้กับลูกค้าองค์กรหรือลูกค้าสถาบัน จะไม่ได้มีเพียงแค่การปล่อยสินเชื่อในมิติที่ทุกคนเข้าใจ แต่เรามีทุกโซลูชันทางการเงินที่จะตอบโจทย์ให้ลูกค้าให้ได้ดีที่สุด ตั้งแต่ทีม Research ที่มีอยู่ในแทบทุกประเทศ ความเชื่ยวชาญของเจ้าหน้าที่การเงิน การลงทุน รวมไปถึงเทคโนโลยีที่นำสมัย และความปลอดภัยของระบบที่เราให้ความสำคัญมากในปัจจุบัน เร็วไม่พอต้องปลอดภัยด้วย

หน้าที่ของเราคือ เริ่มจากการสื่อสารเชิงลึก ต้องอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจว่า แนวโน้มตลาดเป็นอย่างไร ความเสี่ยงของธุรกิจมีอะไรบ้าง โซลูชันใดเหมาะกับธุรกิจของลูกค้าแต่ละรายในสภาวะแบบไหน และอย่างที่บอกว่า ซิตี้แบงก์ มีเครือข่ายหลายประเทศและมีความชำนาญมากที่สุด ซึ่งเมื่อใดที่คุณต้องการทำธุรกิจข้ามชาติ คุณต้องมีพาร์ตเนอร์ที่ทำให้คุณมั่นใจในการเดินทาง หมายความว่า ซิตี้แบงก์ ประเทศไทย จะทำหน้าที่เป็น “ตัวเชื่อม” ระหว่าง Local Market กับ Global Market ด้วยความเป็นมืออาชีพระดับโลกที่รับรองได้ว่า ประโยชน์สุงสุดจะเกิดกับลูกค้าที่ร่วมเดินไปสู่ตลาดสากลพร้อมกับเรา”

“จำนวนลูกค้า ไม่ได้สำคัญเท่าคุณค่าที่เราสร้างได้” Quality is more important than quantity คำพูดดังกล่าวที่คุณนฤมลย้ำมานั้น ชี้ให้เห็นได้ชัดว่าซิตี้แบงก์ให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ” ให้กับลูกค้าองค์กรที่ต้องการเติบโตสู่ระดับโลก มากกว่ามุ่งเน้นจำนวนลูกค้าเหมือนในยุคที่ผ่านมา

“วันนี้เราชูจุดแข็งขององค์กร เส้นทางนี้ชัดเจนมากว่า Citi ไม่ได้เป็นธนาคารที่ทำธุรกิจกับลูกค้าทุก Sector หรือทุกประเภท โดยเฉพาะธุรกิจที่มุ่งเน้นการค้าในประเทศอย่างเดียวหรือต้องการทำธุรกรรมกู้ฝากอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ประโยชน์สูงสุดจากเรา สำหรับ Citi เราจะสร้างประโยชน์สูงสุดและมีคุณค่ามากในสายตาบริษัทข้ามชาติ ยิ่งมีธุรกิจในหลายประเทศ หลายภูมิภาคนี่คือสิ่งที่เราเก่งมาก ทั้งเทคโนโลยีที่ทำให้เชื่อมการบริหารสภาพคล่องด้วยระบบรวมศูนย์ หรือ โซลูชันทางการเงินรูปแบบใหม่ที่รวดเร็ว ปลอดภัยในเรื่อง Cyber Security ระบบที่ยอมรับในสากล จะทำให้เกิดประสิทธิภาพที่สุดในแง่ต้นทุนและผลตอบแทนการลงทุนและการดำเนินงานที่ต้องดูแลในหลายประเทศ

จุดโฟกัสเรื่องแกนกลยุทธ์ลูกค้าในแง่ของประเภทธุรกิจ เรามีสัดส่วนรายได้และที่กระจายตัวในหลาก Growth Sector ที่เหมาะสมและสามารถดำเนินกิจการและโตต่อเนื่องได้แบบยั่งยืนในหลากหลายสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจ เราไม่ได้มี Concentration risk หรือความเข้มข้นมากเกินไปในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ในขณะเดียวกันธุรกิจที่เป็น New trend ในส่วนของ Technology เราได้พัฒนามาให้รองรับอนาคตของการเติบโตแบบก้าวกระโดดไปพร้อมกับลูกค้าเช่นกัน

วิสัยทัศน์ 3 แกนกลยุทธ์หลักของธนาคาร ประกอบด้วย

Think Global คือ การคิดเชิงเครือข่ายระดับโลก เพื่อใช้ศักยภาพของ Citi ที่มีอยู่ในกว่า 90 ประเทศ ให้เป็นพลังในการเชื่อมโยงลูกค้าของไทยกับโอกาสใหม่ ๆ ทั่วโลก และทั่วโลกกับศักยภาพประเทศไทย

Speak Solution คือ มุ่งเน้นการออกแบบ “โซลูชันทางการเงิน” ที่ตอบโจทย์เฉพาะทาง มากกว่าการเสนอแค่ผลิตภัณฑ์มาตรฐานแบบเดิม เพราะปัจจุบันโจทย์ซับซ้อนมากกว่าเดิม

และ Deliver One Citi หมายถึงการบูรณาการทุกแผนกในองค์กรให้เป็นหนึ่งเดียว ตั้งแต่กลุ่มเทคโนโลยี สายวิเคราะห์ความเสี่ยง ทีมบริการลูกค้า ไปจนถึงฝ่ายบริหาร

 

จาก 3 แกนหลักนี้ ยกตัวอย่างจุดที่ปรับเปลี่ยนใหม่คือ เรานำเสนอคำว่า “แพลตฟอร์ม” มากกว่า การเป็น “ธนาคาร” แบบดั้งเดิม ด้วยเหตุผลที่เรามองว่า “การเปลี่ยนของเราต้องตามทันโลกมาจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็วนั่นเอง” เพราะในยุคที่ Generative AI และ Blockchain กำลังเปลี่ยนโฉมธุรกิจ และซิตี้แบงก์ได้เตรียมแพลตฟอร์มสำหรับอนาคตไว้รองรับทุกกิจกรรมและธุรกรรมที่ลูกค้าต้องการในวันนี้ไปจนถึงอนาคต ตัวอย่างเช่น การเติบโตของธุรกิจ eCommerce ในประเทศไทย ที่ต้องรองรับธุรกรรมมหาศาลต่อวัน ซิตี้แบงก์ได้เตรียมความพร้อมนี้ โดยนำเสนอ Citi Express ซึ่งเสมือนการสร้าง Tollway ซึ่งจะสามารถรองรับธุรกรรมได้ถึง 10,000 Transaction ต่อวินาที ในขณะที่ระบบธนาคารโดยทั่วไปเฉลี่ยอาจจะทำได้ 200-400 Transaction ต่อวินาที

“วันนี้ถ้าเราจะลุกขึ้นมาลงทุนเรื่องเทคโนโลยี ไม่ใช่พรุ่งนี้ตื่นมาแล้วทำ ดังนั้นอยากจะบอกว่า เราเตรียมพร้อมในเรื่องนี้มานานมากแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องกำลังคน จาก Global Network หรือมิติของ Global Solution ที่สามารถจะเชื่อมลูกค้าไทยกับลูกค้าทั่วโลก ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมใด ผ่านเครื่องมือที่หลากหลาย อาทิ บริการ Citi Express กับระบบ Instant Payment สำหรับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ หรือบริการ Treasury and Trade Solutions หรือระบบบริหารเงินสดข้ามประเทศแบบ real time

เธอเชื่อว่า โอกาสในวิกฤตอยู่ที่ความเร็วในการปรับตัว ดังนั้น ซิตี้แบงก์ จึงพยายามสื่อสารและย้ำมาเสมอว่า เราลงทุนในเทคโนโลยี เพื่อทำให้การตัดสินใจทางการเงินของลูกค้า “ฉลาดและแม่นยำ” มากขึ้น จากการเชื่อมต่อเครือข่ายในภูมิภาคที่ลูกค้าจะเดินทางไปลงทุนขยายกิจการ หมายความว่า ซิตี้แบงก์ ประเทศไทย จึงไม่ใช่เพียง “ธนาคารต่างชาติในไทย” แต่เราเป็น “สะพานเชื่อมธุรกิจและเศรษฐกิจไทยสู่โลก” อย่างแท้จริง

และนี่คือก้าวใหม่ของซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ก้าวที่เริ่มต้นจากผู้หญิงหนึ่งคน ผู้ซึ่งไม่เพียงเปลี่ยนวิธีบริหารธนาคาร แต่ได้เปลี่ยนบทนิยามของผู้นำยุคใหม่ในโลกการเงินด้วยความเชี่ยวชาญ และการเข้าใจลูกค้าและธุรกิจอย่างลึกซึ้ง

 

เขียนและเรียบเรียง : ยุพาพร คุณานันท์

ติดตาม Business+ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+  : https://lin.ee/pbIHCuS

IG  : https://www.instagram.com/businessplus.th/

Youtube : https://www.youtube.com/@thebusinessplus7829

#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus #Business