New Continental GT Speed สุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์
Continental GT Speed ใหม่ เจเนอเรชันที่ 4 อัครยนตรกรรมที่ทรงสมรรถนะที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยขุมพลัง Ultra Performance Hybrid 782 แรงม้า 1,000 นิวตันเมตร ที่มาพร้อมระบบไฟฟ้าใหม่ บูรณาการร่วมกับเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย เพื่อประสบการณ์การเดินทางที่ดีเยี่ยมจากช่างฝีมือ ณ โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ พร้อมรูปแบบการรังสรรค์ที่ไม่มีสิ้นสุด
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม New Continental GT Speed สุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ เจเนอเรชันที่ 4 หลังจาก 21 ปี แห่งการถือกำเนิดอัครยนตรกรรมตระกูล Continental GT พร้อมกำหนดนิยามใหม่แห่งการผสมผสานสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ ความหรูหราในแบบฉบับงานฝีมือ และการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบเหนือระดับ
Continental GT Speed โฉมใหม่ มาพร้อมกับขุมพลังแบบ Ultra Performance Hybrid ใหม่ที่ได้รับการพัฒนา โดยขุมพลังดังกล่าวผสานเครื่องยนต์รุ่น V8 ขนาด 4.0 ลิตรใหม่ ที่สามารถผลิตพละกำลังกว่า 600 แรงม้า เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 190 แรงม้า มอบพละกำลังสูงสุด 782 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 335 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขณะที่แรงบิดได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับ Continental GT Speed ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่น W12 จาก 900 นิวตันเมตร เป็น 1,000 นิวตันเมตร พละกำลังเพิ่มขึ้นกว่า 19% จาก 659 แรงม้า เป็น 782 แรงม้า ซึ่งทำให้ Continental GT Speed ใหม่เป็นอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งเหนือกว่ารุ่น Supersports รุ่นที่ 2 และอัครยนตรกรรมออกแบบพิเศษรุ่น Batur
สำหรับพละกำลังจะถูกส่งผ่านระบบส่งกำลังแบบคลัตช์คู่ 8 สปีดและเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า (eLSD) ไปยังล้อทั้ง 4 เพื่อการจ่ายกำลังที่ยอดเยี่ยมและการยึดเกาะถนนที่มั่นคงที่สุดในทุกสภาพถนน โดยระบบจะควบคุมการไหลของพลังงานตามโหมดที่เลือก สำหรับโหมดไฟฟ้าจะเป็นการเพิ่มพลังงานไฟฟ้า การเบรกแบบจ่ายพลังงานใหม่ และที่สำคัญที่สุดสำหรับรุ่น Continental GT Speed ใหม่ คือ โหมดชาร์จที่เครื่องยนต์จะขับเคลื่อนล้อและชาร์จแบตเตอรี่ในเวลาเดียวกัน
ขุมพลังใหม่มอบสมรรถนะขั้นสูงสุด ทำให้ Continental GT รุ่นล่าสุดแตกต่างจากยนตรกรรมสปอร์ตหรูรุ่นอื่น ๆ ด้วยแรงม้าและแรงบิดที่มากขึ้น พร้อมประสิทธิภาพในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และอัตราการลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอยู่ที่ประมาณหนึ่งในสิบของเครื่องยนต์เบนซินทั่วไป ในทางกลับกัน เครื่องยนต์แบบไฮบริดสมรรถนะสูงจะมอบความสามารถในการขับขี่ที่หลากหลาย ตั้งแต่สมรรถนะขั้นสูงสุดไปจนถึงการขับขี่เงียบสงบด้วยพลังงานไฟฟ้า
สำหรับการขับขี่ในโหมดไฟฟ้า โหมดนี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่เพลิดเพลินกับการขับขี่ที่เงียบสงบและต่อเนื่อง โดยในโหมดไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวสามารถผลิตพละกำลังได้ 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ซึ่งผู้ขับขี่สามารถขับขี่ด้วยความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยการพัฒนาขั้นสูงของเครื่องชาร์จและความจุของแบตเตอรี่ด้วยกำลังชาร์จสูงสุด 11 กิโลวัตต์
Continental GT และ GTC Speed รุ่นใหม่ ได้รับการติดตั้งระบบไฟฟ้าเจเนอเรชันล่าสุด ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญในด้านเทคโนโลยีความบันเทิงภายในรถยนต์และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ชุดเทคโนโลยีเหล่านี้ถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดในกลุ่มยนตรกรรมหรู และมีการแข่งขันสูงในกลุ่มลูกค้าจากแบรนด์ในระดับเดียวกันที่หันมาสนใจในแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์
สำหรับการเปิดรับคำสั่งจอง New Continental GT Speed เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มอบขอเสนอที่ดีที่สุดสำหรับการสั่งจองรถยนต์เบนท์ลีย์รุ่น New Continental GT Speed โดยรุ่น New Continental GT Speed ราคาเริ่มต้นที่ 26.9 ล้านบาท, รุ่น New Continental GT Convertible Speed ราคาเริ่มต้นที่ 29.5 ล้านบาท
พร้อมรับเอกสิทธิ์การบริการหลังการขายมาตรฐานโรงงานผู้ผลิต ด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดที่ ‘นานที่สุด’ ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิตและบริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (24-hour Bentley Roadside Assistance) นาน 3 ปีเต็ม พร้อมรับสิทธิ์การต่อการรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4 ปี
ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus