7 องค์ประกอบสู่การเปลี่ยนแปลงองค์กรยุคใหม่
ท่านเคยหยุดคิดไหมว่า อะไรคือขุมพลังที่แท้จริงซึ่งซ่อนอยู่ภายในองค์กรของท่าน ? พลังนั้นไม่ได้มาจากเม็ดเงินมหาศาล เทคโนโลยีล้ำยุค หรือแผนกลยุทธ์ที่แยบยลที่สุด… แต่มาจาก ‘หัวใจและความผูกพัน’ ของพนักงานทุกคน ผู้พร้อมทุ่มเทเพื่อเป้าหมายเดียวกัน
ในฐานะ ผู้นำ เราอาจมุ่งเน้นการขยายธุรกิจ การบุกเบิกตลาดใหม่ หรือการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ จนบางครั้งอาจมองข้าม ‘เสียง’ ที่สำคัญที่สุดจากภายใน นั่นก็คือ เสียง ซึ่งเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน
วันนี้ ขอเชิญชวนท่านมาหยุดนิ่งและรับฟัง ‘เสียง’ นั้นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะผลวิจัยล่าสุดจาก “Global Transformational Leadership Research 2025″ ได้ส่งสัญญาณที่ทรงพลังและชัดเจน : การลงทุนใน ‘ความผูกพันของพนักงาน’ ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดและการเติบโตขององค์กรอย่างแท้จริง
เปิดผลวิจัยระดับโลก สัญญาณจากอนาคตของการลงทุนด้านบุคลากร
รายงาน Global Transformation Leadership Survey 2025 ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากผู้นำกว่า 3,000 คนทั่วโลก เผยผลลัพธ์ที่ชัดเจนว่า “ความผูกพันของพนักงาน (Employee Engagement)” ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 ของการลงทุนด้านบุคลากรที่สำคัญที่สุด ตามมาด้วย “การสร้างวัฒนธรรมองค์กร (Workplace Culture)” ในอันดับที่ 2 หมายความว่า ทั้ง 2 ปัจจัย คือการลงทุนใน ‘คน’ และการสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับองค์กร ไม่ใช่บทบาทเฉพาะของฝ่ายทรัพยากรบุคคลอีกต่อไป หากแต่เป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากมุมมองของผู้นำกว่า 100 บริษัทในประเทศไทย กลับพบความแตกต่างที่น่าสนใจยิ่ง โดยอันดับ 1 ของการลงทุนด้านบุคลากรในมุมมองของผู้นำไทยค่อนข้างหลากหลายและกระจายตัวในกลุ่ม ‘อื่น ๆ’ (เช่น Data Analytics, Coaching, Upskill, Growth Mindset) และในขณะที่ “ความผูกพันของพนักงาน” ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 3 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างทางความคิดที่ผู้นำไทยอาจต้องเร่งพิจารณา เพื่อให้สอดรับกับทิศทางการลงทุนด้านบุคลากรระดับโลก และไม่พลาดโอกาสในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
งานวิจัยนี้ยังชี้ให้เห็นว่า แม้ทักษะความเป็นผู้นำและการบริหารจัดการจะยังคงมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องรับมือกับเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ ๆ อย่าง Generative AI แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ การให้ความสำคัญด้านความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) และความสามารถในการฟื้นตัว (Resilience) ซึ่งรายงานได้ระบุว่า เป็นความเสี่ยงสำคัญที่คุกคามการรักษาบุคลากรและผู้นำที่มีคุณภาพไว้ได้ในอนาคต
นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่า ในขณะที่เราเร่งพัฒนาเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางธุรกิจ เรากำลังละเลยสิ่งที่สำคัญที่สุดไปหรือไม่ ?
Source: *Blain, Marks, Tareef and Taarif Jafferi. Global Transformational Leadership Survey 2025: The Secrets to Successful Transformative Leadership and High-Performance Culture Building. Transformational Leadership Acceleration Institute, Apr. 2025.
ทำไม “ความผูกพันของพนักงาน” จึงเป็นมากกว่าแค่ความพึงพอใจ แต่คือหัวใจของผลกำไรที่จับต้องได้ ?
ในฐานะที่ปรึกษาองค์กร เราเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า ความผูกพันของพนักงานคือขุมทรัพย์ที่แท้จริง ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสร้างบรรยากาศที่ดี แต่ส่งผลกระทบโดยตรงและเป็นรูปธรรมต่อตัวเลขทางธุรกิจ
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน : พนักงานที่ผูกพันไม่ได้ทำงานแค่ตามหน้าที่ แต่จะทุ่มเทความคิดสร้างสรรค์ ทักษะ และพลังงานอย่างเต็มที่ เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรลุเป้าหมาย ซึ่งส่งผลให้ผลิตภาพและคุณภาพงานโดยรวมสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ลดอัตราการลาออก : เมื่อพนักงานรู้สึกมีคุณค่า ได้รับการดูแล และมองเห็นอนาคตที่สดใสในองค์กร พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะอยู่กับเราไปนาน ๆ ลดภาระและต้นทุนมหาศาลในการสรรหา ฝึกอบรม และปรับตัวของบุคลากรใหม่
- นวัตกรรมไม่หยุดนิ่ง : ในสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกปลอดภัยที่จะแสดงความคิดเห็น เสนอแนวคิดใหม่ ๆ และกล้าที่จะแตกต่าง องค์กรของท่านจะกลายเป็นแหล่งบ่มเพาะนวัตกรรมที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งเป็นกุญแจสู่ความได้เปรียบในการแข่งขัน
- ผลกำไรที่ยั่งยืน : ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนให้องค์กรสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพราะธุรกิจไม่ได้เติบโตด้วยตัวมันเอง แต่เติบโตด้วยพลังและความมุ่งมั่นของ ‘คน’
7 องค์ประกอบสู่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง
คำถามสำคัญต่อไปคือ เราจะเปลี่ยนความท้าทายนี้ให้เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร ? คำตอบคือ การเปลี่ยนจากการมองความผูกพันเป็นเพียงโครงการเฉพาะกิจ ไปสู่การ “ฝังรากกลยุทธ์ความผูกพัน” (Embedded Engagement Strategies) ให้เป็นส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอและจิตวิญญาณขององค์กร
เพื่อให้การมีส่วนร่วมของพนักงานไม่ใช่แค่กิจกรรมสันทนาการ แต่เป็น “ระบบ” ที่ฝังอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรอย่างยั่งยืน เราจึงขอเสนอ 7 กลยุทธ์องค์ประกอบสู่การเปลี่ยนแปลงองค์กรยุคใหม่ ซึ่งเป็น Framework ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถยกระดับ Engagement ได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน
1. มุมมองต่ออนาคตขององค์กร (Business Prospect)
พนักงานจะรู้สึกมีส่วนร่วมได้ก็ต่อเมื่อพวกเขา “เชื่อมั่น” ในอนาคตขององค์กร หากองค์กรมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและสามารถสื่อสารให้พนักงานเข้าใจบทบาทของตนเองในอนาคต พวกเขาจะมีทัศนคติเชิงบวกต่อธุรกิจ เห็นคุณค่า และมีความเชื่อมโยงกับพันธกิจขององค์กร พร้อมที่จะสร้างคุณค่าอย่างต่อเนื่อง
2. ความหมายและคุณค่าของงาน (Job Meaning & Contribution)
งานที่พนักงานทำต้องมี “ความหมาย” มากกว่าค่าจ้าง พวกเขาต้องรู้สึกว่า สิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบันหรือจะทำในอนาคตมีคุณค่าต่อองค์กร ลูกค้า หรือสังคม การเชื่อมโยงงานประจำวันกับเป้าหมายที่ใหญ่กว่า จะช่วยสร้างแรงจูงใจภายในที่ยั่งยืน ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและสิ่งที่ทำมีความหมายอย่างแท้จริง
3. การเติบโตของตนเอง (Personal Growth & Development)
ความผูกพันจะลดลงทันทีเมื่อพนักงานรู้สึกว่า “ไม่มีทางเติบโต” องค์กรที่ดีต้องมีระบบพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านทักษะ ความรู้ และโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพ พนักงานควรเชื่อมั่นว่าตนเองกำลังเติบโตผ่านงานที่ทำ และองค์กรมีโอกาสและทรัพยากรที่เพียงพอในการสนับสนุนการพัฒนาในอนาคต
4. การสนับสนุนจากหัวหน้า (Supportive Management)
หัวหน้าคือ “ตัวแปรสำคัญ” ที่จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนมีคุณค่า การให้คำแนะนำ การเปิดโอกาสให้แสดงความเห็น และการสนับสนุนในยามจำเป็น คือพฤติกรรมที่สร้าง Engagement ได้อย่างทรงพลัง พนักงานควรรับรู้ว่าหัวหน้ามีความคาดหวัง ยอมรับในความพยายามและผลงานของเขา
5. ความสัมพันธ์ในที่ทำงาน (Workplace Relationships)
ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนร่วมงานสร้าง “พลังงานบวก” ในการทำงาน องค์กรควรส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจ ผู้คนในที่ทำงานให้ความใส่ใจซึ่งกันและกัน และพนักงานมีบุคคลที่สามารถไว้วางใจได้อย่างแท้จริงอยู่ในองค์กร นอกจากนี้ การสร้างโอกาสให้เกิดความสัมพันธ์ที่หลากหลายทั้งภายในและข้ามแผนก ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสื่อสารที่เปิดกว้าง และการทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข
6. ความหลากหลายและความยืดหยุ่นในการทำงาน (Diversity & Flexible Work Arrangement)
พนักงานยุคใหม่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน และต้องการให้ความหลากหลายได้รับ “การยอมรับ” ไม่ว่าจะเป็นเพศ วัย ความคิด หรือวิธีการทำงาน องค์กรที่เปิดกว้างและมีทางเลือกในการทำงานที่หลากหลาย โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสัญชาติ เพศ อายุ สุขภาพ หรือสถานการณ์ครอบครัว เช่น การดูแลผู้สูงอายุหรือการเลี้ยงดูบุตร จะสามารถดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้ได้
7. ความเป็นธรรมในการปฏิบัติ (Fair Treatment)
ความยุติธรรมคือ รากฐานของความไว้วางใจ ระบบการประเมินผล ค่าตอบแทน และโอกาสในการเติบโตต้องโปร่งใสและเป็นธรรม หากพนักงานรู้สึกว่า “ถูกปฏิบัติอย่างยุติธรรม” เหมาะสมกับความพยายามและผลงาน พวกเขาจะพร้อมทุ่มเทอย่างเต็มที่ และแม้จะมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในบางช่วงเวลา ก็ยังเชื่อมั่นว่าองค์กรมีความสามารถในการแก้ไขและปรับปรุงให้ดีขึ้นได้
การนำกลยุทธ์การสร้างความผูกพันมาประยุกต์ใช้ในทุกมิติขององค์กร โดยเน้นที่ 7 องค์ประกอบหลัก จะช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืน และเตรียมความพร้อมให้กับองค์กรในการรับมือกับความท้าทายและคว้าโอกาสในอนาคต
ท่านในฐานะผู้นำขององค์กร พร้อมแล้วหรือยังที่จะลงทุนใน ‘หัวใจ‘ และ ‘ความผูกพัน‘ ของบุคลากร เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของท่านสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ?
BCon โดดเด่นด้วยแนวทางพัฒนาองค์กรที่อิงหลักจิตวิทยาเชิงบวกอย่างเป็นระบบ โดยเป็นสมาชิกของ IPPA (International Positive Psychology Association) ซึ่งช่วยให้เข้าถึงองค์ความรู้ระดับโลกและนำมาพัฒนาโปรแกรมฝึกอบรมและที่ปรึกษาได้อย่างแม่นยำ เราผสานความรู้วิชาการเข้ากับประสบการณ์จริง เพื่อยกระดับ Engagement อย่างมีโครงสร้างและวัดผลได้ ติดต่อ info@bcon.asia เพื่อเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงแล้วในวันนี้…
เขียนและเรียบเรียง : สาวิตรี ตรีอรุณ Sales Executives บริษัท Business Consultants South East Asia Co., Ltd
ติดตาม Business+ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
Youtube : https://www.youtube.com/@thebusinessplus7829
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus #Business