ในสนามการบินของไทยที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอันเข้มข้น ทุกสายการบินต่างงัดกลยุทธ์และศักยภาพสูงสุดเพื่อช่วงชิงผู้โดยสารที่มีจำกัด และเมื่อพิจารณาผลประกอบการล่าสุด ภาพที่สะท้อนออกมาชี้ให้เห็นความแตกต่างสุดขั้ว บางรายทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่บางรายกลับดิ่งลงด้วยภาระขาดทุนมหาศาลจนเสี่ยงต่อความยั่งยืนในอนาคต
เริ่มจาก ไทยเอเชีย เอวิเอชั่น (ThaiAirAsia ) ภายใต้การนำของคุณสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่ยังคงครองบัลลังก์ผู้นำตลาดโลว์คอสต์ ด้วยจำนวนผู้โดยสารกว่า 20.8 ล้านคน รายได้รวม 50,873 ล้านบาท และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 652% สิ่งนี้สะท้อนชัดเจนถึงประสิทธิภาพในการขยายเครือข่าย ควบคุมต้นทุน และเจาะตลาดผู้โดยสารทุกกลุ่ม จนสามารถรักษาความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในทุกสนามบินหลักของประเทศ นอกจากนี้ AirAsia ยังได้รับรางวัลสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 16, ติดท็อปสายการบินราคาประหยัดที่ปลอดภัยที่สุดในโลกประจำปี 2568, สายการบินที่ตรงเวลาที่สุดในเอเชียแปซิฟิก และสายการบินราคาประหยัดที่ตรงเวลาที่สุดในโลก ซึ่งยิ่งตอกย้ำความเหนือชั้นและความน่าเชื่อถือของแบรนด์
ในอีกฟากหนึ่ง การบินไทย (Thai Airways) สายการบินแห่งชาติภายใต้การนำของคุณชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังคงรักษาภาพลักษณ์พรีเมียมได้อย่างมั่นคง แต่เมื่อพิจารณาตัวเลขทางการเงิน รายได้สูงถึง 192,821 ล้านบาทกลับมาพร้อมผลขาดทุนสุทธิ 26,933 ล้านบาท ปัญหาภาระหนี้และโครงสร้างต้นทุนที่สูงยังคงเป็นเงื่อนไขใหญ่ที่ฉุดรั้งการฟื้นตัว แม้แบรนด์ยังทรงพลัง แต่สถานการณ์จริงชี้ชัดว่านี่คือภารกิจฟื้นฟูที่ต้องอาศัยทั้งวินัยทางการเงินและการปรับโครงสร้างเชิงลึก และการยืนยันคุณภาพยังคงชัดเจนด้วยรางวัล Best International Airlines และการจัดอันดับสายการบินที่ดีที่สุดในโลก ปี 2025 จาก World Airline Awards ที่บินไทยขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 29 จากอันดับ 33 ในปีก่อน
ขณะที่ การบินกรุงเทพ (Bangkok Airways) ภายใต้การบริหารของคุณพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหาร เลือกวางตำแหน่งชัดเจนในฐานะ “Boutique Airline” เน้นบริการเหนือมาตรฐานและการเชื่อมเส้นทางท่องเที่ยวสำคัญ ส่งผลให้มีรายได้ 26,456 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,787 ล้านบาท พร้อมอัตรากำไรต่อผู้โดยสารที่สูงที่สุดในตลาด โมเดลเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจนนี้ทำให้สายการบินสามารถยืนหยัดได้มั่นคงแม้เผชิญการแข่งขันรุนแรง และยังได้รับรางวัลสายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Regional Airline) และสายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในเอเชีย (Best Regional Airline in Asia) จาก Skytrax World Airline Awards ปี 2025 ซึ่งถือเป็นปีที่ 9 ติดต่อกันที่ได้รับการยอมรับ
ด้าน ไทย ไลอ้อน แอร์ (Thai Lion Air) ของคุณอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังคงเดินเกมด้วยกลยุทธ์ตั๋วราคาประหยัด ดึงดูดผู้โดยสารกว่า 6 ล้านคน สร้างรายได้ 17,075 ล้านบาท แต่กำไรกลับหดตัวลง −37.66% ภาพสะท้อนเชิงธุรกิจจึงไม่ต่างจาก “สิงโตที่คำรามเสียงดัง” หากแต่ขาดพลังเพียงพอในการรักษาศักยภาพท่ามกลางแรงกดดันด้านราคาและต้นทุน
ตรงกันข้ามกับ ไทย เวียตเจ็ท แอร์ (Thai VietJet Air) ที่นำโดยคุณวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แม้ไม่เปิดเผยจำนวนผู้โดยสาร แต่สามารถสร้างรายได้ 19,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 45% พร้อมพลิกกำไรได้ 63 ล้านบาท เติบโตเกิน 100% กลยุทธ์โปรโมชั่นแรงและการตลาดเชิงไวรัล ทำให้เวียตเจ็ทกลายเป็นตัวแสบที่สั่นสะเทือนตลาด และบีบให้คู่แข่งต้องปรับทิศทางรับมือ
ส่วน นกแอร์ (Nok Air) ภายใต้การนำของคุณวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังคงยืนอยู่ในสนามด้วยกลยุทธ์เจาะเมืองรอง แม้รายได้ลดลงเหลือ 7,404 ล้านบาท แต่ยังประคองกำไรเล็กน้อยที่ 62 ล้านบาท ภาพรวมสะท้อนการ “บินรอดแบบบอบช้ำ” ซึ่งชี้ให้เห็นความพยายามรักษาสถานะในตลาดที่เต็มไปด้วยผู้เล่นขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม หากมองในเชิง คุณภาพการให้บริการและความตรงต่อเวลา จะเห็นความแตกต่างที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้โดยสารอย่างชัดเจน สายการบินฟูลเซอร์วิสอย่างการบินไทยและบางกอกแอร์เวย์สยังคงรักษามาตรฐานการบริการที่เหนือกว่า ทั้งที่นั่ง พื้นที่บนเครื่อง อาหาร และบริการเสริม ในขณะที่สายการบินโลว์คอสต์อย่าง AirAsia และ Thai VietJet แม้จะได้เปรียบด้านราคา แต่ความตรงต่อเวลาและความสะดวกในการจองยังต้องติดตามและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ Thai Lion Air และ Nok Air ต้องเผชิญความท้าทายด้านความน่าเชื่อถือของตารางบิน
สุดท้าย ปัจจัยแห่งชัยชนะบนท้องฟ้าไม่ได้มีเพียงราคาและจำนวนผู้โดยสาร แต่รวมถึงคุณภาพบริการและความตรงต่อเวลา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประสบการณ์ผู้โดยสาร ผู้ที่สามารถผสมผสาน “ต้นทุนที่แข่งขันได้” เข้ากับ “มาตรฐานบริการที่น่าเชื่อถือและตรงต่อเวลา” จะเป็นผู้ที่ไม่เพียงครองตลาด แต่ยังครองใจผู้โดยสารได้อย่างแท้จริง
ที่มา: เว็บไซต์ของบริษัท, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ,SET