แอร์บัสตอกย้ำความมุ่งมั่นต่อประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ที่บริษัทได้ดำเนินธุรกิจและสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 40 ปี
แอร์บัสเน้นย้ำถึงบทบาทอันมั่นคงของแอร์บัสในประเทศไทย ปัจจุบันมีเฮลิคอปเตอร์ทั้งในภาคพลเรือน งานบริการกึ่งสาธารณะ (Parapublic) และทหารมากกว่า 70 ลำ รวมถึงเครื่องบินลำเลียงทางทหารกว่า 15 ลำ ที่กำลังประจำการอยู่กับหน่วยงานภาครัฐและเหล่าทัพต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนภารกิจหลากหลาย ตั้งแต่การลำเลียงกำลังพลและสัมภาระ การค้นหาและกู้ภัย (Search And Rescue: SAR) การแพทย์ฉุกเฉิน (Emergency Medical Services: EMS) ไปจนถึงภารกิจด้านมนุษยธรรม
คุณเบิร์ท พอร์เทอแมน (Bert Porteman) ผู้แทนแอร์บัสประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ที่มีความสำคัญสำหรับแอร์บัส เรามุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างการดำเนินงานในประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผ่านผลิตภัณฑ์ของเรา ความร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศ และการสนับสนุนต่อความต้องการระยะยาวของไทย”
เครื่องบินแอร์บัส เอ330 มัลติโรล แทงเกอร์ ทรานสปอร์ต พลัส (A330 Multi Role Tanker Transport Plus: MRTT+) ถูกนำเสนอในฐานะยุทโธปกรณ์สำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพด้านการเคลื่อนย้ายทางอากาศและขยายขอบเขตการปฏิบัติภารกิจ ตั้งแต่การป้องกันประเทศไปจนถึงภารกิจด้านมนุษยธรรม โดยกองทัพอากาศไทย (ทอ.) เตรียมนำเครื่องบินรุ่นนี้มาใช้งานหลังจากได้สั่งซื้อจำนวน 1 ลำในเดือนกันยายน 2568
กองทัพบกไทยปัจจุบันใช้งานเครื่องบินลำเลียงยุทธวิธีแบบซี295 (C295) ซึ่งมีความอเนกประสงค์สูง ใช้สำหรับภารกิจลำเลียงกำลังพลและสัมภาระ อีกทั้งยังสามารถปรับใช้ได้กับภารกิจหลากหลายรูปแบบ อาทิ การค้นหาและกู้ภัย การบรรเทาสาธารณภัย การดับไฟป่า การฝึกกระโดดร่ม และการลาดตระเวนทางทะเล
สำหรับประเทศที่มองหาโซลูชันด้านการเคลื่อนย้ายทางอากาศที่ครบวงจรและสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แอร์บัสได้นำเสนอเครื่องบินแบบ เอ400เอ็ม (A400M) ซึ่งรองรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุดถึง 37 ตัน มอบสมรรถนะทั้งในภารกิจระดับยุทธศาสตร์และยุทธวิธี โดยสามารถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์และยานพาหนะได้ พร้อมความสามารถในการขึ้นลงบนรันเวย์ที่ไม่ได้ปูลาดยาง
กลยุทธ์การผสมผสานฝูงบินที่ประกอบด้วยเครื่องบินแบบ A400M A330 MRTT และ C295 มอบโซลูชันที่ครอบคลุมทุกมิติของภารกิจ ตั้งแต่การป้องกันประเทศไปจนถึงภารกิจตอบสนองต่อสถานการณ์ภัยพิบัติ
ในด้านความมั่นคง แอร์บัสยังนำเสนอระบบอากาศยานไร้คนขับ (UAS) แบบครบวงจร โดยเซอร์แทป (SIRTAP) เป็นอากาศยานไร้คนขับเชิงยุทธวิธีที่สามารถปรับให้เหมาะสมกับภารกิจลาดตระเวนทางทะเลและการป้องกันชายแดน พร้อมขีดความสามารถในการปฏิบัติการด้านข่าวกรอง การสอดแนม และการเฝ้าตรวจ (Intelligence, Surveillance and Reconnaissance ISR) ได้อย่างแม่นยำในทุกสภาพอากาศ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ
ในด้านอวกาศ แอร์บัสกำลังพัฒนาดาวเทียม OneSat รุ่นแรกของไทยที่มีความยืดหยุ่นสูง ให้กับบริษัท ไทยคม ซึ่งเป็นดาวเทียมที่มีความยืดหยุ่นสูง มอบการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพและสามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้ตามความต้องการ
นอกจากนี้ แอร์บัสยังนำเสนอเฮลิคอปเตอร์หลากหลายรุ่น อาทิ เอช125 (H125) เอช160 (H160) และเอช175 (H175) พร้อมด้วย Flexrotor ระบบอากาศยานไร้คนขับปีกตรึงขนาดเล็กแบบขึ้นลงทางดิ่ง (VTOL) ที่ออกแบบมาเพื่อการปฏิบัติการระยะยาวและภารกิจที่ต้องการความลับสูง โดยผ่านการพิสูจน์สมรรถนะแล้วจากชั่วโมงบินกว่า 5,000 ชั่วโมงในพื้นที่ปฏิบัติการที่มีความเสี่ยงสูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับภารกิจ ISTAR
เฮลิคอปเตอร์ขนาดกลางรุ่น H175 เริ่มเข้าประจำการกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อปี 2560 ซึ่งถือเป็นผู้ใช้งานรายแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปัจจุบันเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้ยังถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค อาทิ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง และมาเลเซีย
เฮลิคอปเตอร์รุ่นใหม่ H160 ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพของ H175 โดยมอบความได้เปรียบทั้งด้านประสิทธิภาพการปฏิบัติการและความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เหมาะสำหรับภารกิจที่ต้องการความคล่องตัวสูง เช่น การขนส่งนอกชายฝั่ง (offshore) การแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) และการบริการสาธารณะ แอร์บัสมองว่า H160 มีศักยภาพที่จะทำงานร่วมกับ H175 ของไทยในหลากหลายภารกิจ ตั้งแต่การค้นหาและกู้ภัย (SAR) งานของหน่วยงานรัฐในการบังคับใช้กฎหมาย ไปจนถึงการดับเพลิงและการแพทย์ฉุกเฉิน
กองทัพบกไทยปัจจุบันใช้งานเฮลิคอปเตอร์ทางทหารรุ่น เอช125เอ็ม (H125M) โดยแอร์บัสมองเห็นโอกาสในการขยายการใช้งานเฮลิคอปเตอร์รุ่น H125 สำหรับภารกิจหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภารกิจขนส่งเพื่อการสาธารณูปโภค การดับไฟป่า การสำรวจทางธรณีวิทยาและสัตว์ป่า การบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนการฝึกนักบินขั้นต้น (ab-initio) โดยสามารถใช้ร่วมกับระบบจำลองการบินเสมือนจริง H125 (H125 VRS)
แอร์บัสยังคงรักษาความร่วมมืออันแน่นแฟ้นกับบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด (TAI) ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2560 ในด้านการให้บริการหลังการขายสำหรับฝูงเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยงานภาครัฐ ปัจจุบัน TAI ทำหน้าที่เป็นผู้รับเหมาหลักและศูนย์ตกแต่ง (Completion Centre) สำหรับการจำหน่ายเฮลิคอปเตอร์ของแอร์บัสให้แก่หน่วยงานภาครัฐของไทย รวมถึงเป็นผู้ให้บริการบำรุงรักษาหลักให้กับกองทัพไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ในงาน Defence & Security 2025 ที่จัดขึ้นในประเทศไทยเมื่อเร็วๆ แอร์บัสนำโมเดลเครื่องบิน A330 MRTT A400M และ C295 พร้อมด้วยโมเดลจำลองอากาศยานไร้คนขับ Flexrotor ขนาดเท่าของจริง และเฮลิคอปเตอร์รุ่น H125 H160 และ H175 มาจัดแสดง
The Business Plus บิสิเนสพลัส

