Sewa (เซวา) แบรนด์สกินแคร์ลูกครึ่งไทย–เกาหลี ตำนานน้ำตบโสมกว่า 2,000 ปี ประกาศ “รีแบรนด์ครั้งใหญ่” ภายใต้แนวคิด “Sewa Glow Reborn” หลังเผชิญภาวะยอดขายร่วงจาก 500 ล้านบาท เหลือเพียง 200 ล้านบาทใน 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยการใช้กลยุทธ “รีบูตแบรนด์” เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่น และสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้สอดคล้องกับผู้บริโภคยุคใหม่ โดยชูจุดยืน “Functional Clean Skincare” ที่ผสานพลังธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ ปลอดภัย เห็นผลจริง และเข้าถึงได้ในราคาที่สมเหตุสมผล

นางสาว เบญจกิติ เมฆแสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sewa เปิดเผยว่า การรีแบรนด์ครั้งนี้เริ่มต้นจากการยอมรับ “จุดเปลี่ยน” ของแบรนด์ และการทำ รีเสิร์ชเชิงลึกกับกลุ่มเป้าหมายกว่า 50 คน เพื่อเข้าใจภาพลักษณ์ของ Sewa ในสายตาผู้บริโภค ผลลัพธ์สะท้อนอย่างชัดเจนว่า “Sewa” ถูกมองว่าเป็นแบรนด์ของคนสูงวัย และยังมีภาพจำว่าเป็น “แบรนด์ของดารา” ที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ แม้ผลิตภัณฑ์จะมีคุณภาพดี แต่กลับสื่อสารไม่ถึงหัวใจผู้บริโภคใหม่ๆ
“เกือบ 9 ปีที่ผ่านมา เราเรียนรู้ว่าความงามเดินเร็วเกินกว่าจะยืนอยู่กับที่ได้ นั่นคือเหตุผลที่เราตัดสินใจพา Sewa รีแบรนด์ครั้งใหญ่ เพื่อรีเฟรชทั้งภาพลักษณ์และความหมายของแบรนด์ให้สอดคล้องกับยุคสมัยและผู้บริโภคเจเนอเรชันใหม่ เราอยากให้คนเห็น Sewa เป็นแบรนด์ผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Functional Clean Skincare สกินแคร์ที่พิสูจน์ได้ ใช้ดีจริง และเข้าถึงง่ายสำหรับทุกผิว ทุกวัน ในราคาที่จับต้องได้ และใส่ใจโลกด้วยบรรจุภัณฑ์ Eco-Friendly การเปลี่ยนแปลงของเราครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างการบริหารไปจนถึงอัตลักษณ์แบรนด์ อย่างสีแดง Tomato ที่ให้ความรู้สึกสดใส ทันสมัย และเป็นมิตรกับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น โลโก้แบบตัวพิมพ์เล็ก “sewa” ใหม่ สะอาด มินิมอล อ่านง่าย สะท้อนความจริงใจและความทันสมัย ขณะเดียวกันเรายังคง DNA “ธรรมชาติ + วิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้” อย่างชัดเจน เรื่องคุณภาพคือหัวใจ เราวางตำแหน่งเป็น Premium Mass ที่กล้าลงทุนกับโรงงานผลิตระดับท็อป สารสกัดพรีเมียม และมาตรฐานการทดสอบเข้มข้น แต่ตั้งราคาอย่างมีเหตุผลตามคุณค่าที่ลูกค้าได้รับ เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่า “ได้มากกว่าที่จ่าย” นางสาวเบญจกิติ กล่าว

ภายใต้การรีแบรนด์ครั้งนี้ Sewa ดึงพลังของ “เจนเย่ เมธิกา” นักแสดงและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์คนใหม่ เพื่อถ่ายทอดภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดู “โกลบอลและร่วมสมัย” มากขึ้น เจนเย่มีคาแรกเตอร์ของคนรุ่นใหม่ที่มั่นใจ ฉลาด และมีสไตล์ในแบบอินเตอร์ อีกทั้งยังมีฐานแฟนคลับขนาดใหญ่ในจีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญที่ Sewa มีแผนจะขยายในอนาคต
แคมเปญ “Sewa Glow Reborn” ภายใต้แท็กไลน์ “Cell to Cell Recovery, Glow Reborn.” จะถูกสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ Sewa ส่งด่วนจากเกาหลี พร้อมยึดแลนด์มาร์กทั่วกรุงเทพฯ ผ่านกลยุทธ์ OOH Domination ทั้งจอ LED และการหุ้มขบวน BTS เพื่อสร้าง “Glow City” ให้ผู้บริโภครับรู้ภาพแบรนด์ใหม่ในวงกว้าง


Sewa ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์การตลาดแบบ Omni-channel ครบวงจร ตั้งแต่ Modern Trade ไปจนถึง E-commerce พร้อมเสริมพลังด้วย Affiliate & Creator Commerce เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์และผู้ใช้จริงร่วมสร้างคอนเทนต์รีวิว ปักตะกร้า และสร้างรายได้ไปพร้อมกัน เพื่อขยายฐานลูกค้าแบบวิน–วิน
นางสาวเบญจกิติ กล่าวเสริมว่า “ เป้าหมายธุรกิจของเราเรียบง่ายแต่ชัดเจน เราตั้งเป้ายอดขาย 600 ล้านบาทในปี 2026 พร้อมเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% บนกลยุทธ์ Omni-channel ที่สมดุลทั้งออนไลน์และออฟไลน์ สำหรับเราการรีแบรนด์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนลุค แต่คือการยกระดับมาตรฐาน ทำให้ sewa เป็นแบรนด์ Functional Clean Skincare ที่คนไทยไว้วางใจได้จริง”

ไฮไลต์ของแคมเปญนี้คือการเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่
-
Sewa Ultimate Recovery Treatment Essence – เพื่อผิวแน่นกระชับ อิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์
-
Sewa Brightening Treatment Essence – เพื่อผิวใสฉ่ำน้ำ สีผิวสม่ำเสมอ และอ่อนโยนแม้ผิวไว
ทั้งสองสูตรใช้เทคโนโลยี Cellxosome™ นวัตกรรม “น้ำตบ AI” ครั้งแรกของโลก ที่สามารถ “สื่อสารระดับเซลล์” เสมือนมี AI อัจฉริยะคอยชี้เป้าปัญหาและฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุด ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญผิวหนัง เหมาะกับผิวแพ้ง่ายและคุณแม่ให้นมบุตร
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ ผลิตจากพลาสติกย่อยสลายได้ (biodegradable) แต่ยังคงคุณสมบัติในการปกป้องสารสกัดให้คงความเสถียรสูงสุดได้นานถึง 4 ปี ดีไซน์มินิมอล ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
The Business Plus บิสิเนสพลัส

