Major Cineplex นิยามใหม่ของประสบการณ์โรงภาพยนตร์ผ่านกลยุทธ์นวัตกรรม ผู้นำธุรกิจโรงภาพยนตร์ไทยยกระดับความบันเทิงสู่ Lifestyle Destination

ในยุคที่แพลตฟอร์มสตรีมมิงครองเวลาว่างของผู้บริโภค “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)” ยังคงเติบโตอย่างมั่นคงในฐานะผู้นำธุรกิจโรงภาพยนตร์อันดับหนึ่งของประเทศไทย สะท้อนให้เห็นว่า การดูหนังในโรงภาพยนตร์ยังคงเป็น ประสบการณ์ที่ไม่มีสิ่งใดทดแทนได้” เมื่อถูกขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ที่เฉียบคมและนวัตกรรมที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

จากโรงหนังสู่ระบบนิเวศแห่งความบันเทิงครบวงจร

ภายใต้การนำของ คุณวิศรุต พูลวรลักษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัทได้พัฒนาโมเดลธุรกิจจาก “เครือข่ายโรงภาพยนตร์” ไปสู่ “ระบบนิเวศความบันเทิงครบวงจร” ภายใต้ Brand Promise ใหม่ “Lifestyle Entertainment Leadership”

แนวคิดนี้ไม่ได้มุ่งแค่การฉายภาพยนตร์ แต่คือการสร้าง Emotional Connection ที่สอดคล้องกับทุกเจเนอเรชัน ตั้งแต่ครอบครัว คนทำงาน ไปจนถึง Gen Z ที่มองหาประสบการณ์ที่ “แชร์ได้” และ “ต้องโพสต์”

Three Strategic Growth Pillars : เสาหลักแห่งการเติบโตปี 2025

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์วางกลยุทธ์บนสามเสาหลักเพื่อยกระดับประสบการณ์และเพิ่มคุณค่าตลอดเส้นทางของลูกค้า (Customer Lifetime Value)

  1. Digital Experience Transformation

Major Cineplex App ถูกพัฒนาให้เป็น Digital Gateway ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนของ Customer Journey ตั้งแต่การซื้อตั๋ว เลือกที่นั่ง ดูเทรลเลอร์หนังใหม่ ไปจนถึงการรับสิทธิพิเศษผ่าน M Coupon

นอกจากนี้ยังมีบริการ Pre-Order Popcorn & Drinks ที่ลูกค้าสามารถสั่งล่วงหน้าเพื่อรับที่โรงหรือจัดส่งถึงบ้าน ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และควบคุมเวลาได้เอง

ระบบ Self-Service Kiosk (SOK) ก็ถูกออกแบบเพื่อลดคิว เพิ่มความคล่องตัว และเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อใช้ต่อยอดสู่ Personalized Marketing ที่ตรงใจยิ่งขึ้น

  1. Innovation & Experience Architecture

เมเจอร์เชื่อว่า ประสบการณ์ระดับพรีเมียมคือหัวใจของการเติบโตในยุคหลังโควิด บริษัทจึงลงทุนต่อเนื่องในเทคโนโลยีโรงภาพยนตร์ระดับโลก เช่น IMAX with Laser ครบ 10 สาขาทั่วประเทศ, 4DX (ระบบที่นั่งเคลื่อนไหวพร้อมเอฟเฟกต์สมจริง) 3 สาขา, ScreenX (จอภาพ 270 องศา) 2 สาขา และ Dolby Atmos ระบบเสียงรอบทิศทางขั้นสูง รวมถึงการสร้าง Segmented Cinema Concepts ที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม ได้แก่ KIDS Cinema สำหรับครอบครัว และ VIP Cinema ระดับ Ultra Premium พร้อม Butler ส่วนตัวและ Private Lounge

เทคโนโลยีภายในยังถูกออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น AI Chatbot, Smart Gate, และ Self-Order Kiosk ที่ช่วยลดต้นทุนแรงงานและเพิ่มความเร็วในการบริการ

แนวคิด “CINEPLEX” จึงไม่ใช่แค่โรงหนัง แต่คือ Lifestyle Destination ที่รวมร้านอาหาร พื้นที่ทำงาน และโซนกิจกรรม เช่น Krungsri Co-Life Space สร้าง “เวลาคุณภาพ” ให้ลูกค้าอยู่นานขึ้นและใช้จ่ายมากขึ้น

พื้นที่โรงภาพยนตร์ยังถูกใช้จัด Alternative Content Programming เช่น แฟนมีตติง งานสัมมนา เปิดตัวสินค้า หรืออิเวนต์องค์กร เพื่อสร้างรายได้ใหม่และ Community Engagement อย่างต่อเนื่อง

  1. ESG & Sustainable Business Operations

เมเจอร์ขับเคลื่อนแนวคิดความยั่งยืนผ่านโครงการ “Green Cinema” และ มูลนิธิ MAJOR CARE ที่ดำเนินการจริงจัง ไม่ใช่เพียงเพื่อภาพลักษณ์ ตั้งแต่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การลด Carbon Footprint การมอบทุนการศึกษา มอบห้องหนังให้โรงเรียนในต่างจังหวัด ไปจนถึงโครงการ “ปลูกผักกะละมัง” เพื่อส่งเสริมอาชีพในชุมชน ทั้งหมดนี้สะท้อน “คุณค่าที่จับต้องได้” และสอดคล้องกับค่านิยมของคนรุ่นใหม่ที่เลือกแบรนด์ที่มีจุดยืนจริง

Competitive Moat : ผสานขนาดกับคุณภาพ สร้างข้อได้เปรียบยั่งยืน

ด้วยเครือข่ายโรงภาพยนตร์กว่า 180 สาขา ครอบคลุมไทย ลาว และกัมพูชา เมเจอร์มีข้อได้เปรียบทั้งด้าน ขนาด (Scale) และ คุณภาพ (Consistency) ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว

นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับสตูดิโอระดับโลก ผู้สร้างภาพยนตร์ไทย และแบรนด์ระดับพรีเมียม ทำให้เมเจอร์ก้าวสู่การเป็น ผู้นำอุตสาหกรรมความบันเทิงในระดับภูมิภาค (Regional Entertainment Leader)

ทำไมโรงหนังยังคงชนะสตรีมมิง

ประสบการณ์ในโรงภาพยนตร์คือสิ่งที่สตรีมมิงไม่สามารถเลียนแบบได้ ผู้รับชมจะได้สัมผัสการ “รู้สึกไปพร้อมกัน” ทั้งโรง ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกหัวเราะ ร้องไห้ หรือระทึกพร้อมกับคนแปลกหน้า, ภาพและเสียงขนาดมหึมาที่บ้านไม่สามารถเทียบได้, การเป็น Occasion-Based Experience เช่น การไปเดตหรือใช้เวลาพักผ่อนนอกบ้าน, แรงกระตุ้นจาก FOMO Effect เมื่อภาพยนตร์มีรอบฉายจำกัด และภาพยนตร์ฟอรม์ยักษ์ที่มีงบการสร้างกว่า 100 ล้าน USD ที่หาชมในรูปแบบอื่นไม่ได้ เมเจอร์ใช้จุดแข็งนี้ต่อยอดด้วยการออกแบบประสบการณ์ให้ “คุ้มค่าทุกครั้งที่จ่าย” ทั้งในแง่คุณภาพและความพิเศษที่หาไม่ได้จากจอที่บ้าน

Brand Equity แห่งความสุขกว่า 30 ปี

กว่า 3 ทศวรรษ “Major Cineplex” ไม่ได้เติบโตจากชื่อเสียง แต่เติบโตจาก “ความสม่ำเสมอในการส่งมอบความสุข” ตั้งแต่ความสะอาดของโรงหนัง ความหอมของป๊อปคอร์น ไปจนถึงความสะดวกจากแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย
“Lifestyle Entertainment Leadership” จึงไม่ใช่แค่สโลแกน แต่คือความจริงที่ลูกค้าสัมผัสได้ทุกครั้งที่มาเยือน