‘โรบินฮู้ด’ เปิดตัว ‘Robinhood Coin’ ตั้งเป้าเพิ่มผู้ใช้ 30% ลดการขาดทุน

หลังจากกลุ่มยิบอินซอยเข้ามาบริหาร Robinhood ได้ไม่กี่ปี บริษัทเดินหน้าเปิดตัว “Robinhood Coin” เหรียญดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อสร้างระบบสมาชิกและความสัมพันธ์ระหว่างแพลตฟอร์มกับผู้ใช้

โดยแนวคิดของ Robinhood Coin จะใกล้เคียงกับระบบสะสมแต้ม แต่เพิ่มกลไกของบล็อกเชนและได้รับบันดาลใจจากกลไก Bitcoin อีกด้วย เพื่อทำให้ทุกธุรกรรมโปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยเหรียญนี้มีจำนวนจำกัด 21 ล้านเหรียญก่อนในช่วงแรก และจะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ ด้วยระบบ Halving หลังมีการถือครองครบครึ่งหนึ่ง

สำหรับการเข้าถึง Robinhood Coin นั้น ก่อนอื่นผู้ใช้ต้องสะสมแต้ม Purple Coin ผ่านการสั่งอาหาร 100 บาท เพื่อให้ได้ 10 Purple Point และเมื่อครบ 1,000 พอยต์ จะแลกเป็น Robinhood Coin ได้ 1,000 เหรียญ โดยที่จุดประสงค์ของระบบนี้ไม่ใช่การเก็งกำไร แต่เพื่อให้ผู้ใช้ที่มีเหรียญจำนวนมากสามารถใช้สิทธิ์โหวตกิจกรรม โปรโมชัน หรือแนวทางพัฒนาแอปฯ ได้

โดยแนวคิดเบื้องหลังของ Robinhood Coin นี้ คุณมรกต ยิบอินซอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ให้บริการแอปฯ Robinhood ที่มองว่าการแข่งขันในตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่แบบเดิม ซึ่งวัดกันด้วยส่วนลดและการเผาเงิน คือเกมที่ไม่มีใครชนะจริง ๆ การสร้าง “ชุมชนของผู้ใช้” จึงเป็นกลยุทธ์ใหม่ในการเพิ่มความเหนียวแน่นของลูกค้า โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนทางการตลาดมหาศาล

กล่าวอีกอย่างคือ Robinhood กำลังพยายามสร้างระบบความสัมพันธ์เชิงมีส่วนร่วม ที่ผู้ใช้รู้สึกว่ามีบทบาทมากกว่าการเป็นลูกค้า ซึ่งต่างจากแพลตฟอร์มรายใหญ่ที่เน้นการแข่งขันด้วยส่วนลดหรือค่าบริการต่ำ

หากลองคิดเลขเร็ว ๆ กว่าจะได้ 1,000 Robinhood Coin ผู้ใช้ก็ต้องสั่งอาหารมากกว่า 10,000 บาท แปลว่าในเชิงธุรกิจ กลยุทธ์นี้สะท้อนการวางตำแหน่งของ Robinhood ให้เป็นแพลตฟอร์มของคนมีกำลังซื้อ สอดคล้องกับฐานลูกค้าปัจจุบันที่มีกว่า 4 แสนรายต่อเดือน ส่วนใหญ่มีอายุ 30–50 ปี มีกำลังซื้อสูง และมาจากฐานผู้ใช้เดิมของ SCB ซึ่งไม่จำเป็นต้องดึงดูดด้วยราคาถูก แต่ต้องการประสบการณ์และสิทธิพิเศษแทน

หากระบบนี้ประสบความสำเร็จ Robinhood จะได้ประโยชน์สองทาง อย่างแรกคือ การเพิ่มยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนผ่านแรงจูงใจในการสะสมแต้ม สองคือ การสร้างคอมมูนิตี้ผู้ใช้ที่แบรนด์สามารถสื่อสารและทำกิจกรรมทางการตลาดได้โดยตรง โดยไม่ต้องพึ่งแคมเปญลดราคา

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ก็มีความท้าทายไม่น้อย เพราะแม้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ของแพลตฟอร์มที่แตกต่างจากคู่แข่ง แต่ก็ยังต้องพิสูจน์ว่า ความมีส่วนร่วมแบบนี้เพียงพอที่จะรักษาฐานผู้ใช้และดึงคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z เข้ามาได้จริงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดหวังว่า ภายในปีหน้า แอปฯ จะมีผู้ใช้ใหม่เพิ่มขึ้น 20–30% และเริ่มเห็นผลเชิงรายได้ตั้งแต่ต้นปีหน้า พร้อมตั้งเป้ากลับมาทำกำไรหลังลดการขาดทุนลงอย่างต่อเนื่อง