ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เซ็นทรัล พาร์ค อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ TOPS

ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เซ็นทรัล พาร์ค อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ TOPS

วันนี้ 4 กันยายน 2568 เป็นวันที่ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เซ็นทรัล พาร์ค เปิดประตูต้อนรับกลุ่มผู้บริโภคในฐานะแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ ที่ไม่ได้มาเพียงซูเปอร์มาร์เก็ต แต่คือการปฏิวัติวงการฟู้ดรีเทล ด้วยคอนเซ็ปต์ “Food Fashion Department Store” การรวมตัวอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างศิลปะแห่งแฟชั่นกับอาหารระดับเวิลด์คลาส เข้าไว้ด้วยกันอย่างไม่เคยมีมาก่อนในตลาดประเทศไทย

การก้าวสู่แนวคิดนี้ สะท้อนภาพชัดเจนว่า ท็อปส์กำลังวาง Positioning ให้ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ แตกต่างและโดดเด่นเหนือกว่า Format อื่น ๆ ของ TOPS รวมถึงเครือ The Mall ที่เน้นทำเลและจำนวนสาขาเป็นหลัก แต่ยังมีช่องว่างเรื่องประสบการณ์ที่ครบเครื่องและพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เซ็นทรัล พาร์ค ตั้งใจเติมเต็มช่องว่างนั้นอย่างลงตัวและยั่งยืน

สิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน คือ การผนวก “สินค้าอาหาร” เข้ากับ “แฟชั่น” ผ่านการออกแบบพื้นที่และการเล่าเรื่องสินค้าในรูปแบบ Room Concept ที่แห่งนี้มี 16 Wonders หรือ 16 โซนอาหารไฮไลต์พิเศษ ซึ่งแต่ละโซนสะท้อน Mood & Tone ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโลกแฟชั่น เปลี่ยนพื้นที่ช้อปปิ้งที่เคยเป็นเพียงซูเปอร์มาร์เก็ตให้กลายเป็น “รันเวย์อาหาร” ที่ลูกค้ารับรู้ถึงความพรีเมียมและความแปลกใหม่ตั้งแต่ก้าวเข้าไปจนถึงขั้นตอนการชำระเงิน

การวางแนวคิด 16 Wonders ของท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เซ็นทรัล พาร์ค มีโอกาสที่ทั้งช่วยเพิ่มยอดขายจริง และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้กับแบรนด์ควบคู่กันไป

ในแง่ของการเพิ่มยอดขาย โมเดลนี้ออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่แตกต่างและน่าจดจำด้วยการแบ่งพื้นที่เป็น 16 โซนไฮไลต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

แต่ละโซนโฟกัสสินค้าพรีเมียมตามฤดูกาลและวัตถุดิบหายาก ส่งผลให้ลูกค้าเกิดการ “มีส่วนร่วม” กับสินค้าอย่างลึกซึ้งและรู้สึกเหมือนเดินช้อปในรันเวย์แฟชั่น

และสิ่งนี้ไม่เพียงแค่กระตุ้นความอยากซื้อ แต่ยังส่งเสริมการตัดสินใจซื้อที่มีมูลค่าสูงขึ้นและสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว

ในขณะเดียวกัน โมเดล 16 Wonders ยังเป็นเครื่องมือสร้างภาพลักษณ์และความแตกต่างที่ชัดเจนให้กับท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ในฐานะ Food Fashion Department Store ที่ไม่เหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป เสมือนเป็นการสร้าง Storytelling ผ่านโซนสินค้าที่มีกิมมิกและดีไซน์ตอบโจทย์เทรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ช่วยเสริมสร้างการรับรู้แบรนด์ให้ทรงพลังและทันสมัย

ทั้งนี้ การสร้างภาพลักษณ์ผ่านโมเดลนี้ ยังช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและใส่ใจประสบการณ์การช้อปปิ้ง เพื่อนำไปสู่การเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่และกลุ่มเป้าหมายที่เป็น Millennials หรือ Gen Z ที่มองหาความพรีเมียมและประสบการณ์ใหม่ ๆ มากกว่าการซื้อสินค้าธรรมดา

นอกจากนี้ การคัดสรรสินค้าเน้นไปที่ In-season & Exclusive Assortment หรือการเลือกสินค้าและวัตถุดิบพรีเมียมตามฤดูกาลและพิเศษหายากจากทั่วโลก กว่า 32,000 รายการ นับเป็นความหลากหลายที่แข็งแกร่งมากในตลาดไทย ไล่ตั้งแต่โซน Ham & Brie กับชีสและเนื้อคุณภาพสูงสุดจากยุโรป, โซน Fish & Monger ที่มีอาหารทะเลสดจากทั่วโลกพร้อมให้บริการปรุงทันที, TOPS WINE CELLAR ที่นำเสนอไวน์และสุราหายากกว่า 1,400 รายการในบรรยากาศสุดหรู ไปจนถึงโซน Snacker ที่รวบรวมขนมยอดนิยมจากทั่วโลก

สิ่งที่ทาง TOPS พยายามสร้างความแตกต่างในศึกรีเทล คือ TOPS ต้องการปฏิวัติวงการ Shopping ครั้งประวัติศาสตร์ บนขุดขายใหม่ ทั้งความเป็น Food Fashion Department Store สะท้อนในประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เน้น Ultimate Shopping Experience

ทั้ง Dining & Specialty Brands ที่รวมเอาร้านอาหารมิชลินไกด์ 4 ภาคของไทย เช่น อองตองข้าวซอย และตำกระเทย มาให้ลูกค้าสัมผัสพรีเมียมไลฟ์สไตล์การกินอาหาร และโซนเบเกอรี่ The Baker Boulangerie & Patisserie ที่สร้างสรรค์เบเกอรี่อาร์ติซานสดใหม่อย่างพิถีพิถัน อีกทั้งยังมีพื้นที่ Champagne Bar สุดเก๋ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์หรูหราขั้นสุด

หัวใจสำคัญอีกด้านที่ต้องจับตามอง คือ Service Excellence & Personalization ที่ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ได้ยกระดับมาตรฐานการบริการสู่ความหรูหราขั้นสุด ด้วยบริการ Personal Shopper ที่ให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์และคัดสรรสินค้าเฉพาะบุคคล ซึ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่การซื้อสินค้า แต่เป็นประสบการณ์การใช้ชีวิตที่แตกต่างและเหนือระดับ

นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล ยังชี้ให้เห็นว่า คอนเซ็ปต์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพื่อตอบโจทย์ตลาด แต่เป็นวิสัยทัศน์ที่สะท้อนการปฏิวัติวัฒนธรรมฟู้ดรีเทล โดยผสมผสานแฟชั่น วัฒนธรรม และศิลปะของอาหารเข้าด้วยกัน เพื่อสร้าง Urban Lifestyle แบบใหม่ที่ตอบสนองกลุ่มคนรุ่นใหม่ ครอบครัว และนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียมในทำเลเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพ

และก็ต้องยอมรับว่า การวาง Positioning ชัดเจนสุด ๆ ของท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เซ็นทรัล พาร์ค จึงมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ จากซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปในเมืองไทย

เป็นโมเดลที่ผสมผสานความพรีเมียมและแฟชั่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว และคาดหวังว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ขยายตลาดฟู้ดรีเทลในไทยให้กว้างและลึกขึ้น

โดยสิ่งนี้ไม่ต่างจากการพัฒนา “แฟลกชิปสโตร์” ที่แบรนด์ระดับโลกหลายแบรนด์ใช้เป็นเรือนธงในการสร้างภาพลักษณ์และจุดยืน ซึ่งท็อปส์กำลังใช้โอกาสนี้บ่งบอกถึงพลังของแบรนด์ที่ไม่หยุดนิ่งและพร้อมนำประสบการณ์ใหม่ ๆ มามอบให้ลูกค้า

ดังนั้น โมเดลนี้จึงนับเป็นกลยุทธ์แบบบูรณาการที่ช่วยตอบโจทย์ทั้งด้านการตลาดและการขาย พร้อมสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดอาหารและฟู้ดรีเทลที่เต็มไปด้วยความท้าทายในยุคปัจจุบัน

โดยรวมแล้ว การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ TOPS คือการสะท้อนภาพใหม่แห่งแวดวงฟู้ดรีเทล ที่เน้นมากกว่าสินค้า แต่คือ “ประสบการณ์” ที่จะตราตรึงในใจลูกค้า สร้างความต่างด้วยคุณภาพสินค้า บริการครบวงจร และการออกแบบที่เล่าเรื่องราวอย่างมีศิลปะ

จึงไม่น่าแปลกใจที่ “ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เซ็นทรัล พาร์ค” จะถูกจับตามองอย่างมากว่าเป็นทิศทางใหม่ของตลาดอย่างแท้จริง