เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้สูงอายุชาวไทย มูลนิธิคณะนักบุญคามิลโลฯ เร่งสร้างบ้านผู้สูงอายุราชสีมา หวังตอบรับเทรนด์สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ซึ่งสร้างเสร็จแล้ว 80% พร้อมให้เข้าอยู่ในเดือนมกราคมปีหน้า
วันนี้เมืองไทยที่ถูกจัดให้เป็นอันดับ 3 ของประเทศที่มีผู้สูงอายุมากที่สุดในโลก โดยคาดว่าในอีก 24 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 17 ล้านคน คิดเป็น 25% ของประชากรทั้งหมด
และเพื่อสร้างเข้าใจให้ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับประเด็นปัญหาผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น มูลนิธิคณะนักบุญคามิลโลฯ ประกาศความคืบหน้าของโครงการบ้านผู้สูงอายุราชสีมา
และยังร่วมกับองค์กรภาคเอกชน อาทิ หอการค้าไทย-อิตาลี หอการค้าไทย-ไอร์แลนด์ จัดงานเสวนา “การส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีและสร้างเสริมสังคมที่ยั่งยืนแก่ผู้สูงอายุในประเทศไทย” โดยมีบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิมากมายเข้าร่วมบรรยายและบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ และปัญหาผู้สูงอายุในประเทศไทย
เริ่มจากคำกล่าวของ นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน์ เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า “ประเทศไทยได้กำหนดนิยามผู้สูงอายุไว้ในพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 ว่าหมายถึงผู้ที่มีอายุเกินกว่า 60 ปี ขึ้นไป โดยนิยามดังกล่าว ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาแล้วหลายปี
ปัจจุบันผู้สูงอายุในประเทศไทยมีมากกว่า 15% หรือคิดเป็นเกือบ 10 ล้านคน แบ่งออกเป็น ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ราว 90% ยังพึ่งพาตนเองได้, 10% และที่ต้องอยู่ในภาวะพึ่งพิง, 8.4%, ต้องพึ่งพิงบางส่วน หรือเรียกว่าเป็นกลุ่ม “ติดบ้าน” และ 1.6% ที่ต้องพึ่งพิงทั้งหมด หรือเรียกว่าเป็นกลุ่ม “ติดเตียง” นับจำนวนกลุ่มติดบ้านราว 8.4 แสนคน ติดเตียงราว 1.6 แสนคน”
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีการดูแลผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบพอ โดยดำเนินการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ดังนี้
ภาครัฐ
(1) สวัสดิการรักษาพยาบาลใน 2 ระบบใหญ่ คือ
- ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครอบคลุมประชากรราว 48 ล้านคน
- ระบบสวัสดิการข้าราชการ ซึ่งครอบคลุมข้าราชการบำนาญ และบิดามารดาข้าราชการ ครอบคลุมประชากรราว 10 ล้านคน
(2) สิทธิประโยชน์ต่างๆ รวม 13 ประเภท ตาม พ.ร.บ. ผู้สูงอายุ 2546 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ซึ่งเริ่มจากการจ่ายแก่ผู้ยากไร้ ปัจจุบันจ่ายให้แก่ทุกคน ตามระบบ “ขั้นบันได” เริ่มต้นจากเดินละ 600 บาท เงินนี้เปรียบเสมือนเงินบำนาญพื้นฐาน ปัจจุบันรัฐบาลใช้งบประมาณเพื่อการนี้ปีละกว่า 6 หมื่นล้านบาท
(3) โครงการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2559 ด้วยงบประมาณเริ่มต้น 600 ล้านบาท
(4) อื่น ๆ เช่น กองทุนผู้สูงอายุ กองทุนผู้พิการ สถานสงเคราะห์คนชรา การปรับสภาพแวดล้อม เช่น ห้องน้ำ ทางลาด แก่ผู้สูงอายุ และผู้พิการ
ภาคเอกชน ได้แก่ การดำเนินการของสมาคม มูลนิธิ ชมรม และองค์กรเอกชน สาธารณประโยชน์ต่าง ๆ รวมทั้งมูลนิธิคณะนักบุญคามิลโลแห่งประเทศไทย ซึ่งดำเนินการมายาวนานในประเทศไทย
และนอกจากงานสัมมนาแล้ว มูลนิธิคณะนักบุญคามิลโลฯ ยังเตรียมรับมือแนวโน้มผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้ โดยการเปิดบ้านผู้สูงอายุราชสีมา ซึ่งจะพร้อมรับผู้สูงอายุรุ่นแรกในเดือนมกราคมปีหน้า (2560)