กระบี่ เมืองสวรรค์แห่งอันดามัน กับ “ต้นแบบ” การท่องเที่ยวยั่งยืน

กระบี่ เมืองสวรรค์แห่งอันดามัน กับ “ต้นแบบ” การท่องเที่ยวยั่งยืน

จังหวัดกระบี่ ไม่เคยหายไปจากแผนที่การท่องเที่ยวของโลก ด้วยหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใส วิถีชุมชนที่อบอุ่น และอาหารท้องถิ่นรสเลิศ กระบี่จึงกลายเป็นจุดหมายในฝันของนักเดินทางทั่วโลก และยังเป็นโลเคชันในดวงใจของอุตสาหกรรมภาพยนตร์นานาชาติ

อย่างไรก็ตาม ในวันที่โลกกำลังเผชิญความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และความยั่งยืน จังหวัดกระบี่ จึงไม่อาจพอใจกับการเป็นเพียง “เมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม” อีกต่อไป

ด้วยเหตุนี้ Krabi Prototype จึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ของจังหวัดกระบี่ ให้เป็น “เมืองต้นแบบของการท่องเที่ยวยั่งยืน” ที่ไม่เพียงแต่ยังรักษาความงามไว้ได้ แต่ยังสร้างคุณค่าให้แก่ธรรมชาติ คนในท้องถิ่น และผู้ประกอบการในระยะยาว ซึ่งใครที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวกิจกรรม Amazing Krabi Green Guide Fest 2025 ณ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ จะพบว่า จังหวัดกระบี่ ไม่เคยหายไปจากแผนที่การท่องเที่ยวของโลก ด้วยหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใส วิถีชุมชนที่อบอุ่น และอาหารท้องถิ่นรสเลิศ แต่ภาพลักษณ์ใหม่ของจังหวัดกระบี่ ได้กลายเป็นจุดหมายในฝันของนักเดินทางทั่วโลกในมิติการท่องเที่ยวยั่งยืน นั่นเอง

Krabi Prototype แนวคิดสู่การลงมือทำจริง

ต้องยอมรับว่า Krabi Prototype ไม่ใช่แค่แนวคิดหรือทฤษฎีการทำงาน แต่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน สามารถวัดผลลัพธ์จากแนวคิดได้ โดยภาพลักษณ์ใหม่ของจังหวัดกระบี่ จะถูกจดจำว่า “กระบี่” จะไม่ได้เป็นแค่จุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่กำลังกลายเป็นเมืองต้นแบบของการท่องเที่ยว ที่รักษาความงดงามของธรรมชาติ วิถีชีวิตเรียบง่าย และความร่วมมือของคนในท้องถิ่นไว้ได้อย่างกลมกลืน

หมายความว่า Krabi Prototype จึงเป็นการยกระดับคุณภาพ สินค้า บริการ และผู้ประกอบการสู่ความยั่งยืน จากการบูรณาการกระบวนการทำงานด้านต่าง ๆ เพื่อผลักดันสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้มีความพร้อมกับเทรนด์การท่องเที่ยวโลกปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

1. เพื่อสร้างแนวทางการพัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในพื้นที่ต้นแบบ (Krabi Prototype)

2. เพื่อเป็นการส่งเสริมขีดความสามารถด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ให้แก่ผู้ประกอบการให้มีความพร้อมเข้าสู่มาตรฐานความยั่งยืนในระดับประเทศและระดับสากล

3. เพื่อสร้างการรับรู้ให้จังหวัดกระบี่เป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวยั่งยืน

แล้วถามว่า ทำไมต้องเลือกจังหวัดกระบี่ ?

นั่นเพราะว่า จังหวัดกระบี่ เป็นพื้นที่ศักยภาพที่มีความเด่นชัดในเรื่องของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดดเด่นด้านความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์ อยู่ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันตามพื้นที่สินค้าเชิงยุทธศาสตร์ 2568 และในปี พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา สถานที่ท่องเที่ยวของกระบี่อย่าง “น้ำพุร้อนเค็ม คลองท่อม” เป็น 1 ในเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (คลองท่อมเมืองสุขภาพ) ของจังหวัดกระบี่ ได้รับการรับรองเกณฑ์ยั่งยืนในระดับสากล Green Destinations Top 100 Stories 2023 (ประเภท Environment & Climate) จากการใช้หลักการพัฒนาตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของโลก (GSTC) เป็นการร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชน ที่ร่วมสร้างกลไกในการปกป้องฟื้นฟูและรักษาทรัพยากรให้ยั่งยืนจนประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้แล้ว จังหวัดกระบี่ ยังมีสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานความยั่งยืนของ ททท. ได้แก่ รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) จำนวน 16 ราย ผ่านเกณฑ์โครงการยกระดับผู้ประกอบการสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน (STAR) จำนวน 117 ราย และเป็นผู้ประกอบการในโครงการ CF Hotels จำนวน 65 ราย ซึ่งคาดการณ์ว่าโครงการนี้จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 508 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี

อีกทั้ง จังหวัดกระบี่ ยังมีเป้าหมายทางการท่องเที่ยวของจังหวัด ด้วยยุทธศาสตร์ “Krabi Goes Green” ที่มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพและยั่งยืน พร้อมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคและนานาชาติ ส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเด่นชัด ดังนั้น จังหวัดกระบี่จึงได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่นำร่องในโครงการการพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าในพื้นที่ต้นแบบ (Sustainable Product Prototype)

นอกจากนี้ เมื่อมองถึงความพร้อมของจังหวัดกระบี่ คนส่วนใหญ่ที่เคยแวะมาท่องเที่ยว จะพบว่า นอกเหนือจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ ที่มีศักยภาพความพร้อมในการก้าวสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนแล้ว ขณะนี้ ทั้งชุมชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ต่างก็ตื่นตัวและมีความพร้อมเช่นกัน

โดยจังหวัดกระบี่ ถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและมีความพร้อมในการผลักดันด้านการท่องเที่ยวอันจะเห็นได้จากการติด TOP 10 จังหวัดที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุดในปี 2567 (ตั้งแต่มกราคม – ธันวาคม 2567) ซึ่งจังหวัดกระบี่จัดอยู่ในอันดับที่ 6 โดยสร้างรายได้หมุนเวียนทั้งสิ้น 91,042.62 ล้านบาท (ข้อมูลจากกองเศรษฐกิจท่องเที่ยวและกีฬา) และยังเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล อาทิ อ่าวมาหยา เกาะพีพี ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมแก่การเดินทาง อาทิ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร มีระบบคมนาคมที่หลากหลาย ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ มีเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่บินสู่กระบี่รวมเกือบ 1,000 เที่ยวบินต่อเดือน นอกจากนี้ จังหวัดกระบี่มีจำนวนที่พักมากกว่า 600 แห่ง และห้องพักรวมมากกว่า 25,000 ห้อง ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว โดยมีห้องพักหลากหลายรูปแบบตอบโจทย์ตามไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวแต่ละคน

จากแผนงานที่คิดไว้ มาสู่ Action Plan ที่ทุกฝ่ายต้องลงมือปฏิบัติ นำมาซึ่งการขยายผลให้เกิดผลลัพธ์ได้จริง ดังนั้น ทุกฝ่ายควรเริ่มที่การกางแผนการดำเนินงาน โดยต้องศึกษาการพัฒนาขีดความสามารถและสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการท่องเที่ยวยั่งยืน และการพัฒนาสินค้ายั่งยืน ให้แก่พันธมิตร และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ให้พร้อมที่สุด ก่อนการลงมือปฏิบัติจะเกิดขึ้นจริง

จากนั้น ฝ่ายรับผิดชอบในมิติต่าง ๆ อาทิ การผลักดันผู้ประกอบการ ชุมชนท่องเที่ยว เจ้าของแหล่งท่องเที่ยว เข้าสู่การรับรองตามเกณฑ์ความยั่งยืน ททท. (TAT Certified) ได้แก่ Sustainable Tourism Acceleration Rating (STGs STAR), CF-Hotels และรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards : TTA) รวมถึงการผลักดันให้ผู้ประกอบการเข้าสู่มาตรฐานความยั่งยืนระดับสากล ได้แก่ Green Destinations Top 100 Stories และ Tourism Cares ก็ต้องรวบรวมผู้ประกอบการให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เช่นกัน

และส่วนสำคัญที่สุด คือ การจัดกิจกรรมรูปแบบ Green Event ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ภายใต้แนวคิด ปรับ–ลด-ชดเชย นำไปสู่ต้นแบบของการจัดกิจกรรม CARBON NEUTRAL EVENT เพื่อสร้างกระแสการเดินทางให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ให้เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไปแล้ว

แน่นอนว่า ภายในงานมีการบริหารจัดการขยะนำส่งสู่ปลายทางอย่างถูกต้อง ผลที่ได้คือ ทำให้การจัดงานในครั้งนี้ไม่มีขยะสู่หลุมฝังกลบ คาร์บอนฟุตพรินต์ที่เกิดจากขยะภายในงานเป็น 0% และมีการชดเชยคาร์บอนเครดิตจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 579 tCO2e

จากเป้าหมายที่ชัดเจน สู่ความมุ่งมั่นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ได้ผลักดันให้ จังหวัดกระบี่ ได้ก้าวสู่ภาพลักษณ์ของเมืองสีเขียวที่เด่นชัดยิ่งขึ้น ด้วยพลังความพร้อมของพื้นที่และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ ชุมชน หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้โครงการ Krabi Prototype กลายเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวคุณภาพในมิติที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้งระบบนิเวศ เศรษฐกิจ และชุมชน

ภาพลักษณ์ใหม่ของจังหวัดกระบี่ ในวันนี้ ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางที่งดงาม หากยังสะท้อนถึงแนวคิดการท่องเที่ยวที่สมดุลระหว่างคนกับธรรมชาติ ภายใต้การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้จับต้องได้ ตอบโจทย์การท่องเที่ยวของโลกยุคใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และพร้อมต่อยอดสู่การเป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ ในการเดินหน้าสู่ “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” อย่างแท้จริงต่อไป

เขียนและเรียบเรียง : กองบรรณาธิการ

ติดตาม Business+ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+  : https://lin.ee/pbIHCuS

IG  : https://www.instagram.com/businessplus.th/

Youtube : https://www.youtube.com/@thebusinessplus7829

#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus #Business