“พร้อมลุย!! ….Go For It” ดีแทคชูการปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้านำ พร้อมพัฒนาโครงข่ายที่มีอยู่ เชื่อมั่นคลื่นในมือเพียงพอแก่การให้บริการ 5G แน่นอน

ดีแทค ประกาศทิศทงธุรกิจหลังประมูล 5G โดยจะเน้นที่การปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้านำหน้า ร่วมกับการพัฒนาโครงข่ายที่มีอยู่ และพร้อมให้บริการ 5G ไตรมาส 2 ปีนี้ เน้นย้ำคลื่นในมือเพียงพอแก่การให้บริการแน่นอน

พร้อมลุย พร้อมลุย พร้อมลุย!! คำปลุกใจแรกจาก คุณชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ในงานแถลงข่าว “ดีแทคพร้อมลุยต่อ . . . Go For It” หลังจากเพิ่งจบการประมูล 5G  ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านท่ามกลางการตั้งข้อสงสัยว่า ดีแทค จะมีขีดความสามารถในแข่งขันสู้กับหลายใหญ่อื่นๆไหวไหม เพราะจำนวนคลื่นที่ได้ไปน้อยเหลือเกินเมื่อเปรียบเทียบกับเจ้าตลาดหลายอื่นๆ

นอกจากนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ ดีแทค เปิดตัว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คนใหม่ คุณชารัด เมห์โรทรา  อย่างเป็นทางการหลังรับตำแหน่งต่อจาก อเล็กซานดรา ไรช์ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมภาระกิจใหญ่นำบริษัทฝ่ามรสุมแห่งการเปลี่ยนของทั้งจากโลกภายนอกและภายในประเทศ

นายชารัด เปิดเผยว่า การที่ ดีแทค เลือกประมูลคลื่น 26 GHz  2 ใบอนุญาต(จำนวน 200 MHz) เพราะว่า ดีแทค ขาดคลื่นคำถี่ในระดับ High Bandwidth ที่มีอยู่ในมือตอนนี้เป็น Low Bandwidth กับ Middle Bandwidth เมื่อได้ High Bandwidth อย่าง คลื่น 26 GHz มา ก็ทำให้ ดีแทค มี Portfolio ของคลื่นความถี่ในการให้บริการครบถ้วนทั้ง Low Bandwidth (คลื่น 700 MHz , 900 MHz), Middle Bandwidth(คลื่น 1,800 MHz , 2,100 MHz, 2,300 MHz) , High Bandwidth (คลื่น 26 GHz) พร้อม ยืนยันว่าคลื่นที่มืออยู่ในมือในเพียงพอแล้วสำหรับการให้บริการ โครงข่าย High Speed Data Network

โดย กลยุทธ์ของ ดีแทค ในปีนี้เน้นไปที่ การปรับปรุงยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าเพื่อให้เกิดความพึงพอใจเพิ่มขึ้น ร่วมกับการพัฒนาเครือข่ายและสถานีบริการที่มีอยู่เดิมและเพิ่มเติมสถานีฐานให้บริการ 4G คลื่น 2300 MHz จาก 17,000 ให้ถึง 20,000 สถานีในปลายปี 2563  พร้อมเร่งขยาย Massive MIMO เทคโนโลยีความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ใช้งานหนาแน่นทั่วประเทศ เพื่อยกระดับประสบการณ์รับส่งข้อมูลดีกว่าเดิม และเพิ่มการครอบคลุมพื้นที่ใช้งานยิ่งขึ้น

โดยนายชารัด ปิดท้ายว่า ดีแทคจะเริ่มเปิดให้บริการ 5G  ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ แต่เนื่องจาก Ecosystem ของ 5G ที่ยังไม่สมบูรณ์อาจต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่ามันจะสามารถแสดงขีดความสามารถที่เหมาะสมได้