The Business Plus บิสิเนสพลัส
จากอดีตแบรนด์ตำนานระดับโลกที่ติดท็อปบนสุดของตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ยาวนานนับ 10 ปี ซึ่งภายหลังไม่อาจทัดทานการเข้ามาตีตลาดของโทรศัพท์สมาร์ตโฟนได้ทำให้ชื่อ Nokia เงียบไปจากตลาดเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา
นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้บริหาร HMD Global ที่เข้ามาพร้อมกับภารกิจดัน “สมาร์ตโฟนตระกูลแอนดรอยด์” ของ Nokia ให้ติดลมบนและทวงบัลลังก์อันดับ 1 กลับมาให้ได้
Nokia แบรนด์มือถือในตำนาน เมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา เชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับแบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ และแรก ๆ ที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย รวมทั้งเป็นโทรศัพท์เครื่องแรกของคนไทยเกือบทั้งประเทศ จนได้รับฉายาราชาโทรศัพท์มือถือ จนกระทั่งมีคู่แข่งเข้ามาตีตลาด ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างรุนแรง พร้อม ๆ กับการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่อย่างสมาร์ตโฟน จนต้องขายกิจการในส่วนของมือถือและบริการให้ “ไมโครซอฟท์” ในปลายปี 2013
ย้อนรอยอดีตราชามือถือ Nokia
ยุคทองของ Nokia เริ่มต้นขึ้นเมื่อ CEO อย่าง Jorma Ollila (ปัจจุบันเป็นประธานบอร์ดของ Royal Dutch Shell) ตัดสินใจยุติธุรกิจเดิมของ Nokia ทั้งหมด และหันมาทุ่มกับธุรกิจ “โทรศัพท์มือถือ” เพียงอย่างเดียว ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะในช่วงทศวรรษที่ 80 นั้น Nokia ได้กลายเป็นแกนหลักในการพัฒนามาตรฐาน GSM มาก่อน บวกกับกระแสโทรศัพท์มือถือเริ่มมาแรง ก็ยิ่งผลักให้ Nokia กลายเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์อันดับหนึ่งของโลกได้สำเร็จในปี 1998 และคงความรุ่งเรืองถึงขีดสุดนานนับ 14 ปี
แต่ความรุ่งเรืองของ Nokia ก็ต้องสิ้นสุดลง เมื่อเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนเข้าเปลี่ยนโฉมระบบการสื่อสารของโลก จนท้ายที่สุดต้องขายกิจการในส่วนของมือถือและบริการให้ “ไมโครซอฟท์” เมื่อปลายปี 2013
New Chapter ประวัติศาตร์หน้าใหม่ของ Nokia
ผ่านมา 3 ปี ชื่อของ Nokia แทบไม่อยู่ในความทรงจำของเด็กใหม่ที่เกิดมาก็รู้จักสมาร์ตโฟนตระกูล iOS อย่าง iPhone และตระกูล Android อย่าง Sony, Samsung, Huawei ฯลฯ ที่ขยันออกผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ ป้อนตลาดกันอย่างคึกคัก แม้ว่ากะแสของ Nokiaจะเงียบ ๆ ไป แต่เมื่อสังเกตดี ๆ Nokia ก็ไม่เคยหายไปจากตลาด
ล่าสุด แบรนด์ “Nokia” ได้ฤกษ์รุกตลาดอีกครั้ง ภายใต้การดูแลของบริษัทสตาร์ตอัพสัญชาติฟินแลนด์ “HMD Global” ผู้ได้รับลิขสิทธิ์การออกแบบและจัดจำหน่ายมือถือ Nokia ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของทีมงานชุดแรกของ Nokia ที่มีความตั้งใจผลักดันให้แบรนด์ Nokia ให้กลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง บนระบบปฏิบัติการ Android
ทันทีได้ไลเซนท์ “HMD Global” ก็สร้างกระแสฮือฮากับการนำฟีเจอร์โฟนในตำนาน อย่าง Nokia 3310 กลับมาทำตลาดอีกครั้งเป็นการประกาศว่า Nokia กำลังเคลื่อนไหวในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ เป็กกา รันทาลา ประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดฝ่ายการตลาด HMD Global เปิดเผยว่า HMD Global เป็นบริษัทที่ก่อตั้งราว ๆ 8 เดือนที่ผ่านมา เพื่อส่งสมาร์ตโฟน Nokia 6 กลับเข้าสู่ตลาดสมาร์ตโฟนโดยได้เปิดตัวในประเทศจีนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับตอบรับที่ดีมากสามารถจำหน่ายหมดภายในเวลาเพียง 24 วินาที ผ่านช่องทาง E-Commerce และมียอดพรีออร์เดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ก่อนจะเปิดตัว Nokia 3, 5, 6 อย่างเป็นทางการ ในงาน Mobile World Congress 2017 ที่กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในเดือนถัดมา และเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยในช่วงแรกที่เข้ามาทำตลาดนี้ บริษัทได้วางจำหน่ายผ่านโอเปอร์เรเตอร์และพาร์ตเนอร์ที่เป็นร้านค้าปลีกไอที
แฟนเลิฟ & มิลเลนเนียมเป้าหมายใหญ่ของ Nokia
จากความสำคัญอย่างสูงในประเทศจีนทำให้ Nokia เห็นว่าผลตอบรับส่วนใหญ่มาจากกลุ่มมิลเลนเนียม ที่ถือเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของโลก ชี้ให้เห็นว่าคนเหล่านี้รู้จักและยังรักในแบรนด์เป็นทุนเดิม ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายและทนทานซึ่งเป็นจุดขายของแบรนด์ที่คู่แข่งยังไม่สามารถเทียบได้ ด้วยนวัตกรรมการออกแบบโดยการใช้ซิงเกอร์บล็อกอลูมิเนียมในโนเกีย 3, 5 และ 6 พร้อมกับวางโพซิชันนิ่งตัวเองไว้ที่สมาร์ตโฟนราคาระดับกลาง โดยจะไม่เน้นการแข่งขันที่สเปกเครื่องสูง ราคาแพง เพื่อเข้าถึงการใช้งานในผู้บริโภคทุกกลุ่มภายใต้คอนเซ็ปต์ สมาร์ตโฟนสำหรับทุกคน โดยมี Nokia 6 เป็นรุ่นแฟลกชิปในประเทศไทย
“สิ่งที่เราโฟกัสมากที่สุด คือดีไซน์การออกแบบเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ตามไลฟ์สไตล์ที่ทุกอย่างเชื่อมต่อผ่านออนไลน์ ดังนั้น สเต็ปต่อไปในแง่ของการตลาด เราต้องการสร้างสตอรี่ขึ้นมาเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนอย่างใกล้ชิด เรามองหาว่าลูกค้าต้องการอะไรในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราพยายามที่จะเล่าเรื่องและซัพพอร์ตความต้องการของลูกค้าผ่านโพรดักต์เหล่านี้
Unite For… Globle Campaign เจาะลึกถึงรากหญ้า
ทั้งนี้ การสื่อสารการตลาดของ Nokia จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก ภายใต้แคมเปญ Unite For… โดยการเชื่อมโยงกลุ่มคนเล็ก ๆ ในแต่ละประเทศทั่วโลก ภายใต้กิจกรรมที่น่าสนใจและหลากหลายร่วมกัน โดยในประเทศไทยจะมีการเปิดตัวแคมเปญดังกล่าวภายในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้
“Nokia ยังยืนยันว่าเราคือแบรนด์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ และเราพยายามผลักดันให้แบรนด์ Nokia เข้าไปอยู่ในใจของทุก ๆ คนโดยเน้นย้ำในจุดเด่นของเรา เพื่อเข้าถึงทุกเจเนอเรชันแต่การที่จะเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภคได้ต้องมี 2 ส่วนคือ หนึ่งผลิตภัณฑ์ต้องตอบโจทย์ลูกค้า สองกระแสตอบรับอดีตถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมาเรามียอดการตอบรับที่ดีจึงประเมินได้ว่าตัวแบรนด์มีโอกาสที่จะเข้าไปอยู่ในใจกลุ่มคนเหล่านั้นได้มากที่สุด
ส่วนเป้าหมายในประเทศไทย เราคาดหวังที่กลับมาเป็นท็อปแบรนด์ในประเทศไทย และก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนให้ได้ และเราเชื่อว่าแบรนด์ Nokia ไม่เคยหายไปใจจากคนไทย” เป็กกา ปิดท้ายอย่างน่าสนใจ
