MBA Chula ในยุคของชาติชาย พยุหนาวีชัย

เชื่อว่าในประเทศไทยโดยเฉพาะคนที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเงินคงไม่มีใครไม่รู้จัก ชาติชาย พยุหนาวีชัย เจ้าของเก้าอี้ผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนที่ 16 แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่านอกจากตำแหน่งระดับสูงในธนาคารออมสินแล้ว เขาคนนี้ยังขึ้นแท่นดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนิสิตเก่าเอ็มบีเอ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หากพูดถึงหลักสูตรของการบริหารธุรกิจที่ดีที่สุดในประเทศไทย คงหนีไม่พ้นหลักสูตรเอ็มบีเอ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้นำในการสร้างบุคลากรทางด้านธุรกิจออกมากว่า 8,000 คน โดยเฉพาะระดับเอ็มบีเอถือเป็นหัวกะทิของประเทศไทย

คำถามคือ แล้วหากจะต้องนำบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเหล่านี้มาช่วยกันขับเคลื่อนและสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติผ่านสมาคมนิสิตเก่าได้อย่างไร ถือเป็นโจทย์สำคัญที่จะกำหนดทิศทางบทบาทของสมาคมนิสิตเก่าเอ็มบีเอภายใต้การดูแลของชาติชายเลยก็ว่าได้ และเพื่อหาคำตอบของคำถามนี้ Business+ ได้มีโอกาสพูดคุยกับชาติชาย โดยเขาได้แสดงวิสัยทัศน์ให้ Business+ ฟังว่า

“ในยุคของผม ผมต้องการให้เอ็มบีเอ จุฬาฯ มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จากที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วระดับหนึ่ง แต่เราจะตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย แล้วตอบแทนคือสู่สังคมในมุมที่เราผลักดันนั่นคือการพยายาม Transform เศรษฐกิจไทยไปสู่สังคมดิจิทัล รวมทั้งดูแลสมาชิกและผลักดันให้สมาชิกสร้างประโยชน์คืนสู่สังคม”

และเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ชาติชายหวังไว้ ทันทีที่เข้ามารับตำแหน่ง ชาติชายได้ตั้งกรอบการทำงานให้กับกรรมการชุดใหม่ให้มีเจตนารมณ์เดียวกันภายใต้คอนเซ็ปต์ “MBA CU Drive for Transformation” โดยนำแนวคิด Chang มาใช้ในการขับเคลื่อนสมาคม

โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การจะให้สังคมเอ็มบีเอเป็นสังคมที่มีพลังขับเคลื่อนสังคมที่ดีที่สุดของประเทศ รวมคนเก่งที่มีความสามารถในการขับเคลื่อนธุรกิจให้สามารถแข่งขันในระดับประเทศและต่างประเทศ ผ่านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งด้านการผลิต ด้านการตลาด ด้านบัญชี หรือด้านทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับองค์กรต่าง ๆ

รวมทั้งดึงศักยภาพของเอ็มบีเอทั่วประเทศมาช่วยกันผลักดันสังคมและจัดกิจกรรมคืนกำไรสู่สังคม ภายใต้การดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งหมดนี้เป็นเป้าหมายสำคัญของการเริ่มบทบาทใหม่ในฐานะนายกสมาคมนิสิตเก่าเอ็มบีเอของชาติชาย

ในปีนี้ ชาติชายได้เตรียมจัดกิจกรรมใหญ่และมอบรางวัลใหญ่ถึง 4 รางวัลสำหรับผู้นำที่มีส่วนขับเคลื่อนสังคม เศรษฐกิจ และประเทศไทย รางวัลแรกคือ รางวัล “DRIVE AWARDS” ให้กับผู้นำองค์กรชั้นนำที่มีนวัตกรรมและมีการผลักดันให้สังคมไทยและเศรษฐกิจไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ Digital Economy พร้อมประกาศเกียรติคุณต้นแบบขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รางวัลต่อมาคือ “JUMC STAR” ที่จะมอบให้กับ Startup รุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจที่มีผลงานโดดเด่นในการบริหารธุรกิจในด้านต่าง ๆ ตามที่ทางโครงการกำหนด เพื่อเป็นเกียรติและกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับรางวัล และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วไปที่สนใจ

รางวัลที่ 3 เป็นรางวัลที่ถือว่าพิเศษ เพราะเกิดขึ้นในโอกาสครบรอบ 35 ปี หลักสูตรเอ็มบีเอ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2560 และเป็นปีพิเศษฉลอง 100 ปีแห่งการประดิษฐานจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งทางสมาคมเตรียมจัดกิจกรรมใหญ่ภายใต้ชื่อ 35th MBA Chula Always Reconnect ซึ่งเป็นงาน Reunion รวมพลนิสิตเก่าและนิสิตปัจจุบันครั้งใหญ่ และมอบรางวัลให้กับนิสิตเก่าดีเด่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับคณะ

ส่วนรางวัลสุดท้ายคือรางวัล 35th MBA Chula Alumni Star Awards รางวัลเชิดชูเกียรติ ผู้นำรุ่นใหม่ ไฟแรง อายุไม่เกิน 35 ปี ประกอบด้วย Innovation Star, Creation Star, Environment Star และ Social Star เป็นต้น

รวมทั้งพัฒนาต่อยอดโครงการ Junior MBA Chula (JUMC) ภายใต้ 2 หลักสูตรคือ JUMC NEXT และ JUMC WoW ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจนกลายเป็นหนึ่งในโครงการที่คนรุ่นใหม่อยากเข้ามาสัมผัสมากที่สุดอีกหลักสูตรหนึ่ง

ในส่วนของกิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์นั้น ชาติชายได้เน้นในเรื่องของ Networking and Sharing ให้กับเครือข่ายสมาชิก ซึ่งชาติชายตั้งใจจะรวบรวมสมาชิกให้มากขึ้น และอัพเดตความรู้ใหม่ ๆ ให้กับสมาชิกกับกิจกรรม Refresh Night โดยผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทุก ๆ 2 เดือนตลอด 2 ปี รวมทั้งการจัดกิจกรรม One MBA ในรูปแบบ CSR เพื่อปลูกฝังวิถีผู้นำต้นแบบแห่งการให้ โดยเน้นให้กลุ่มเยาวชนที่จะเติบโตเป็นผู้นำดี ๆ ในอนาคตเป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง อาทิ กิจกรรม Rally for kids และกิจกรรม Run for Kids

ตลอด 2 ปีที่ชาติชายดำรงตำแหน่ง สิ่งที่สังคมจะได้เห็นจากสมาคมนิสิตเก่าเอ็มบีเอ ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะชาติชายยังวางแผนจัดกิจกรรมสัมพันธ์อื่น ๆ อีกมายมายตลอด 2 ปี คือปี 2559-2561 ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกอล์ฟกระชับมิตร การแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ฯลฯ เพื่อให้สมาชิกได้ร่วมแสดงพลังเอ็มบีเอ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สร้างสรรค์ขับเคลื่อนสังคมและประเทศตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้