หัวเว่ย เปิดตัวโซลูชั่นใหม่เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมอัจฉริยะ

หัวเว่ย เปิดตัวโซลูชั่นใหม่เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมอัจฉริยะ ในการประชุม Huawei Asia Pacific ISP Summit 2018

การประชุม Huawei Asia Pacific ISP Summit 2018 เปิดฉากขึ้นแล้วที่ฮ่องกง โดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกว่า 150 รายจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มาร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในหมู่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต รวมถึงการปลดล็อกโอกาสใหม่ๆในการขยายเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นในธีม “Leading New ICT – Achieve and Accelerate Digital Revolution with ISP” โดยมีผู้นำอุตสาหกรรมเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง หนึ่งในนั้นคือบริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด จากประเทศไทย นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุม หัวเว่ยยังได้เปิดตัวโซลูชั่น FusionServer V5 โซลูชั่น CloudCampus และโซลูชั่นระบบสำรองไฟ FusionPower5000-S สำหรับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยโซลูชั่นเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อเร่งการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัลในหมู่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ตลอดจนยกระดับการให้บริการเพื่อความเจริญก้าวหน้าของเศรษฐกิจดิจิทัล

การบูรณาการระบบดิจิทัลของกลุ่มประเทศอาเซียนจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงวิถีชีวิตที่อัจฉริยะและปลอดภัย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและผลักดันการพัฒนาสังคมอัจฉริยะ ปัจจุบัน เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนจำนวนมาก บรรดาผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในเอเชียแปซิฟิกจึงต้องเร่งเดินหน้าพัฒนาธุรกิจของตนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขับเคลื่อนเทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซ เครือข่ายสังคมออนไลน์ เกมบนมือถือ และการชำระเงินผ่านมือถือในทุกประเทศ

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีที่มั่นคง ซึ่งจะช่วยเร่งการเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัล คุณฉิว เล่ย รองประธานฝ่ายโซลูชั่นผลิตภัณฑ์และการตลาดของ หัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรซ์ บิสิเนส กรุ๊ป กล่าวเปิดการประชุมว่า “เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัลและยกระดับการให้บริการดิจิทัล ด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไอซีทีครบวงจร พร้อมโซลูชั่น cloud-pipe-device เพื่อสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบเปิดที่มีความยืดหยุ่นและปลอดภัย นอกจากนี้ เรายังดำเนินงานตามกลยุทธ์ “Platform + Ecosystem” ด้วยการทำงานร่วมกับพันธมิตรหลายรายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งในส่วนของการให้บริการที่ฉับไว การนำเสนอทรัพยากรที่ยืดหยุ่น การวิเคราะห์บิ๊กดาต้า การเชื่อมโยงโครงข่ายศูนย์ข้อมูลบรอดแบนด์ความเร็วสูง ตลอดจนการเข้าถึงบริการ VR และ HD ซึ่งจะเปิดทางให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตสามารถพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัลและยังคงมีความสามารถในการแข่งขันในยุคดิจิทัล”

บรรดาผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรุ่นบุกเบิกกำลังอยู่ระหว่างการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล โดยได้รับแรงผลักดันจากเทคโนโลยีไอซีทีใหม่ๆ ที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งคลาวด์ บิ๊กดาต้า และปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงความต้องการใช้ทรัพยากรแบบกระจายและการสำรองข้อมูล และการที่องค์กรต่างๆ ใช้บริการคลาวด์เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจำนวนมากต่างใช้บริการคลาวด์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและเปลี่ยนโครงสร้างไอซีที จากศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตแบบเดิมมาเป็นศูนย์ข้อมูลคลาวด์

คุณอิ่ง คิน เหลียง ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีประจำฝ่ายขายโซลูชั่นและการตลาดของหัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรซ์ บิสิเนส กรุ๊ป แสดงความคิดเห็นว่า “ในฐานะผู้พัฒนาและให้บริการคลาวด์ หัวเว่ยพยายามช่วยเหลือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ด้วยการสร้างศูนย์ข้อมูลคลาวด์ พร้อมให้บริการจัดการระบบคลาวด์แบบครบวงจร ตลอดจนเร่งผลักดันการใช้งาน เพิ่มความคล่องตัว และอนุรักษ์พลังงาน”

คุณสันติ เมธาวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการและกรรมการผู้จัดการบริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด กล่าวว่า “หัวเว่ยให้บริการแพลตฟอร์มคลาวด์และเทคโนโลยี DWDM ที่ช่วยให้เราสามารถนำเสนอบริการคลาวด์ที่มีแบนด์วิดท์สูง มีความจุขนาดใหญ่ และมีความน่าเชื่อถือสูง”

โซลูชั่นใหม่ของหัวเว่ยช่วยให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว

ในการประชุมครั้งนี้ หัวเว่ยได้จัดแสดงโซลูชั่นใหม่ล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือองค์กรต่างๆ ในการปรับโครงสร้างการดำเนินงานและโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนเร่งกระบวนการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล

– FusionServer V5 platform solution: โซลูชั่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 30% สามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว ใช้ระบบที่มีความน่าเชื่อถือ ทั้งยังให้บริการได้อย่างฉับไวและยืดหยุ่น โดยมาพร้อมฟีเจอร์ Smart Fault MGM ที่สามารถป้องกันความผิดปกติของระบบได้ถึง 93% และลดการกินไฟของระบบลงได้ 16% ทั้งยังสะดวกในการบำรุงรักษา และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้วย

– CloudCampus solution: เนื่องจากเครือข่ายแบบดั้งเดิมมีประสิทธิภาพในการทำงานต่ำ การบริหารจัดการเครือข่ายก็ซับซ้อน ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบำรุงรักษาสูง โซลูชั่น CloudCampus จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้องค์กรในการวางแผนและติดตั้งเครือข่ายไร้สาย ตลอดจนควบคุมการดำเนินงานและบำรุงรักษาในสถานที่ทำงานผ่านบริการคลาวด์รูปแบบใหม่ ทำให้อุปกรณ์เครือข่ายสามารถใช้งานได้ทันที โซลูชั่นนี้ช่วยลดระยะเวลาในการติดตั้งเครือข่ายให้เหลือเพียงไม่กี่วัน และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลงมากกว่า 80% ทั้งยังเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนด้วย สำหรับผู้ให้บริการแบบ managed service provider (MSP) โซลูชั่นนี้มีแพลตฟอร์มบริหารจัดการคลาวด์ด้วยตัวเอง ช่วยให้สามารถบริหารจัดการอุปกรณ์ได้เป็นล้านๆเครื่อง พร้อมทั้งรวมเครือข่ายไวไฟที่กระจายกันอยู่มาไว้ใน “One WiFi” โซลูชั่นนี้ใช้ได้ในภาคการศึกษา อุตสาหกรรมค้าปลีก ตลอดจนศูนย์การค้าต่างๆ โดยจะช่วยให้ MSP มีรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยจากการจัดการด้วยตัวเอง โซลูชั่น CloudCampus สามารถใช้ได้แล้วบนระบบคลาวด์สาธารณะของหัวเว่ยในฮ่องกง ช่วยให้สามารถพัฒนาเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพสูง โดยไม่จำเป็นต้องคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีด้วยตัวเอง

– FusionPower5000-S UPS solution: โซลูชั่นที่รวมระบบจ่ายไฟและสำรองไฟเข้าด้วยกัน พร้อมรองรับกำลังไฟสูงสุด 1,200 kVA ต่อ UPS โซลูชั่นนี้สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดาย ใช้พื้นที่ไม่มาก และใช้เวลาในการบำรุงรักษาไม่ถึง 5 นาที นอกจากนี้ หากมีความผิดปกติเกิดขึ้น ผู้ใช้ยังสามารถทำการแก้ไขได้ผ่านทางออนไลน์ ทำให้ระบบพร้อมใช้งานมากขึ้นอย่างมาก

หัวเว่ยส่งมอบโซลูชั่นให้แก่บริษัทอินเทอร์เน็ตและผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลมากกว่า 1,000 รายในกว่า 50 ประเทศ ช่วยให้องค์กรเหล่านี้สามารถปรับโครงสร้างการดำเนินงานและโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุม Huawei Asia Pacific ISP Summit ได้ที่ http://e.huawei.com/topic/asia-pacific-isp-summit2018-en/index.html