จับตาฟองสบู่เศรษฐกิจจีน

การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ในปี 2016 ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมานั้น จีนส่งสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจอย่างชัดเจน จากอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ลดลงทุกไตรมาส ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ที่ขับเคลื่อนการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา ยังชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง

จีนกำหนดแผน 10 ปี 2010-2020 เพื่อเพิ่มรายได้ต่อหัวของประชากรอีก 1 เท่าตัว  ซึ่งจะเกิดได้ต่อเมื่อเศรษฐกิจจีนขยายตัวไม่ต่ำกว่าปี 6.5% ควบคู่ไปกับการขยายเขตเมืองและสร้างธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสร้างกำลังซื้อของประชาชน

ปารีณา พ่วงศิริ ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า “ถ้าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นพระเอก การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจเป็นวายร้ายในปี 2016 เลยทีเดียว”

ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนยังขยายตัวได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ทางการคาดไว้ ซึ่งเป็นผลจากเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม ภาคขนส่งและอสังหาริมทรัพย์

“สัญญาณบวกเพียงอย่างเดียวของเศรษฐกิจจีน คือภาคบริการที่เริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทั้งค้าปลีก ไอที และภาคการเงินที่ส่งสัญาณดีขึ้น จึงเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจากภาคบริการ ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ของจีน”

 

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังกังวลว่า จีนยังไม่สามารถควบคุมการก่อตัวของฟองสบู่ไว้ได้ เหมือนกับเหตุการณ์ฟองสบู่แตกที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นเมื่อกลางปี 2015 ที่ผ่านมา ถ้าเป็นเช่นนั้น เศรษฐกิจจีนจะเป็นผู้ร้ายที่ซ้ำเติมตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

 

สามารถติดตามบทความแบบเต็มอิ่มได้ที่นิตยสาร Business+ ฉบับ 323 ประจำเดือนมกราคม 2016 หรือคลิกที่นี่