Spotlight

Contact Center เปรียบเสมือนหน้าด่านของธุรกิจ เมื่อลูกค้าเจอปัญหาหรือต้องการสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับบริการหรือบริษัท สิ่งแรกที่ลูกค้าจะคิดถึงคือ การโทรเข้ามาที่ Call Center เป็นอันดับแรก   แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป เทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้า และการสื่อสารที่กว้างกว่าเดิม มิติของการติดต่อธุรกิจของลูกค้ากับบริษัทก็กระจายไปสู่ การรับส่งแฟกซ์ ติดต่อทางอีเมลล์ และโซเชียลมีเดียในปัจุบัน เกิดเป็นการทรานฟร์อมจาก Call Center มาสู่ Contact Center ในยุคปัจุบัน   หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ Contact Center คือช่องทางติดต่อสำหรับลูกค้า ที่ต้องการสอบถามข้อมูล ติดต่อทำธุรกรรมกับบริษัท หรือต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับสินค้าและบริการ   ในประเทศไทยมีCall Center อยู่ที่ราวๆ 1.3 แสนซีท (1ซีท/พนักงาน3คน) ให้บริการตลอด24 ชม. โดยเฉพาะบริษัทหรือองค์กรใหญ่ๆ อาทิ สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการสัญญาณมือถืออาจมีพนักงานCall Center หลักพันคน ให้บริการลูกค้าถึง10 ล้านคู่สายต่อเดือน ขณะที่ภาพรวมการใช้บริการCall …

ภาพที่คุ้นเคยสำหรับร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง และของใช้ภายในบ้านที่เป็น “บิ๊กบ็อกซ์” หรือร้านโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ก็คือ ภาพของร้านค้าที่ขายสินค้าราคาถูก ซึ่งกลยุทธ์ด้านราคา ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการในร้านของตัวเอง   แต่สำหรับ เมกาโฮม หัวใจสำคัญที่เข้ามาช่วยให้ผู้เล่นรายนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการทำตลาดช่วงที่ผ่านมาก็คือ การเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค โดยรู้ว่าเขาต้องการอะไร แล้วนำมาปรับตามความต้องการได้อย่างตรงจุด   สิ่งที่สะท้อนออกมาให้เห็นจากการทำตลาดบนพื้นฐานของความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค ก็คือ ความสำเร็จในเรื่องของยอดขายที่มีการเติบโตที่ดีมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา โดยการเติบโตของยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกนี้มีตัวเลขออกมถึง 20% คาดว่าตลอดทั้งปี 2560 นี้ น่าจะมีตัวเลขยอดขายรวมขยับขึ้นไปแตะที่ 8,000 ล้านบาท   สุพรศรี นาคธนสุกาญจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบริหารกลุ่มสินค้า บริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้บริหารเมกาโฮม ศูนย์จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และของใช้ภายในบ้านครบวงจร บอกกับเราว่า เมกาโฮม ทำตลาดบนพื้นฐานของการเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคมาตั้งแต่ต้น ทำให้เราสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างเด่นชัดอีกอย่างก็คือ ลูกค้าในตลาดนี้ เริ่มมีความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้น ลูกค้ามีความต้องการที่หลากหลายกว่าในอดีต อย่างลูกค้าที่เป็นกลุ่มช่าง จากเดิมที่เน้นเรื่องราคาเป็นหลักก็มีบางกลุ่มที่หันมามองในเรื่องของคุณภาพ โดยเฉพาะกับกลุ่มที่มีความรู้ในเรื่องของตัวสินค้า เขามองในภาพรวมมากกว่าว่าการใช้สินค้าที่ดีมีคุณภาพ …

ไทยเบฟ มุ่งมั่น เติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน ภายใต้ Vision 2020 เน้นเข้าใจตลาด และผู้บริโภค พร้อมเดินแผนรุกธุรกิจแบบ 360 องศา   บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นำทีมโดยผู้นำทัพใหญ่ ไทยเบฟ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี พร้อมด้วยเหล่าผู้บริหารทั้งประภากร ทองเทพไพโรจน์ กรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจสุรา,เอ็ดมอนด์ นีโอ คิม ซูน กรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจเบียร์,ลี เม็ง ตัท กรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์, เลสเตอร์ เต็ก ชวน ตัน กรรมการผู้อำนวยการ ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ ประเทศไทย ,นงนุช บูรณะเศรษฐกุลกรรมการผู้อำนวยการ ธุรกิจอาหาร ประเทศไทย,โฆษิต สุขสิงห์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจต่อเนื่องและ ดร. …

โคคา-โคลา ปรับสูตรผลิตภัณฑ์และขยายพอร์ตโฟลิโอ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและเทรนด์ที่เปลี่ยนไป   เมื่อพูดถึงตลาดเครื่องดื่มแล้ว ในช่วง2-3ปีที่ผ่านมาเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและมูฟเม้นต์ที่สำคัญหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการผลิตเครื่องดื่มที่เน้นไปทางสุขภาพมากขึ้น หรือแม้แต่การเอานวัตกรรมเข้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์และเป็นจุดขายหลัก   สาเหตุหลักของมูฟเม้นต์นี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้บริโภคและกะแสโลกต่างโน้มเอนไปในเรื่องของการรักษาสุขภาพมากขึ้น ผลิตภัณฑ์และเครื่องดื่มที่ผู้บริโภคเล็งเห็นแล้วว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่ผู้บริโภคปฏิเสธ     เมื่อมองในภาพใหญ่จะเห็นว่า ในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคประเทศไทย สินค้าในกลุ่ม “เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์” (Non-Alcohol Beverage)ประกอบด้วยน้ำดื่ม, เครื่องดื่มอัดลม, ชาพร้อมดื่ม, นม, นมถั่วเหลือง, น้ำผลไม้, โยเกิร์ตพร้อมดื่ม, เครื่องดื่มชูกำลัง และสปอร์ต ดริ้งค์ เป็นหนึ่งในตลาดที่มีขนาดใหญ่อันดับต้นๆโดยมีมูลค่าสูงถึง 203,300 ล้านบาทและเติบโตในอัตรา 4 – 5% ต่อปี   โดยเครื่องดื่ม น้ำอัดลม น้ำดื่ม และน้ำผักผลไม้ยังคงเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมใน 3 อันดับแรก โดย นำอัดลมเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงที่สุดถึง 51,000 ล้านบาท รองลงมาคือตลาดน้ำดื่มที่มีมูลค่ากว่า 32,000 ล้านบาท และสุดท้ายคือ …

เมื่อตลาดปิ้งย่างในไทยไม่หอมหวน AKA ขอลุยต่างประเทศ ตลาดอาหารปิ้งย่างในเมืองไทยที่มีมูลค่า 7,000 ล้านบาท ดูจะเล็กเกินไปสำหรับแบรนด์ “AKA” ซะแล้ว เพราะหลังจากรุกตลาดในเมืองไทยมา 10 ปี จนประสบความสำเร็จด้วยการครองส่วนแบ่งตลาด 30% ทว่าวันนี้ AKA ยังคงไม่หยุดนิ่ง โดยขอรุกคืบไปอีกสเต็ป ด้วยการเดินหน้าลุยตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับ AKA อย่างแข็งแกร่งต่อไป หากเอ่ยถึงกลุ่มบริษัทชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจด้านร้านอาหารในเมืองไทย ต้องมีชื่อของ “เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป” ติดโผในใจผู้บริโภคเป็นลำดับต้น ๆ อย่างแน่นอน โดยปัจจุบันเครือเซ็น กรุ๊ป มีธุรกิจร้านอาหารทั้งหมด 12 แบรนด์ และ “AKA” เป็นร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ยากินิคุที่สามารถสร้างรายได้เป็นอันดับ 2 ให้กับเซ็น กรุ๊ป รองจากร้านอาหารญี่ปุ่นอย่าง ZEN ขณะที่ตลาดอาหารปิ้งย่าง แม้ “AKA” จะเป็นแบรนด์ผู้มาทีหลัง แต่มีการเติบโตต่อเนื่องทุกปี ๆ ละ …

สยบทุกดราม่า ด้วยมนต์สะกดแห่ง “Spell by Janie” มิติใหม่แห่ง กลิ่นหอม   แม้ว่าบนเส้นทางนักแสดงมืออาชีพ ของ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ จะผ่านมาทุกบทบาท และฝ่ากะแสดราม่าที่โถมเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกะแสดราม่าล่าสุดกับกรณีอัลฟอโล่วเพื่อนซี้แก๊ง นางฟ้า อย่าง วุ้นเส้น – คริส ที่คาดว่ามีหนุ่งกึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ  เป็นต้นเหตุ ก็ดูเหมือนจะคลี่คลายลงในเร็ววัน แต่ถึงแม้กะแสดราม่าจะยังคุกรุ่น แต่เจนี่ก็ไม่หวั่น เดินหน้าเปิดตัวน้ำหอม ภายใต้แบรนด์ Spell by Janie ที่เจ้าตัวจับมือกับ บริษัท เซนติเมนทัล (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้แบรนด์ ไลเซิน จากบริษัท เบล เพอร์ฟูมส์ จำกัด และ V.MANE FILS (Thailand) มาช่วยกันรังสรรค์ความหอมจากความงามสุดสมบูรณ์แบบแห่งตัวตนของ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ พร้อมที่จะสร้างภวังค์แห่งมนต์สะกดเพียงแค่แรกสัมผัส …

ทฤษฎีแม่ค้าถั่วต้ม กับภาพรวมเศรษฐกิจไทย ที่ผ่านมา คนไทยคุ้นชินกับดัชนีวัดการเติบโตของเศรษฐกิจไทยแบบบ้านๆ หรือรากหญ้า เปรียบเทียบกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือมาม่ามาโดยตลอด หมายความว่า ถ้าจะดูสภาพเศรษฐกิจไทยเติบโตหรือไม่ ให้ดูการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มีสถิติบ่งชี้ว่า ถ้าปีใดเศรษฐกิจดี หรือดีมากๆ อัตราบริโภคจากการซื้อมาม่า จะส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก แต่ตัวเลขล่าสุดผู้ผลิตมาม่าบอกว่า ยอดขายมาม่าโตเพียง 1% มาม่า 1 ซอง ราคา 5-6 บาท คนทานก็อิ่มได้ 1 มื้อ ดัชนีมาม่าจึงเป็นคำเปรียบเปรยได้ดีมาโดยตลอด แต่จากนี้ พวกเราอาจมีดัชนีใหม่ขึ้นมาอีก 1 ตัว นั่นคือ ดัชนีถั่วต้ม ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เป็นผู้ให้นิยามทฤษฎีแม่ค้าถั่วต้ม เป็นการเปรียบเทียบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยปัจจุบัน ว่า ทำไมตัวเลขการเติบโตของประเทศดี แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้สึกอย่างนั้น ในรายงานพิเศษที่ทางธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย สรุปออกมาว่า …

รัฐบาลยุค 4.0 ความฝันที่ไทยจะเป็นครัวของโลกนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะนโยบายใหม่ของรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายใหม่สู่การเป็น Food Innovation Hub