เรื่องเล่า…ORN THE TABLE

ขีวิตของผู้หญิงธรรมดา อร-ณธนพร เอื้อวันทนาคูณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยไดมอนด์ฟูด จำกัด กว่าจะเดินทางมาถึงจุดหมายในวันนี้ วันที่เธอเป็นเจ้าของร้าน APRIL’S BAKERY พร้อมกับแบรนด์สินค้าใหม่ Manee (มณี) เค้กสัปปะรดสูตรไต้หวัน ที่เธอทุ่มเทคิดค้นไส้ขนมเพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกใจคนไทยด้วยกันเอง

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ เธอล้วนผ่านบททดสอบมาในทุกเส้นทาง จากเด็กนครสวรรค์มีพี่น้องจำนวน 4 คน เธอเป็นลูกคนที่สองของครอบครัวคนจีนที่ทำธุรกิจค้าขายวัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2540 ครอบครัวของเธอได้รับผลกระทบเจียนอยู่เจียนไป ถึงขนาดที่แม่ของเธอต้องนับเศษเหรียญจากลิ้นชัก เพื่อนำไปจ่ายค่าเทอมที่ทางโรงเรียนส่งจดหมายทวงถามอยู่หลายครั้ง แต่ลูกๆ ทุกคนก็ไม่เคยรับรู้ถึงสถานะครอบครัวในช่วงนั้นเลย

เธอเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างสุขสบายเหมือนอยู่ที่บ้าน มีเงินส่งมาให้ใช้และซื้อรถไว้ขับกลับบ้านทุกวันหยุดสุดสัปดาห์

จนกระทั่งเกิดวิกฤตครั้งสำคัญ แม่ป่วยหนักและจากไปอย่างสงบ จากนั้นเสาหลักคือพี่ชายคนโตได้เข้าประคองเส้นทางชีวิตของน้องๆ ทุกคน ขณะที่เธอศึกษาจบทางด้านการบริหาร กลับบ้านเริ่มต้นทำธุรกิจขายขนมปังตามตลาดนัด ชิ้นละ 10-15 บาท ยอดขายต่อวันได้ประมาณ 3,000-4,000 บาท

ระหว่างนี้เธอเดินตามหาความฝันที่อยากจะเป็นแอร์โฮสเตส กับสายการบินอีว่า สัญชาติไต้หวัน เงินเดือนเริ่มต้น 6,000 บาท ทำอยู่ได้ไม่นาน เธอเริ่มเหนื่อยล้าจากการที่ต้องเดินทาง การนอนที่ไม่เป็นเวลา แต่นั่นไม่หนักเท่ากับการถูกคนไต้หวันดูถูกแอร์โฮสเตสที่เป็นคนต่างชาติ บางครั้งถูกเรียกขึ้นบินตอนตีสาม เธอเริ่มคิดวางแผนว่าจะทำอะไรดีหากลาออกจากการเป็นแอร์โฮสเตส

 เธอลาออกจากการเป็นนางฟ้าบนสายการบิน นำเงินสะสมมาลงทุนทำร้านกาแฟ แต่ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะขาดทักษะในการบริหารจัดการธุรกิจในการควบคุมรายรับ-รายจ่าย เธอเริ่มมองหาธุรกิจใหม่คิดการณ์ใหญ่จะทำเบเกอรี่ประเภท ‘คีซ’ ไส้ต่างๆ เช่น ไส้ผักโขมอบชีส ขึ้นห้างฯ ขาย แต่ด้วยความที่ ‘คีซ’ ทั้งเลี่ยน ทั้งมัน กระแสตอบรับจึงมีไม่มาก

MANEEวันหนึ่งเพื่อนชวนไปฮ่องกง พบกับพายหมูแดงเจ้าอร่อย ไม่รู้สูตร และวิธีการทำ กลับบ้านหัดทำ สับหมูเอง ใส่ไส้เอง ห่อแป้งเอง ตีสามตีสี่ ทำส่งขายขึ้นห้างฯ เหมือนเดิม จังหวะดวงชะตาหนุนส่งได้ออกรายการโทรทัศน์ เป็นจุดเปลี่ยนให้คิดค้นไส้ขนมหลากหลายมากขึ้น จนปัจจุบันขายได้กว่าหมื่นชิ้น และเพิ่งมาได้กำไรตอนกิจการขึ้นปีที่สามนี้เอง

ปัจจุบันมีแฟรนไซส์กว่า 50 สาขา ขนมทุกชิ้นยังคงทำด้วยมือเหมือนเดิม ไม่ใส่สารกันบูด ธุรกิจของเธอประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ในช่วงนี้เธอพบกับผู้ชายของเธอ โดยที่พ่อสามีเป็นสื่อกลางเชื่อมต่อความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอ

“วันนั้นอรขายขนมอยู่บนห้างฯ จู่ๆ ก็มีผู้ชายมีอายุมายืนจ้อง และเข้ามาทำความรู้จักยกมือถือให้ดูรูปลูกชายซึ่งก็คือพี่โจ พร้อมกับสั่งขนมเป็นหมื่นบาท ให้ไปส่งที่บริษัทด้วย จนได้พบกับพี่โจเริ่มคบหาและสานความสัมพันธ์และได้แต่งงานกันในที่สุด”

 เธอเล่าถึงภาพอนาคตธุรกิจร้านขนม APRIL’S BAKERY ที่ไม่หยุดนิ่ง คิดค้นสูตรขนมรสชาติใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ เข่น เค้กสัปปะรด ไปถึงน้ำพริกปลาข้าวสาร เธอยังมีแผนที่จะขยายสาขาไปต่างประเทศ บนมาตรฐานและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น

“กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ล้มลุกมาหลายครั้ง เป็นประสบการณ์ชีวิตที่คุ้มค่ามาก เหมือนเป็นรางวัลให้กับชีวิต หากเส้นทางข้างหน้าเจออุปสรรคที่ใหญ่กว่านี้ ก็น่าจะรับมือไหว เพราะเคยผ่านช่วงเวลาย่ำแย่มาแล้ว…”

 เธอจึงได้เรียนรู้ว่าครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต จากนี้ต่อไปไม่ว่าจะล้มหรือจะลุกก็จะยืนเคียงข้างกันเสมอ…

ธเนศ ศรีสุข