Amatara Wellness Resort มิติใหม่ของรีสอร์ทเพื่อสุขภาพครบวงจร

Amatara Wellness Resort มิติใหม่ของรีสอร์ทเพื่อสุขภาพครบวงจร

หากเอ่ยชื่อ Amatara Wellness Resort (อมาธารา รีสอร์ท เวลเนส ) หลายๆคนก็อาจไม่คุ้นหูแต่ถ้าเอ่ยชื่อ Regent Phuket Cape Panwa เชื่อว่าหลายๆคนต้องคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

หลังจาก Rebrand ครบ1ปี Amatara Wellness Resort  ก็เดินตามกลยุทธิ์ที่วางไว้เพื่อก้าวสู่การเป็นTop 5 Wellness Destination ในเอเชีย (ตะวันออกเฉียงใต้)ทันที โดยล่าสุดได้ผนึกกำลังกับ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต พัฒนาโปรแกรมการบริการด้านเวลเนสและสุขภาพแบบองค์รวมอย่างครบวงจร(Integrative Wellness Program)โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและโปรแกรมการดูแลและส่งเสริมสุขภาพดีครอบคลุมทั้งแผนการบริการด้านสุขภาพแบบบูรณาการ พร้อมประกาศความร่วมมือกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ มอบสิทธิพิเศษในการเดินทางแก่ลูกค้า

ผศ.ดร.ปรารถนาปุณณกิติเกษม กรรมการผู้จัดการ อมาธาราอะเดสทิเนชั่นสปา จำกัด เปิดเผยกับทีมงานบิสิเนสพลัสว่า นอกจาก “ Amatara” จะมอบบริการห้องพักระดับเวิลด์คลาส ให้แก่แขกผู้เข้าพักแล้วยังเล็งเห็นความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะการสร้างประสบการณ์แห่งการพักผ่อนทั้งทางร่ายกาย จิตใจ และอารมณ์ ให้แก่ลูกค้า ภายใต้วิสัยทัศน์ในการก้าวขึ้นเป็น Top 5 Wellness Destination ในเอเชีย (ตะวันออกเฉียงใต้) ผลักดันมาตรฐานเวลเนสไทยไปสู่ระดับสากล พร้อมๆ กับการส่งเสริมกลุ่มตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทยให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

ในการผลักดันให้อมาธาราให้เป็นรีสอร์ทเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรนั้น ได้มีการพัฒนารีสอร์ทและ
สปา มาอย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งที่อมาธาราได้ดำเนินการไปแล้วก็คือ การเปิด Wellness Innovation Experience ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวบริการสปาไทยฮัมมัมแห่งแรกของโลก อีกทั้งยังมีการออกแบบพัฒนาโปรแกรมดูแลสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันมีถึง 6 รูปแบบ โดยหนึ่งในนั้นก็คือ โปรแกรมDetoxที่สามารถเลือกความต้องการเฉพาะบุคคลได้ แพ็คเกจโยคะเพื่อชีวิตที่ดีกว่า รวมไปถึง กิจกรรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้รักสุขภาพ

และปัจจุบันภาพของ Amataraก็ยิ่งชัดเจนไปอีกขั้น ในการริเริ่มความร่วมมือทางด้านพัฒนาโปรแกรมเพื่อสุขภาพกับสถาบัน Brain Health Instituteโรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ตในการร่วมพัฒนาโปรแกรมการส่งเสริมและดูแลสุขภาพแบบองค์รวม หรือ Integrative Wellness Program ที่มุ่งเน้นด้านการดูแลสุขภาพสมอง และการชะลอวัยอย่างครบวงจร เป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพ ซึ่งเริ่มตั้งแต่การดูแลรักษาภายใต้มาตรฐานทางการแพทย์ระดับสากล การให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ แผนโภชนาการหลังการรักษา การดูแลสุขภาพและไลฟ์สไตล์เพื่อป้องกันโรค ไปจนถึงการประเมินและติดตามผลภายหลังการเข้ารับบริการ ในอนาคตอันใกล้ เรายังมีแผนที่จะร่วมกันพัฒนาโปรแกรมและแพ็คเกจเพื่อป้องกันโรคเกี่ยวกับสมอง และโปรแกรมการพัฒนาคุณภาพการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มเติมอีกด้วย

นอกจากนี้  Amatara ยังพร้อมมอบความสะดวกสบายด้วยบริการระดับ 5 ดาว ให้แก่คนไข้ของทางโรงพยาบาลที่ต้องการพักฟื้นหลังการรักษา หรือพักผ่อนหลังการตรวจสุขภาพ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย ให้เป็นไปในรูปแบบบูรณาการมากยิ่งขึ้น

“ในส่วนของ Amatara เอง เรายังวางแผนที่จะพัฒนาต่อยอดโปรแกรมดูแลสุขภาพ จาก 6 รูปแบบที่เรามีอยู่ โดยภายในปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า ทาง Amataraจะมีการพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพเพิ่มเติมอีก 2โปรแกรม นั่นคือ โปรแกรมชะลอวัย (Anti-aging) และ โปรแกรมการดูแลสุขภาพสมอง โดยทั้งสองโปรแกรมนี้จะได้รับการออกแบบให้เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์ระดับสากล

ความร่วมมือในครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นจากองค์กรผู้นำทางด้านการแพทย์และผู้ให้บริการด้านโรงแรม ซึ่งดิฉันมั่นใจว่า จะไม่เพียงช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น แต่ยังเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญ ซึ่งจะมีส่วนในการผลักดันให้ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพชั้นนำของภูมิภาค และยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย ให้ก้าวสู่การเป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวเชิงเวลเนสระดับโลก (Wellness Tourism) และเหนืออื่นใดก็คือ การที่แขกคนสำคัญของเรา จะได้รับการดูแลสุขภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

และเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้มากขึ้น Amatara Wellness Resort  ยังได้ร่วมมือกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและลูกค้าของอมาธาราและบางกอกแอร์เวย์ส ได้รับสิทธิพิเศษในการเดินทางท่องเที่ยว อาทิ โปรแกรมการใช้สิทธิ์ในการแลกคะแนนสะสมสำหรับลูกค้าปัจจุบัน และการสะสมแต้มของโปรแกรมฟลายเออร์โบนัสเมื่อเข้าพักที่ Amatara Wellness Resort  โดยความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรชั้นนำทั้งสองแห่งนี้ จะช่วยผลักดันให้อมาธาราสามารถมอบประสบการณ์การพักผ่อนให้ลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบ สะดวกสบาย คุ้มค่า และสัมผัสกับบริการที่ดีที่สุดในเอเชีย ทั้งในด้านการเดินทาง การตรวจสุขภาพ การบำบัดสุขภาพ และการพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม

และยังเป็นการส่งเสริมมาตรฐานธุรกิจโรงแรมและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของจังหวัดภูเก็ตให้ดีขึ้นยกระดับมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย พร้อมทั้งดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากทั่วทุกมุมโลกพร้อมๆ กับการส่งเสริมกลุ่มตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทยให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น”ผศ.ดร.ปรารถนากล่าวสรุป

มั่นใจมาถูกทาง

ทางด้าน อธิปัตย์ จิตต์ไชยวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด โรงแรมอมาธารา เวลเนส รีสอร์ท กล่าวเสริมว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีศักยภาพการขยายตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในฝันอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยสถิติระบุว่า จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยกว่า 30 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวในภูเก็ตถึง 6.5 ล้านคน และคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีโรงแรมเปิดใหม่กว่า 30 แห่ง และมีห้องพักเพิ่มขึ้นกว่า 5,500 ห้อง ฉะนั้น เชื่อว่าการแข่งขันในตลาดการท่องเที่ยวจะเป็นสิ่งน่าจับตามอง

นอกจากนี้ ในปัจจุบัน ธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยงเชิงสุขภาพมีศักยภาพขยายตัวสูงมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่ม และเชื่อมโยงการพัฒนาสู่ระดับชุมชน โดยสถานการณ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในตลาดโลกมีมูลค่าราว 1,604 พันล้านบาท ซึ่งประเทศไทยมีส่วนแบ่งประมาณ 285 พันล้านบาท สูงเป็นอันดับที่ 13 ของโลก

และจากแนวโน้มด้านความต้องการของนักท่องเที่ยวและการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพดังกล่าว อมาธาราจึงเดินหน้าแผนกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างให้กับทางรีสอร์ท ด้วยการปรับภาพลักษณ์ใหม่เป็นรีสอร์ทเวลเนสระดับไฮเอนด์ครบวงจรอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ การเปิดตัวสนามบินนานาชาติภูเก็ตอย่างเป็นทางการ จะเอื้อให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปีก่อน ซึ่งมากถึง 13 ล้านคน เราจึงได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับสายการบางกอกแอร์เวย์ส เพื่อมอบสิทธิประโยชน์และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการของรีสอร์ทมากยิ่งขึ้น ไปพร้อม ๆ กับการผลักดันให้ตลาดการท่องเที่ยวของภูเก็ตมีความคึกคัก ซึ่งเราคาดว่าจะช่วยให้ Amatara Wellness Resort เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 10% หลังไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

จากการตอกย้ำของสองผู้บริหาร ก็พอจะมองออกว่าการแข่งขันในธุรกิจโรงแรมในทำเลทองอย่างภูเก็ต การสร้างความแตกต่างและนำเทรนด์เป็นกุญแจสำคัญของธุรกิจอย่างแท้จริง รากฐานที่ Amatara Wellness Resort ปูไว้ก็เริ่มเข้าที่เข้าทางตามแผน ส่วนผลจะออกมาตามที่คาดหวังไว้หรือไม่ก็ต้องติดตามกันต่อไป