อภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บมจ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ หรือ RP

อภิชาติ ชโยภาส กับธุรกิจที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

เส้นทางชีวิตเจ้าพ่อราชาเฟอร์รี่ ‘อภิชาติ ชโยภาส’ ที่รับไม้บริหารงานท่าเรือข้ามฟากต่อจากบิดา จนวันนี้เขาสามารถเข็นบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ได้เป็นผลสำเร็จ พร้อมขยายธุรกิจนี้อย่างเต็มสูบ !

กว่า 35 ปีที่ราชาเฟอร์รี่ให้บริการเรือข้ามฟากและท่าเทียบเรือในเส้นทางดอนสัก-สมุย และดอนสัก-พะงัน เพื่อขนส่งผู้โดยสาร สินค้าอุปโภคบริโภค ยานพาหนะ รวมทั้งเครื่องจักรกลขนาดใหญ่

ด้วยผลประกอบการกว่า 665 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 85 ล้านบาท ในปี 2557 ทำให้ราชาเฟอร์รี่กลายเป็นบริษัทฯ ดาวรุ่งที่น่าสนใจไม่น้อย

ล่าสุด Business+ ได้มีโอกาสล่องเรือข้ามฟากไปเกาะสมุยและพูดคุยกับ อภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บมจ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ หรือ RP ผู้ให้บริการเรือข้ามฟากที่มีผู้สัญจรกว่าพันคนต่อวัน

อภิชาติ เกริ่นว่า หลังจากคุณพ่อได้ซื้อกิจการเรือข้ามฟากดอนสัก-เกาะสมุย เนื่องจากไม่มีใครดูแลกิจการ ช่วงแรกผมจึง
ตกกระไดพลอยโจนมาบริหารงานที่นี่ แต่พอได้ทำไปแล้วก็รู้สึกชอบ และเป็นคนบุกเบิกเส้นทางเรือดอนสัก-เกาะพงัน

แม้ว่าอภิชาติมีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ก็ตาม แต่ด้วยบุคลิกส่วนตัวที่เป็นคนตรงไปตรงมาและมีความจริงใจ ทำให้ผู้บริหารหนุ่มไม่ย่อท้อและยืนหยัดบนสังเวียนธุรกิจนี้ได้ไม่ยากเย็นนัก

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผู้บริหารหนุ่มได้เดินหน้าพัฒนาบริษัทฯ มาเรื่อย ๆ จากมีเรือเฟอร์รี่ 6-8 ลำ ก็ซื้อเรือเพิ่มทุกปี จนวันนี้ราชาเฟอร์รี่มีเรือขนส่งทั้งสิ้น 12 ลำ และได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทฯ ที่มีกองเรือมากที่สุดในภาคใต้

และนอกจากรับหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงการเดินทางของผู้คนแล้ว อภิชาติมีความเชื่อว่า “สมุยต้องอยู่ได้ เราถึงจะอยู่ได้ เราจะไปหาประโยชน์อย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องทำให้คนบนเกาะได้ผลประโยชน์ด้วย

สามารถติดตามบทความแบบเต็มอิ่มได้ที่นิตยสาร Business+ ฉบับ 323 ประจำเดือนมกราคม 2016 หรือคลิกที่นี่