หลังจากลงหลักปักฐานเปิด ‘คาสิโอ มาร์เก็ตติ้ง ไทยแลนด์’ เพื่อทำการตลาดสินค้าคาสิโอในเมืองไทยโดยเฉพาะ ต่อยอดจากที่เคยให้บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด หรือ CMG ดูแลด้านการตลาดมาโดยตลอด
เมื่อย้อนดูเส้นทางธุรกิจของคาสิโอ (CASIO) กว่า 58 ปี บริษัทฯ ที่เริ่มต้นจากผู้ผลิตเครื่องคิดเลขสู่ตำแหน่งผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ของวงการที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วโลก
ด้วยปรัชญา “ความคิดสร้างสรรค์และการมีส่วนร่วม” จึงทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคาสิโอมีความหลากหลาย และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทุกเพศ-ทุกวัย จนกระทั่งมีฐานแฟนคลับที่เป็น Brand Loyalty อย่างเหนียวแน่น
การันตีจากยอดขายทั่วโลกใน 3 ปีที่ผ่านมา คาสิโอทำรายได้เติบโตเฉลี่ย 10% โดยเฉพาะปีงบประมาณ 2015 (สิ้นสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา) ทำรายได้เท่ากับ 338,389 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงิน 3,720 ล้านดอลลาร์ และผู้บริหารคาดว่า “ปีงบประมาณซึ่งแน่นอนว่ายอดขายในปี 2016 จะเพิ่มเป็น 370,000 ล้านเยน”
เพราะอะไรที่ทำให้คาสิโอยืนหยัดอยู่ในสังเวียนนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง? ฮิโรชิ นากามูระ ประธานบริหารอาวุโส และผู้จัดการทั่วไปอาวุโส กลุ่มงานการตลาดโลกของบริษัท คาสิโอ คอมพิวเตอร์ จำกัด ตอบกับ Business+ ว่า “เพราะบริษัทฯ เรามีจุดยืนที่แข็งแกร่งด้วยการทำงานแบบ ‘นับศูนย์ถึงหนึ่ง’ ใส่ใจสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้กลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจ
พร้อมกับสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ใช้งานและผู้บริโภคอยู่เสมอ”นั่นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่คาสิโอจะพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คน”
ขณะที่ผลิตภัณฑ์ “นาฬิกาข้อมือ” ที่เป็นเส้นเลือดใหญ่สร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ฮิโรชิ เปิดเผยว่า “นั่นเป็นเพราะนาฬิกาคาสิโอหลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการ
การผลิตนาฬิกาหนึ่งเรือนไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องชอบเหมือนกันทั้งหมด คนนี้ไม่ชอบไม่เป็นไร แต่ถ้ามีคนหนึ่งหลงรักเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่คาสิโอต้องการ
โดยคาสิโอจะตอกย้ำสร้างฐานแฟนคลับจากการทำสิ่งเหล่านี้ให้ชัดเจน เพื่อให้คนที่หลงรักคาสิโอซึมซับความเป็นคาสิโอเข้าไปในสายเลือด กลายเป็นนาฬิกาที่ถูกจริต ใช้แล้วใช่ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายคาสิโอตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา”
สำหรับแผนธุรกิจคาสิโอ 5-10 ปีต่อจากนี้ ผู้บริหารหนุ่มยังเตรียมพัฒนานวัตกรรมใหม่ ชนิดที่ทุกคนจะต้องร้อง “ว้าว ! ฟังก์ชันนี้สุดยอดมาก”
ติดตามบทความทั้งหมดได้ที่ นิตยสาร Business+ December 2015