โออิชิขยายสายการผลิตบุกตลาด CLMV

แม้ว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาตลาดชาเขียวเมืองไทยจะดูทรงๆไม่ตายแต่ไม่โตมาอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนจะมีสัญญาณดีขึ้นมาเล็กน้อย จากยอดตัวเลขที่สวยขึ้นอย่างต่อเนื่องของเจ้าตลาด อย่างโออิชิ ที่สามารถทำรายได้เกินความคาดหมายถึง 10,399 ล้านบาท จากธุรกิจอาหาร 4,906 ล้านบาท และธุรกิจเครื่องดื่ม 5,493 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา

 

โออิชิ

ซึ่งเบื้องหลังกำไร799 ล้านบาท ในส่วนของธุรกิจเครื่องดื่ม มาจากการนำนวัตกรรมและลูกเล่นใหม่ๆเข้ามาผสมกับชาเขียวเพื่อดึงดูดกลุ่มนักดื่มรุ่นใหม่หรือกลุ่มวัยรุ่นบวกกับแคมเปญที่ขยันออกมาเอาใจเหล่าวัยรุ่นกันอย่างต่อเนื่อง ที่ไม่เพียงแต่ทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์ การเติบโตทางด้านยอดขายและผลกำไรดีขึ้นเท่านั้น แต่รวมไปถึง ความสำเร็จในการบุกตลาดต่างประเทศ โออิชิครองแชมป์เจ้าตลาดอันดับ 1 ที่ลาวและกัมพูชา รวมทั้งล่าสุดขึ้นแท่นแบรนด์อันดับ 1 ของตลาดชาเขียวในประเทศมาเลเซีย

 

 

และเพื่อรองรับการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเพื่อซัพพร์อต นวัตกรรมทางด้านเครื่องดื่มในอนาคต แม่ทัพคนใหม่ “นงนุช บูรณะเศรษฐกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมาแทนผู้บริหารหนุ่ม“มารุต บูรณะเศรษฐกุล” ที่ได้ย้ายกลับไปดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ก็เดินหน้าสานต่อกลยุทธิ์การขยายตลาดใหม่ๆต่อทันที ด้วยการเปิดสายการผลิตและบรรจุด้วยเทคโนโลยีปลอดเชื้อขั้นสูง Cold Aseptic Filling หรือ CAF วังม่วง สระบุรี

 

“นงนุช บูรณะเศรษฐกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
“นงนุช บูรณะเศรษฐกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

 

ซึ่งนงนุช เปิดเผยในโอกาสพบปะกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกในการเปิดโรงงานและสายการผลิตใหม่ที่โรงงาน วังม่วง สระบุรีว่าการเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ตนไม่มีเจตนาเข้ามาเปลี่ยนการทำงานหรือกลยุทธิ์ที่ โออิชิดำเนินการมาก่อนหน้านี้ แต่เป็นการเข้ามาเพื่อสานต่อกลยุทธิ์เดิมซึ่งภาพรวมดีอยู่แล้ว ให้ไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าเดิม และยั่งยืน รวมทั้งภารกิจสำคัญในการผลักดันให้โออิชิก้าวขึ้นสู่ผู้นำทางด้านวัตกรรม ทั้งด้านสินค้าและแพ็คเกจจิ้ง

 
โดยก่อนหน้านี้โออิชิ ได้เปิดสายการผลิตไลน์ที่ 3 เพื่อซัพพร์อตการผลิตสินค้าและเครื่องดื่มใหม่ที่ใช้ Innovation โดยเฉพาะและเพื่อบรรลุเป้าหมายภารกิจดังกล่าว โออิชิตัดสินใจควักกระเป๋า กว่า 2,000 ล้าน เปิดตัวโรงงานโออิชิ วังม่วง และขยายสายการผลิตชาเขียวสุดทันสมัย CAF4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพด้านกำลังการผลิต รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตเครื่องดื่มให้หลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งในด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ และขนาดบรรจุภัณฑ์ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจและตอบสนองผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่ต้องการความทันสมัยและความแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา

 

 

“ในปีที่ผ่านมาธุรกิจเครื่องดื่มประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เติบโตทั้งในด้านรายได้และกำไร ขณะที่ในด้านภาพลักษณ์แบรนด์ ก็เติบโตขึ้นเช่นกัน ทั้งในด้าน การเป็นตราสินค้าที่เหมาะสำหรับฉัน (Brand for me), การเป็นตราสินค้าที่เหมาะสำหรับวัยรุ่น (Suitable brand for teens), การเป็นตราสินค้าที่สร้างความสนุกสนาน (Brand creating fun), การเป็นตราสินค้าที่มีความเท่ห์ เจ๋งและทันสมัย (Cool brand), การเป็นตราสินค้าที่ให้ความสดชื่น (Refreshing Brand)
ทั้งนี้ความสำเร็จที่ผ่านมาดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นในความสะอาด เทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัย และชื่นชอบในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของโออิชิโดยเฉพาะกลุ่มชาผลไม้ที่กำลังมาแรงอย่าง “โออิชิองุ่นเคียวโฮ” ที่เคยสร้างความฮือฮาในตลาดชาเขียวมาแล้ว และขึ้นแท่นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของโออิชิ

 

โออิชิ

 

ดังนั้นการตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค ด้วยเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัย โดยเฉพาะการเสริมทัพด้วยสายการผลิต CAF4 และศักยภาพของฝ่ายผลิต จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะสามารถสร้างความแข็งแกร่ง การเติบโต และความแตกต่าง พร้อมตอกย้ำจุดยืนความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของโออิชิ และเพื่อบรรลุเป้าหมายวิสัยทัศน์ 2020 ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ของกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจจำกัด (มหาชน)ให้มีสัดส่วน 50% ที่ถือโจทย์ใหญ่ที่ท้าทาย นั่นหมายความหลังจากนี้ โออิชิต้องออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของสุขภาพมากขึ้นให้สอดคล้องกับเทรนด์ของคนรุ่นใหม่และของโลก ที่หันมาใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น

 

 

ทางด้านดร.พิษณุ วิเชียรสรรค์ กรรมการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่ผ่านมา ปีนี้โออิชิจึงเร่งเครื่องเต็มสูบ ขยายสายการผลิตใหม่ CAF4 ที่โรงงานโออิชิ วังม่วง อย่างเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในการผลิตเครื่องดื่มปัจจุบัน และอยู่ใกล้โรงน้ำตาล และแหล่งน้ำซึ่งเป็น 2 วัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตเครื่องดื่มโออิชิ

 

 

โรงงานแหน่งนี้ทำให้สามารถเพิ่มศักยภาพด้านกำลังการผลิตโออิชิกรีนที รสออริจินอล ฮันนี่เลม่อน ลิ้นจี่แตงโม, โออิชิ ฟรุตโตะ และจับใจ ได้ถึง 600 ขวดต่อนาที คิดเป็น 100,000 ขวดต่อวันหรือ 360 ล้านขวดต่อปี ทั้งนี้เพื่อกระจายสินค้าไปยังตลาด CLMV อย่างครอบคลุมซึ่งเป็นตลาดที่โออิชิต้องการขยายเพื่อสร้างรายได้ 20% ในปีนี้ และเพิ่มเป็น 50% ในปี 2560 และภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ

 
จุดเด่นอีกประการของสายการผลิต CAF4 คือ มีเทคโนโลยี Blow – Aseptic Fill Block ที่สามารถสร้างสรรค์รูปทรงผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย สามารถผลิตขวดได้หลายขนาด ไม่จำกัดรูปทรง และเป็นการลดข้อจำกัดของแพ็คเกจจิ้งไม่ให้หยุดอยู่เพียงในรูปแบบขวดที่เราคุ้นชิน โดยมีการติดตั้งเครื่อง CAF ทั้งหมด 4 เครื่อง ในโรงงานวังม่วง2 เครื่อง และโรงงานนวนครอีก 2 เครื่อง

 

 
นอกจากนั้น ยังมีการใช้หุ่นยนต์ช่วยปฏิบัติงาน เพื่อความรวดเร็ว แม่นยำ สามารถบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด การใช้คนทำงานที่น้อยลง ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการ โดยสามารถลดจำนวนพนักงานได้มากถึง 900 คนจากปกติที่ต้องใช้รงงานคนในหลัก1,000 คนเหลือเพียง 105 คนเท่านั้น

 
และที่สำคัญโออิชิยังมีมาตรฐานการควบคุมกระบวนการผลิตอย่างเข้มงวดทุกขั้นตอน รวมถึงการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม โดยสามารถลดปริมาณการใช้พลาสติก ฉลาก ลังกระดาษ ได้ขั้นต่ำประมาณ 1,600 ตัน/ปี และลดการใช้พลังงานความร้อน ความเย็น แสงสว่าง และไฟฟ้าจากเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตลงรวม 1.5 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี หรือคำนวณเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงได้อย่างน้อย 1,691 ตัน/ปี

 


ทั้งนี้นวัตกรรมการผลิตและบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อ Cold Aseptic Filling หรือ CAF เป็นเทคโนยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในการผลิตเครื่องดื่มในปัจจุบัน ได้มาตรฐานระดับโลก ควบคุมความสะอาดได้เทียบเท่าห้องผ่าตัดในโรงพยาบาล ช่วยประหยัดพลังงานในการผลิต คงคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์ ลดต้นทุนจากวัตถุดิบ และช่วยลดปริมาณ การใช้พลาสติก อันเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน

 

 

ล่าสุดโออิชิก้าวขึ้นมาประกาศความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอีกครั้ง ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ในสายการผลิต CAF4 ได้แก่

 

(1) Extractor ใช้เทคโนโลยีระบบปิดที่มีโปรแกรมการสกัดที่หลากหลาย สามารถผลิตในระบบ Cold Extraction ที่เป็นการสกัดที่อุณหภูมิต่ำ เพื่อคงคุณค่าของสารต่าง ๆ และคงความสดใหม่ของใบชา หรือ วัตถุดิบต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

 

(2) Blow – Aseptic Fill Block หรือ Monoblock ซึ่งโรงงานโออิชิ วังม่วงเป็นโรงงานแรกที่ใช้ระบบนี้ เป็นนวัตกรรมที่สามารถเป่าขวดได้หลากหลายรูปแบบ ไม่จำกัดรูปทรง ทั้งยังสามารถฆ่าเชื้อขวดและบรรจุแบบปลอดเชื้อได้ในบรรจุภัณฑ์หลากหลายรูปทรงและหลากหลายขนาด และ

 

(3) Aseptic Room เป็น Double Clean Room สะอาดเทียบเท่าห้องผ่าตัด สามารถทำการบรรจุเครื่องดื่มได้ต่อเนื่องนานสูงสุดถึง 7 วัน